โรคความดันโลหิตสูงมักเป็นกันโดยไม่รู้ตัว ตรวจพบ ได้ง่าย รักษาไม่ยาก แต่คนส่วนใหญ่มักละเลย หรือเข้าใจผิด ต่อโรค ดังนั้น เรามาทำความรู้จักต่อโรคนี้ให้ดียิ่งขึ้นกันค่ะ
          โดยปกติโรคความดันโลหิตสูงมักเกิดขึ้นกับผู้ชายมากกว่าผู้หญิง ซึ่งส่วนใหญ่ไม่ทราบสาเหตุ อาจมีทางพันธุกรรม ประกอบกับความเสื่อมของหลอดเลือด ตามอายุที่มากขึ้น โดยเฉพาะผู้ป่วยที่เป็นโรคเบาหวาน มีไขมันในเลือดสูง, อ้วนลงพุง กลุ่มเหล่านี้จะมีภาวะความดันโลหิตสูงมากกว่า คนปกติ คนทั่วไปจะมีความดันโลหิตอยู่ที่ 120/80 หากมีความดันโลหิตที่ 140/90 ถือว่าอยู่ในระดับสูงเกินเกณฑ์ค่ะ
          เนื่องจากโรคนี้เกิดจากภาวะเส้นเลือดเสื่อมขึ้นตามวัย อาจมีอาการมึนศีรษะ ปวดศีรษะ ตาพร่ามัว เหนื่อยง่าย แต่ส่วนใหญ่ผู้ที่มีภาวะเริ่มแรกมักไม่แสดงอาการให้เห็นชัด ดังนั้นคนที่มีอายุ 30 ปีขึ้นไป ควรเริ่มตรวจคัดกรองวัดภาวะความดันโลหิตสูงอย่างน้อย 6 เดือนครั้ง หรือปีละ 1 ครั้ง ออกกำลังกายสม่ำเสมอ และหลีกเลี่ยงปัจจัยเสี่ยงต่างๆ เช่น ความอ้วน, บุหรี่, ความเครียด, การไม่รับประทานอาหารไขมันสูงก็เป็นการป้องกันไม่ให้ความดันสูงได้ดีสำหรับความเปลี่ยนแปลงความดันโลหิต แบ่งออกเป็น 2 กลุ่ม คือ กลุ่มที่พบบ่อย คือ ไม่ทราบสาเหตุที่ชัดเจน อาจเกิดจากความเสื่อมของร่างกายหรืออายุที่เพิ่มมากขึ้น โดยทั่วไปผู้ป่วยที่มีอายุ 40-50 ปี จะมีเรื่องพันธุกรรม ความเสื่อมของเส้นเลือด ความยืดหยุ่นของเส้นเลือดที่เสียไป มาเป็นปัจจัยที่เกี่ยวข้อง รวมทั้งขาดการออกกำลังกายสม่ำเสมอ, สูบบุหรี่, ภาวะอ้วนเกินมาตรฐาน ชอบรับประทานอาหารไขมันสูง และมีความเครียดเป็นประจำ
          อีกกลุ่มคือ กลุ่มที่มีสาเหตุ ได้แก่ เส้นเลือดตีบ แคบ โรคไต หรือฮอร์โมนบางอย่างในร่างกายทำงานผิดปกติทำให้เกิดภาวะความดันโลหิตสูงได้
          อย่างไรก็ตาม เมื่อมีอาการเริ่มแรก หากกินยาไป สักพักจนควบคุมระดับความดันโลหิตได้ แล้วก็ควรกินยาอย่าง ต่อเนื่อง เพื่อป้องกันภาวะที่อาจทำให้เกิดอัมพฤกษ์ อัมพาต และโรคหัวใจตามมาได้ ควรปรับพฤติกรรม การควบคุมน้ำหนัก และพบแพทย์เป็นประจำเพื่อติดตามผลการรักษา เพราะหากปล่อยให้ความดันโลหิตสูงขึ้นเรื่อยๆ อาจทำให้เกิดโรคต่างๆ ดังกล่าวตามมาได้ในที่สุด
          สนับสนุนโดยนพ.สัมพัน ธนกิจจำรูญ แพทย์ผู้เชี่ยวชาญ ศูนย์ตรวจสุขภาพโรงพยาบาลบางปะกอก 9 อินเตอร์เนชั่นแนล  โทร. 1745 www.bangpakokhospital.com