|
|
|
หนังสือพิมพ์แนวหน้า [ วันที่ 01/03/2556 ] |
|
|
|
|
สธ.พัฒนาระบบบริการปฐมภูมิหมื่นแห่งรักษาผู้ป่วยใกล้บ้าน-ลดแออัดในรพ.ใหญ่ |
|
|
|
|
นพ.ณรงค์ สหเมธาพัฒน์ ปลัดกระทรวงสาธารณสุข เปิดเผยว่า กระทรวงสาธารณสุข (สธ.) มีนโยบายพัฒนาระบบบริการทุกระดับทั้งเขตเมืองและชนบทให้เพียงพอ ทั้งด้าน จำนวนสถานที่ บุคลากรและเครื่องมืออุปกรณ์การแพทย์ ที่จำเป็น เพื่อให้ประชาชนได้รับบริการอย่างมีคุณภาพมากขึ้น โดยจัดทำแผนการจัดระบบบริการสุขภาพ (Service Plan) ระยะเวลา 5 ปี ระหว่างปีงบประมาณ 2555-2559 เน้นพัฒนา 3 ระดับ คือ ระดับพื้นฐานหรือปฐมภูมิในชุมชนเมือง ชุมชนหนาแน่น ระดับความเชี่ยวชาญระดับสูง และระดับเครือข่ายบริการร่วมกัน โดยนำระบบการบริหารแบบเขตสุขภาพมาใช้ รวมทั้งหมด 12 เขตทั่วประเทศ จะทำให้ประชาชนได้รับบริการใกล้บ้าน มาตรฐานเดียวกันทุกพื้นที่
นพ.ณรงค์ กล่าวว่า สำหรับระดับบริการปฐมภูมิจัดว่ามีความสำคัญต่อระบบการสาธารณสุขมาก งานจะเน้นหนัก การสร้างเสริมสุขภาพ ป้องกันโรค ลดการเจ็บป่วยประชาชน ทุกกลุ่มวัย และตรวจรักษาผู้เจ็บป่วยทั่วไปที่อาการไม่รุนแรง ไม่จำเป็นต้องไปโรงพยาบาลใหญ่ ซึ่งจะสามารถลดความแออัด ลดรายจ่ายค่าเดินทางไปโรงพยาบาลของประชาชนลงได้ปีละประมาณ 16,000 ล้านบาท ตั้งเป้าพัฒนาสถานบริการระดับนี้ 10,174 แห่ง กระจาย 3 พื้นที่ คือ ชุมชนเมือง ชุมชนหนาแน่นในเขตอำเภอเมือง ได้ตั้งศูนย์สุขภาพชุมชน 226 แห่ง ในเขตชนบทมีโรงพยาบาล ส่งเสริมสุขภาพตำบล (รพ.สต.) 9,750 แห่ง ในพื้นที่สูง ป่าเขา ทุรกันดาร มีศูนย์สาธารณสุขชุมชน 198 แห่ง ให้บริการใกล้บ้าน ใกล้ใจ เป็นการเพิ่มจุดตรวจรักษาผู้ป่วยทั่วไปและผู้ป่วยโรคเรื้อรังที่มีอาการไม่รุนแรง มีบุคลากรทางการแพทย์ อาทิ แพทย์ ทันตแพทย์ พยาบาล แพทย์แผนไทย ทันตาภิบาล ทั้งอยู่ประจำและหมุนเวียนออกไปให้บริการ มีอุปกรณ์การแพทย์ที่จำเป็น และใช้ระบบไอทีเชื่อมโยงการรักษากับโรงพยาบาลใหญ่ |
| | |
|
| |