ใครที่มีสมุดธนาคาร คงรู้สึกได้ว่า การที่มีเงินฝากในธนาคารจำนวนมาก ทำให้เรารับรู้ได้ถึง ความมั่นคงปลอดภัยภายในใจ เราจะเฝ้ามองมันอย่างมีความสุข ใครที่ฝากเงินบ่อยก็จะเห็นเครื่องหมายบวกพร้อมกับตัวเลขที่พุ่งสูง จิตใจก็จะเบิกบานกว่าคนที่ถอนเงินบ่อยจนตัวเลขในบัญชีแทบจะติดลบ
          พญ.ปราณี เมืองน้อย  จิตแพทย์เด็กและวัยรุ่น สถาบันสุขภาพเด็กแห่งชาติมหาราชินี(รพ.เด็ก) กรมการแพทย์ กระทรวงสาธารณสุขกล่าวว่าไม่ว่าจะเป็นเด็กที่มาด้วยต้นทุนธนาคารมากหรือน้อย สิ่งที่จะทำให้เด็กเติบโตได้อย่างยั่งยืนคือ การที่ผู้เลี้ยงดูหมั่นบำรุงรักษา และมอบสิ่งดีๆที่มีคุณค่าทางใจให้แก่เด็ก ทำให้เด็กรับรู้ถึงความรักที่มีอย่างต่อเนื่องและความรักที่ไม่มีเงื่อนไข รักเขา ยอมรับเขาอย่างที่เขาเป็นในปัจจุบัน ไม่ว่าในอดีตเขาจะมีที่มาอย่างไร หรือจะเคยเป็นแบบใด แต่ปัจจุบันพ่อแม่ควรมองว่าเขาน่ารักอย่างที่เขาเป็นหมั่นฝากสิ่งดีๆ ที่จะทำให้เขาเก็บความทรงจำเหล่านั้นไว้ในธนาคารความรักของเขาตลอดไป
          พญ. ปราณี ยังกล่าวอีกว่า สำหรับเทคนิคการฝากหรือสิ่งที่ควรฝากในธนาคารความรัก ที่คุณพ่อคุณแม่ หรือสมาชิกในครอบครัวจะทำกับลูกนั้น  มีมากมายหลากหลายวิธี   ไม่ว่าจะเป็นการกอด การหอม การปรบมือหรือยกนิ้วแสดงการยอมรับ การชื่นชมเด็ก  การเขียนจดหมายหรือไปรษณียบัตรถึงกัน เขียนชมไว้บนโน้ตเล็กๆติดไว้หน้ากระจก หน้าประตูหน้อง การส่งข่าวสารสื่อความระลึกถึง สื่อความปรารถนาดีต่อกัน การดูแลเอาใจใส่กันและกัน   เรื่องเหล่านี้สามารถทำง่ายๆโดยไม่ต้องใช้เงิน
          แต่สิ่งสำคัญ กว่านั้น ในขณะเดียวกัน  คุณพ่อคุณแม่อย่าเผลอตัวทำยอดถอนบ่อยเกินไปเช่นกัน การทำยอดถอนมักมากับความคาดหวังของพ่อแม่ที่สูงเกินไป ทำให้กล่าวโทษลูกบ่อยๆ หรือการมองลูกด้านลบ วิพากษ์วิจารณ์จนไปทำลายความมั่นใจในตัวเองของลูก อาจพูดจนเร้าให้ลูกโกรธหากพ่อแม่ท่านใดขยันทำยอดถอนบ่อยๆ ก็เปรียบเสมือนการลดดอกเบี้ย    ดอกเบี้ยที่งอกเงยมาจากตัวลูก คือการที่ลูกเรามีความมั่นใจในตัวเองมั่นใจในความรักที่ผู้อื่นมีต่อตนเอง รักสิ่งดีๆของตนเอง เกิดความมั่นคงทางใจและสามารถเผื่อแผ่ความรักนั้นไปยังผู้อื่นได้อีก หากสังคมไทยเรามีคนแบบนี้มากๆ เชื่อว่าปัญหาความขัดแย้งและทะเลาะกันคงจะลดน้อยอย่างเห็นได้ชัด