ผู้ช่วยศาสตราจารย์สุชาติ เกียรติวัฒนเจริญ คณะเทคนิค การแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ (มช.) ผู้ช่วยศาสตราจารย์ศุภชัย ชัยสวัสดิ์ คณะแพทยศาสตร์ และ ดร.ทิพวรรณ ประภามณฑล นักวิจัยจากสถาบันวิจัยวิทยาศาสตร์สุขภาพ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ โชว์ผลงาน การประดิษฐ์ "เครื่องวัดปริมาณฝุ่นละอองขนาดเล็กในอากาศชนิดแสดงผลทันที" ซึ่งได้รับรางวัลผลงานประดิษฐ์คิดค้น ประจำปี 2556  พร้อมรางวัลประกาศเกียรติคุณสาขาวิทยาศาสตร์กายภาพและคณิตศาสตร์
          ผู้ช่วยศาสตราจารย์สุชาติ เปิดเผยว่า เครื่องวัดปริมาณฝุ่นละอองขนาดเล็กในอากาศชนิดแสดงผลทันที ได้แนวคิดจากการศึกษาวิจัย ซึ่งพบว่า ปริมาณฝุ่นหมอกควัน ในพื้นที่นอกเมืองจะสูงกว่าปริมาณฝุ่นหมอกควันในพื้นที่ในเมือง 2-3 เท่า เนื่องจากเป็นแหล่งเกิดปัญหาหมอกควันไฟป่าที่แท้จริง นอกจากนี้ ยังเพิ่มความเสี่ยงของการเกิดโรคทางเดินหายใจ โรคหลอดเลือดและหัวใจ ตลอดจนโรคอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง มากกว่าปกติถึง 13 เท่า ทำให้คณะนักวิจัยมีแนวคิดประดิษฐ์ เครื่องวัดปริมาณฝุ่นละอองขนาดเล็กในอากาศชนิดแสดงผลทันที เพื่อนำไปติดตั้งตามชุมชนต่างๆ และแสดงให้เห็นถึงปริมาณฝุ่นละอองขนาดเล็กจากหมอกควันที่ชาวบ้านจะได้รับ เพื่อกระตุ้นจิตสำนึกให้ลดการเผาลง
          สำหรับเครื่องวัดปริมาณฝุ่นละอองขนาดเล็กในอากาศชนิดแสดงผลทันที มีประสิทธิภาพ เทียบเท่ากับเครื่องมือจากต่างประเทศ และยังมีราคาถูกกว่า 3-4 เท่า อีกทั้งมีหน้าจอแสดงผลขนาดใหญ่แสดงค่าปริมาณฝุ่นละอองในอากาศ และค่าอุณหภูมิในอากาศ ช่วยให้ชาวบ้านเห็นอย่างชัดเจนในที่สาธารณะ ซึ่งจะช่วยให้ชาวบ้านเกิดความตระหนักและติดตามการเปลี่ยนแปลงของสภาพอากาศในท้องถิ่นได้ตลอดเวลา นอกจากนี้ ผู้วิจัยยังได้พัฒนาต่อเชื่อมข้อมูลในระบบอินเตอร์เนตของแต่ละพื้นที่ เพื่อให้ผู้บริหารท้องถิ่นได้ติดตามปัญหาหมอกควัน และ ใช้ประโยชน์จากข้อมูล เพื่อวางแผนการแก้ปัญหาหมอกควันร่วมกันได้ทันที
          นอกจากนี้คณะนักวิจัยยังมีแนวคิดที่จะนำเครื่องวัดปริมาณฝุ่นละอองขนาดเล็กที่พัฒนาขึ้นนี้ ไปติดตั้งในทุก อำเภอของ 8 จังหวัดภาคเหนือตอนบน เชื่อมโยงเป็นโครงข่าย คอมพิวเตอร์ อันได้แก่ จ.เชียงใหม่ เชียงราย ลำพูน ลำปาง พะเยา แพร่ น่าน และ จ.แม่ฮ่องสอน เพื่อเป็นอีกหนึ่งหนทางในการแก้ไขปัญหาอย่างเป็นระบบร่วมกัน  ด้วยการใช้ข้อมูลทางวิทยาศาสตร์ และเครื่องมือที่พัฒนาขึ้นในประเทศ เป็นการติดตามและร่วมกันแก้ปัญหาหมอกควันให้ลดลง เพื่อคุณภาพชีวิตและสุขภาพที่ดีของคนไทยต่อไป