วันนี้ขอพูดเรื่องที่ไม่เกี่ยวข้องกับการเมืองบ้าง แต่ก็ไม่ใช่เรื่องเบาๆ และยังเป็นเรื่องหนักอกหนักใจของคนอีกหลายๆคน นั่นคือ ปัญหาโรคอ้วน ข่าวจากกระทรวงสาธารณ สุขเปิดเผยว่า ปัจจุบันประเทศไทยมีผู้ที่มีภาวะน้ำหนักเกินจนถึงระดับอ้วนมากกว่า 17 ล้านคน และในแต่ละปีคนไทยเป็นโรคอ้วนเพิ่มขึ้นร้อยละ 25 จากประชากรทั้งหมด โดยเสียชีวิตจากโรคอ้วนถึงปีละประ มาณ 20,000 คน ส่งผลให้รัฐต้องเสียค่าใช้จ่ายในการรักษาโรคอ้วนและโรคต่างๆที่เกี่ยว ข้องกับโรคอ้วนมากกว่าปีละ 100,000 ล้านบาท
          นั่นเป็นภาพรวมของคนที่มีปัญหาเรื่องอ้วน แต่หากดูข้อมูลให้ดีจะเห็นว่าแต่ละปีคนไทยเป็นโรคอ้วนเพิ่มขึ้นถึงร้อยละ 25 จากประชากรทั้งหมด นั่นหมายถึง 1 ใน 4 ของประ ชากรของประเทศจะเป็นโรคอ้วนเพิ่มขึ้นทุกปี
          ไม่เชื่อก็ต้องเชื่อ หากหันไปมองรอบตัวในปัจจุบันนี้จะเห็นคนส่วนใหญ่ที่มีรูปร่างค่อนข้างอวบไปจนถึงอ้วนมากขึ้น ร้านเสื้อผ้าก็จะเห็นมีขายเสื้อ ผ้าที่ติดป้ายว่าสำหรับคนอ้วนมากขึ้น จนทำให้ดูเหมือนว่าความอ้วนกลายเป็นเรื่องธรรม ดาของคนสมัยนี้ไปเสียแล้ว
          เชื่อว่าทุกคนทราบดีว่าความอ้วนเกิดจากอะไรบ้าง การ กินจุบกินจิบ การไม่ออกกำลังกาย เป็นสาเหตุหลัก แต่กระ นั้นแล้วแม้เราจะรู้สาเหตุ แต่คนอ้วนก็จะมีเหตุผลของการกระทำกิจกรรมเช่นนั้นต่อไป เช่น เลิกกินจุบกินจิบไม่ได้เพราะ หิว ไม่ชอบออกกำลังกายเพราะ เหนื่อย หายใจไม่ทัน เป็นต้น
          กระทรวงสาธารณสุขมีแนวคิดในการรณรงค์ให้คนอ้วนหันมาใส่ใจสุขภาพด้วยการจัดกิจกรรมรวมใจสลายพุงและให้ความรู้ในเรื่องที่เกี่ยวข้อง เพื่อลดจำนวนคนอ้วนในประ เทศไทย อย่างไรก็ตาม แนวคิดในการรณรงค์ของกระทรวงสาธารณสุขคงต้องทำให้เป็นรูปธรรมมากกว่านี้ รวมทั้งต้องจัดโครงการต่อเนื่องไปเรื่อยๆ อาจมีการนำผู้ที่ผ่านโครงการมาโฆษณาประชาสัมพันธ์ให้สังคมได้รับรู้ และสร้างแรงจูงใจให้คนอ้วนอื่นๆเข้าร่วมโครงการเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ
          แต่สำหรับคนที่เป็นโรคอ้วนอันเกิดจากความผิดปกติของเซลล์ในร่างกายนั้น คงไม่ได้อยู่ในข่ายนี้ ต้องพึ่งพาการผ่าตัด รักษาจากโรงพยาบาลต่อไป
          ตรงกันข้ามกับโรคอ้วนอีกโรคหนึ่งที่ผู้เขียนมองว่ากำลังจะเป็นปัญหาที่หลายคนมองข้ามไปคือ "โรคอด" ซึ่งมักเกิดขึ้นในกลุ่มเด็กวัยรุ่นจนถึงสาวน้อยสาวใหญ่
          คนกลุ่มนี้จะมีเหตุผลในการอดต่างๆกัน อดเพื่อให้ดูสวยงามเหมือนดารานางแบบ อดเพื่อให้ใส่เสื้อผ้าได้สวย อดเพื่อ... ฯลฯ ซึ่งขนาดเสื้อผ้าก็เป็นใจ เพราะมีขนาดเล็กกว่าไซซ์ s เป็น ss หรือ sss จนจะกลายเป็นเสื้อเด็กเล็กไปเสียแล้ว โดยเฉพาะอย่างยิ่งชุดนักศึกษาที่คับติ้วจนกระดุมแทบปริหากหายใจแรงเกินไป
          เคยได้ยินสาวๆบ่นว่าจะต้องไปงานต่างๆ แต่รู้สึกว่า ตัวเองอ้วนเกินไป กลัวจะ ใส่เสื้อผ้าไม่สวย หรือบางคนก็บ่นว่า ช่วงนี้รู้สึกเสื้อผ้าที่ใส่ เริ่มคับจึงคิดจะลดความอ้วนแบบด่วนด้วยการอดอาหาร เช่น การไม่รับประทานอาหารช่วงเย็น หรือวิธีต่างๆนานา ตามแบบดาราบ้าง คนดังอื่นๆบ้าง เพื่อให้ผอมได้อย่างรวด เร็วทันใจ
          การอดอาหารอาจทำให้ผอมได้ทันใจจริง แต่ขณะเดียว กันผู้ที่คิดจะอดอาหารได้มีการศึกษาหาความรู้กันหรือไม่ว่าผลข้างเคียงที่จะตามมาเป็นอย่าง ไร โยโย่เอฟเฟ็ค (Yo-Yo Effect) เป็นอย่างไร เคยเห็นคนอดอาหารแล้วกลายเป็นคนอ้วนหรือไม่ หรือมีตัวอย่างของผู้ที่อดอาหารแล้วเสียชีวิตหรือไม่ หากเป็นรุ่นผู้เขียนคงจะนึกถึงนักร้องหญิงวงคาร์เพนเตอร์ที่อดอาหารเพราะกลัวอ้วนตามสมัยนิยมจนกระทั่งเสียชีวิต มาแล้ว
          กระทรวงสาธารณสุขอาจต้องมีการสำรวจผู้ที่เป็นโรคอดเช่นเดียวกับโรคอ้วนด้วย เพราะโรคอดกำลังจะกลายเป็นปัญหาเช่นเดียวกับโรคอ้วนในไม่นานนี้ และอีกไม่นานประ เทศไทยจะมีคนเป็นโรค 2 โรคใหญ่คือ โรคอ้วนกับโรคอด โดย ขาดการออกกำลังกาย
          สำหรับสาวๆผู้รักความสวยความงาม ผู้เขียนขอแนะ นำว่าการออกกำลังกายเป็นสิ่งที่ดีที่สุด แม้อาจไม่ทำให้ผอม ลงอย่างใจคิด หากแต่จะช่วยทำให้มีสุขภาพแข็งแรงและน้ำหนักไม่เปลี่ยนแปลงขึ้นลงอย่างฮวบฮาบ รวมทั้งอารมณ์จะผ่องใสเบิกบาน ทำให้คนรอบข้างมีความสุขที่อยู่ใกล้
          ไม่ว่าจะอ้วนหรือผอม หาก ใส่ใจสุขภาพให้แข็งแรงย่อมเป็นการสร้างภูมิคุ้มกันตัวเองได้อย่างดี อาจไม่สวยเหมือนดารา นางแบบ แต่การมีจิตใจสดชื่น ผ่องใส จะทำให้ผู้พบ เห็นอยากพบปะพูดคุยมากกว่าการที่ผอมสวยเหมือนนางแบบ แต่หน้าตาไม่สดชื่นเพราะต้องอดอาหาร หนำซ้ำยังมีอารมณ์หงุดหงิด สุดท้ายอาจเกิดโรคภัยไข้เจ็บได้
          ลองสละเวลาวันละ 1-2 ชั่วโมงจากห้องทำงาน จากหน้า จอคอมพิวเตอร์ มาลองออกกำลังกายกันดูบ้าง ไม่ว่าจะเป็น การออกกำลังกายแบบใดก็ตาม แล้วจะรู้สึกว่า การได้เสียเหงื่อไปบ้างจะทำให้เราสดชื่นขึ้นได้อย่างประหลาด และมีพลังในการทำงานมากขึ้นด้วย
          ไปออกกำลังกายกันเถอะ ครับ จะได้ช่วยกระทรวงสา ธารณสุขลดงานลงด้วย