ศ.ดร.นพ.วิทยา นาควัชระ(จิตแพทย์)
ผมเชื่อว่าความสุขเป็นนิสัยอย่างหนึ่งของมนุษย์
คนที่มีนิสัยความสุข จะคิดดี คิดเป็น เลือกทำในสิ่งที่เหมาะสมได้
ถ้าใครคิดไม่ดี คิดไม่เป็น ก็จะไม่มีความสุข ก็คือเป็นคนที่มีนิสัยของความทุกข์
ฉะนั้นถ้าใครอยากมีความสุขก็ต้องฝึกนิสัยให้มีความสุขให้ได้ ถ้าไม่ฝึก ได้แค่อ่านหรือรู้วิธีเฉยๆ ก็ไม่มีความสุขหรอก
ทุกวันนี้ถ้าสังเกตให้ดีจะเห็นว่าคนที่เก่ง มากๆ ประสบความสำเร็จสูงๆ มักจะเป็นคนไม่ค่อย มีความสุขนัก จนแลดูเหมือนความสุขจะเดินสวนทาง กับความสำเร็จ
คนที่มีความสำเร็จขั้นหนึ่งแล้ว มักจะ "ติดกับ" และหลงมุ่งหาความสำเร็จขั้นต่อๆ ไป เพื่อให้เกิดความเพลิดเพลินมากขึ้น ซึ่งได้เท่าไรก็ไม่เคยพอ มีเงินพันล้าน ต้องการหมื่นล้าน มีหมื่นล้าน ก็ต้องการมากขึ้นไปอีก
แลดูว่าคนประสบความสำเร็จเป็นคนฉลาดในเรื่องการงาน แต่จะขาดปัญญาที่จะคิดหาความสุข ใส่ตัว
ความสุขนั้นเป็นความพอใจและภูมิใจในความมีค่าของตนตามความเป็นจริง สามารถมีส่วนร่วมและมีความสัมพันธ์ที่ดีกับเพื่อนมนุษย์อื่นๆ ได้ดี มองโลกและคนอื่น ในแง่ดี มีความหวังและความคิดที่ดีๆ เสมอ ไม่ว่าข้อมูลหรือ เหตุการณ์ ข้อเท็จจริง ในขณะนั้นจะเป็นอย่างไร
ความสุขจึงไม่ได้มาจากเงินแต่ความสุขเป็นวิธีคิดเกี่ยวกับชีวิตตัวเองที่เหมาะสม และเป็นนิสัยที่ดีของแต่ละคน
คนที่คิดไม่ดี นิสัยไม่ดี มักไม่มีความสุข แม้จะรวยล้นฟ้า
มีข้อแนะนำเกี่ยวกับเรื่องความสุขมากมาย ซึ่งก็คือ การฝึกนิสัยให้มีความสุข เช่น การฝึกมองโลกในด้านดี ออกกำลังกายให้ร่างกายแข็งแรง สร้างความสัมพันธ์ที่ดีๆ กับเพื่อน รู้จักให้ความรัก มีความรัก ถนอมความรัก ให้อภัย มีศรัทธาในศาสนาและปรัชญา ชีวิตที่ดีๆ ลงมือทำในสิ่งที่ตัวเองรัก ประยุกต์การทำงานให้เข้ากับความถนัดของตน บริหารเวลา งาน และเงินได้ ฯลฯ
ที่กล่าวมานี้เป็นแนวทางของความสุขแบบทางโลก
ถ้าเป็นแนวชาวพุทธก็ต้องรู้จักปล่อยวาง โดยให้เข้าใจและยอมรับในความเป็นจริงของชีวิต คือ อนิจจัง และอนัตตา จะได้ไม่ไปยึดมั่นสิ่งต่างๆ ที่ได้สัมผัสหรือเกิดขึ้น ถ้าปล่อยวางได้มากๆ ก็จะไปนิพพานได้ ซึ่งถือว่าเป็นความสุขสูงสุด
มีคนเขียนถึงเรื่องความสุขกันมาก แต่คนจะทำได้มากน้อยแค่ไหนนั้น อยู่ที่ "ปัญญา" และการฝึกฝนตนเองของแต่ละคนที่ไม่เท่ากัน
อยากให้ทุกๆ คนนึกถึงความสุขและมีความสุขมากขึ้น แทนที่จะนึกถึงแต่ความสำเร็จที่จะทำให้เครียดมากขึ้นครับ
