HISO - เรื่องเล่าข่าวเด่น

  
   Follow us      
  
พิมพ์ไทย [ วันที่ 27/05/2556 ]
กรมสุขภาพจิตแนะผู้ปกครองวิธีรับมือความเครียดช่วงเปิดเทอม

  เริ่มต้นย่างก้าวเข้าสู่ช่วงเปิดเทอมใหม่กันแล้ว ทั้งเด็กๆและพ่อแม่ผู้ปกครองก็ต้องปรับตัวกันอีกครั้ง หลังการปิดเทอมใหญ่ที่ได้หยุดยาวติดต่อกันมาหลายเดือน ปัญหาสำคัญที่พบว่ามักมากับช่วงเปิดภาคเทอมใหม่อยู่เสมอ ก็คือความเครียดของผู้เป็นพ่อแม่ ผู้ปกครองจากภาระค่าใช้จ่ายต่างๆโดยเฉพาะยุคข้าวยากหมากแพงแบบนี้ หลายท่านถึงกลับหัวหมุนเพราะอาจชักหน้าไม่ถึงหลัง จนส่งผลให้หลายครอบครัวเครียดถึงขั้น กินไม่ได้ นอนไม่หลับกันเลยทีเดียว
          พญ.พรรณพิมล วิปุลากร รองอธิบดีกรมสุขภาพจิต กล่าวว่า ในช่วงเปิดภาคเรียนใหม่นี้อาจมีหลายครอบครัวที่ประสบกับความเครียด เนื่องจากมีปัญหาด้านการเงินเพราะมีอันต้องใช้จ่ายไปกับค่าเสื้อผ้า ค่าเล่าเรียน ค่าอุปกรณ์การเรียนใหม่ของลูกๆ ยิ่งถ้าบุตรหลานต้องเปลี่ยนระดับชั้นเช่น ม.3 เข้า ม.4 หรือ ม.6 เข้าสู่รั้ว มหาวิทยาลัยค่าใช้จ่ายจะยิ่งสูงขึ้นไปอีกเท่าตัว เมื่อจำนวนเงินที่จ่ายไม่สมดุลกับรายรับความเครียดทั้งหมดจึงตกอยู่ที่คุณพ่อคุณแม่
          ดังนั้นอยากให้คุณพ่อคุณแม่ที่เป็นหัวหน้าครอบครัวเตรียมรับมือกับสถานการณ์ หากมีความตึงเครียดต้องรู้จักจัดการกับความเครียดด้วยตนเองซึ่งมีหลายวิธีด้วยกัน เช่น ฝึกการหายใจการหายใจเข้าลึกๆ เป็นการผ่อนคลายความเครียดที่ง่ายดาย และมีประโยชน์อย่างมากต่อร่างกาย รวมถึงเป็นการเติมออกซิเจนในเลือดที่ช่วยปลุกสมองให้ตื่นตัว ผ่อนคลายกล้ามเนื้อและทำให้จิตใจความคิดสงบ การฝึกหัดหายใจสามารถทำได้ทุกหนทุกแห่งและได้ผลอย่างรวดเร็วและสามารถคลายเครียดได้ในพริบตา  การผ่อนคลายกล้ามเนื้อ เริ่มด้วยการเกร็งกล้ามเนื้อทั้งหมดบนใบหน้า แยกเขี้ยวและยิ้มค้างไว้ 10 วินาทีแล้วผ่อนคลาย 10 วินาที ทำซ้ำกับกล้ามเนื้อคอ ตามด้วยไหล่ และกล้ามเนื้ออื่นๆ ซึ่งสามารถทำแบบนี้ได้ทุกที่ จะสามารถผ่อนคลายความตึงเครียดได้ง่ายกว่า เร็วกว่าในเวลาไม่กี่นาที โดยไม่ต้องมีการฝึกฝนหรือใช้เครื่องมือพิเศษใดๆ การออกกำลังกายจะช่วยหันเหความสนใจไปจากสถานการณ์อันตึงเครียดและทำให้ชื่นบานด้วยการหลั่งของเอ็นโดรฟิน
          การสร้างอารมณ์ขันให้กับตัวเองด้วยการหัวเราะโดยเฉพาะเมื่อเวลาเกิดความเครียด เพราะการหัวเราะจะช่วยลดความตึงเครียดได้เป็นอย่างดีหรือจัดเวลาสำหรับงานบันเทิงคุยเรื่องตลกหรือดูตลกร่วมกับคนในครอบครัวการนอนหลับพักผ่อนอย่างพอเพียงวันละ 7-8 ชั่วโมงจะทำให้ลดความเครียดและความวิตกกังวลได้ การฝึกทำสมาธิจะสามารถช่วยลดความ เครียดได้อย่างมหาศาลและต่อสู้กับปฏิกิริยาในแง่ลบจากความเครียดและช่วยให้รู้สึกผ่อนคลาย เมื่อเกิดปัญหาจะช่วยให้ควบคุมอารมณ์ได้ดี ซึ่งทั้งหมดนี้เป็นวิธีการจัดการกับความเครียดที่ทุกคนสามารถทำได้ด้วยตนเอง
          ที่สำคัญอย่าปล่อยให้ครอบครัวต้องจมอยู่กับความเครียด ควรรู้จักที่จะจัดการความเครียดให้ได้ไม่หงุดหงิดใส่กัน ไม่สร้างบรรยากาศตึงเครียดให้เพิ่มขึ้น สมาชิกในครอบครัวควรหาเวลาทำกิจกรรมร่วมกัน เช่น ทานข้าวร่วมกัน หันหน้าปรึกษากันอย่างตรงไปตรงมา เล่าสารทุกข์สุกดิบให้กันฟัง ซึ่งจะเป็นการสร้างความเข้าใจที่ถูกต้อง ลูกจะได้เข้าใจสถานะทางการเงินของครอบครัว ในเมื่อต่างฝ่ายต่างพูดภาษาเดียวกันย่อมหาหนทางออกได้ไม่ยากถ้าบ้านไหนที่เงินฝืดเคือง หมุนเงินไม่ทัน ลูกก็ต้องช่วยกันเป็นธุระเดินเรื่องให้พ่อแม่ เช่น ติดต่อครูที่ปรึกษาเพื่อแจ้งปัญหาทางการเงินของที่บ้าน ให้ครูช่วยขอทุนการศึกษาอย่ามัวน้อยอกน้อยใจหรืออับอายใครเขาเพราะพวกเขาช่วยแก้ปัญหาของเราไม่ได้ รองอธิบดีกรมสุขภาพจิต แนะนำเพิ่มเติมว่าการฝึกทำบัญชีรายรับรายจ่ายก็เป็นอีกแนวทางหนึ่งที่จะช่วยลดความตึงเครียดด้านภาระค่าใช้จ่ายให้กับครอบครัวได้ ดังนั้นแต่ละครอบครัวควรฝึกทำบัญชีรายรับรายจ่ายให้เป็นนิสัย จะได้มีการวางแผนการใช้เงินว่าจะต้องจ่ายในสิ่งใดเป็นอันดับแรก เพื่อจะได้ตัดทอนสิ่งที่ไม่จำเป็นออกไปเป็นการฝึกนิสัยให้รู้จักมัธยัส ไม่หรูหราฟุ่มเฟือยจนเกินกำลังเงิน
          "นอกจากนี้ในส่วนของเด็กๆพอถึงเวลาเปิดเทอมทีก็จะต้องมีการปรับตัว เด็กที่ปรับตัวไม่ได้จะมีความเครียด เนื่องจากเกิดความกังวลในหลายๆเรื่อง เช่น เด็กเล็ก จะกังวลเรื่องการปรับตัว ห่างพ่อแม่ กลัวการเข้าห้องน้ำเอง กลัวกินอาหารใหม่ๆกลัวเพื่อนแปลกหน้า หรือกลัวถูกครูดุ สำหรับวัยรุ่น ก็มักจะมีปัญหากังวลเรื่องการปรับตัวกับเพื่อนกลุ่มใหม่ ถูกเพื่อนปฏิเสธ หรือแม้กระทั่งวัยอุดมศึกษาก็เครียดและกังวลเรื่องการปรับตัวในการเปลี่ยนสถานที่เช่นเดียวกัน หลังจากปิดเทอมไปนานอาจยังคุ้นกับการอยู่บ้าน อยู่กับพ่อแม่ และยังไม่อยากไปโรงเรียน หรือมหาวิทยาลัย คุณพ่อคุณแม่คงต้องให้เวลาเด็กๆได้ปรับตัวหน่อยแรกๆเปิดเทอมก็อาจไปส่ง หรือใส่ใจเขามากขึ้น มีการพูดคุยกับลูกให้บ่อย เพื่อให้เขาได้กลับไปร่าเริงกับเพื่อนๆและการเรียนให้ได้เหมือนเดิม" รองอธิบดีกรมสุขภาพจิต กล่าวทิ้งท้าย


pageview  1205454    
สำนักงานพัฒนาระบบข้อมูลข่าวสารสุขภาพ Health Information System Development Office (HISO)
ห้อง A3 ชั้น 3 อาคาร 4Plus Buiding เลขที่ 56/22-24 ซอยงามวงศ์วาน 4 ต.บางเขน อ.เมือง จ.นนทบุรี 11000
Tel : 02-5892490-2 Fax : 02-5892493 www.healthinfo.in.th
 
© Health Information System Development Office (HISO) . All Rights Reserved