ศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคติดต่อกล่าวยืนยันพบผู้เสียชีวิต 2 รายจากเชื้อไวรัสเวสต์ไนล์ ในเขตดัลลัส เคาน์ตี้ และเมืองเฟรสโน รัฐแคลิฟอร์เนียขณะที่ทั่วประเทศ นับตั้งแต่ต้นปีที่ผ่านมา พบผู้เสียชีวิตแล้ว 26 คน
          สำนักงานสาธารณสุขเขตเฟรสโน กล่าวว่าพบผู้เสียชีวิตเป็นหญิงสูงอายุซึ่งเข้ารับการรักษาตัว ซึ่งนับเป็นผู้เสียชีวิตรายที่สองของรัฐแคลิฟอร์เนีย โดยผู้อำนวยการศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคติดต่อ กล่าวเตือนให้ประชาชน โดยเฉพาะที่มีอายุ 50 ปี ขึ้นไป และคนที่มีอาการเจ็บป่วยเรื้อรัง ต้องติดตามสถานการณ์การแพร่ระบาดอย่างใกล้ชิด รวมถึงป้องกันตนเองและครอบครัวให้พ้นจากความเสี่ยงต่อการถูกยุงกัด อีกทั้งแนะนำให้ทำลายแหล่งน้ำขังเพื่อลดแหล่งเพาะพันธุ์ยุง
          ด้านเมืองดัลสัส ได้เริ่มปฏิบัติการกำจัดยุงเป็นครั้งที่สอง โดยนำเครื่องบินขนาดเล็กจำนวน 5 ลำ เพื่อฉีดพ่นสเปรย์ฆ่ายุงในพื้นที่กว่า 360,000 เอเคอร์ ในพื้นที่ที่พบผู้ป่วยและผู้เสียชีวิต นอกจากนั้น ยังได้มีการติดกับดักยุงไว้ทั่วบริเวณเมือง เพื่อทดสอบว่า สารฆ่าแมลงมีผลต่อประชากรยุงหรือไม่ ศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคติดต่อ รายงานว่า พบผู้ป่วยจากเชื้อไวรัสเวสต์ไนล์ทั่วประเทศใน 43 รัฐแล้วกว่า 693 ราย ซึ่งส่วนใหญ่อยู่ในรัฐเท็กซัส และในรัฐโอกลาโฮมา บริเวณเขตแดนที่ติดกับรัฐเท็กซัส ซึ่งพบการเจ็บป่วยกว่า 100 กรณี และมีผู้เสียชีวิต 3 คน
          ตามข้อมูลของศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคติดต่อ พบว่า มากกว่าร้อยละ20 ของผู้ติดเชื้อไวรัส มีอาการเจ็บป่วยไม่มากนัก อาทิ มีไข้ ปวดศีรษะ กล้ามเนื้ออ่อนแรง คลื่นเหียนอาเจียน และอาจพัฒนาไปสู่อาการต่อมน้ำเหลืองโต มีผื่นบริเวณไหล่ หลัง หรือท้อง อาการดังกล่าวอาจเกิดขึ้นเป็นเวลา 2-3 วัน และแม้แต่ผู้ที่มีสุขภาพดี อาการป่วยก็อาจนานถึงหนึ่งสัปดาห์