HISO - เรื่องเล่าข่าวเด่น

  
   Follow us      
  
หนังสือพิมพ์แนวหน้า [ วันที่ 29/06/2555 ]
'สธ.' เผยวัคซีนในไทยปลอดภัยสูง พบอาการข้างเคียงแต่ไม่รุนแรง ตามเกณฑ์มาตรฐานแต่ละชนิด

 นพ.ไพจิตร์ วราชิต ปลัดกระทรวงสาธารณสุข เปิดการประชุมเชิงปฏิบัติการคณะกรรมการสอบสวนอาการภายหลังได้รับการสร้างเสริมภูมิคุ้มกันโรคระดับเขต เพื่อพัฒนาทักษะการเฝ้าระวังอาการ ข้างเคียงหลังจากฉีดวัคซีนป้องกันโรค เพิ่มความเชื่อมั่นในคุณภาพความปลอดภัยของวัคซีนแก่ประชาชน ซึ่งจะส่งผลให้ระบบการป้องกันโรคของไทยเข้มแข็งขึ้น
          นพ.ไพจิตร์ กล่าวว่า กระทรวงสาธารณสุข (สธ.) มีนโยบาย การสร้างเสริมภูมิคุ้มกันโรคในโรคที่สามารถป้องกันได้ด้วยวัคซีนให้กับประชาชน ตั้งแต่แรกเกิดและตามช่วงอายุ เนื่องจากการให้วัคซีนเป็นวิธีการที่มีประสิทธิภาพอย่างหนึ่งในการป้องกันโรคและเป็นที่ยอมรับกันทั่วโลก ล่าสุด การระบาดของโรคไข้หวัดใหญ่ 2009 (Influenza H1N1) ที่รุนแรงและแพร่กระจายอย่างรวดเร็ว องค์การอนามัยโลกและประเทศต่างๆ ได้นำวัคซีนมาใช้เพื่อป้องกันการระบาด ปัจจุบันได้พัฒนาจนถือว่ามีความปลอดภัยสูง ทั้งนี้ เด็กแรกเกิดถึงอายุ 12 ปีของไทย จะต้องฉีดวัคซีนพื้นฐาน 10 ชนิดป้องกันโรครวมทั้งหมด 14 ครั้ง เช่น วัคซีนป้องกันโรคคอตีบ ไอกรน บาดทะยัก โรคคางทูม โรคหัด โรคหัดเยอรมัน ไม่รวมวัคซีนตามฤดูกาล หรือวัคซีนอื่นเพิ่มเติม
          อย่างไรก็ตาม ยังอาจเกิดอาการไม่พึงประสงค์ภายหลังได้รับ วัคซีนแต่ละชนิดได้ ในการป้องกันปัญหาและสร้างความเชื่อมั่น ต่อวัคซีน ทางสธ. จึงได้ตั้งทีมเฝ้าระวังสอบสวนโรคเคลื่อนที่เร็ว ทุกจังหวัดซึ่งมีประมาณ 1,200 ทีม ติดตาม ความปลอดภัยของวัคซีน และตั้งคณะกรรมการ สอบสวนอาการภายหลังได้รับวัคซีนระดับเขตอีก 18 เขต เพื่อกำกับติดตามความปลอดภัยด้านวัคซีนและการให้บริการที่ปลอดภัย ประเมินสาเหตุเบื้องต้นของอาการข้างเคียงที่เกิดขึ้นว่าเกี่ยวข้องกับวัคซีนหรือไม่ ซึ่งระบบของไทยเป็น 1 ใน 4 ประเทศในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ หรือ เซียโร่ (SEARO) ซึ่งมี 10 ประเทศ ที่ผ่านการรับรองมาตรฐาน จากองค์การอนามัยโลก
          ทั้งนี้ ผลการดำเนินการเฝ้าระวังในปี 2554 สำนักระบาดวิทยา ได้รับรายงานอาการภายหลังได้รับการสร้างเสริมภูมิคุ้มกันโรคจาก 72 จังหวัด ทั้งหมด 788 ราย โดยพบมากสุดในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ รองลงมาได้แก่ ภาคเหนือ ภาคกลาง และ ภาคใต้ จากการสอบสวนผู้รับวัคซีน พบว่า ส่วนใหญ่ประมาณร้อยละ 81 มีอาการไม่รุนแรง ซึ่งเกิดจากปฏิกิริยาของวัคซีน อาทิ อาการปวด บวมแดง อาการมักจะดีขึ้นและหายเป็นปกติได้ภายใน 1-3 วัน มีรายงานเสียชีวิต 14 ราย จากการสอบสวนของคณะกรรมการ พบว่า ไม่มีความเกี่ยวข้องกับการรับวัคซีนแต่อย่างใด ส่วนอาการร้ายแรง ได้แก่ อาการชัก การแพ้รุนแรง จะพบได้น้อยมากโดยสังเกตอาการอย่างใกล้ชิดหลังฉีดวัคซีนภายใน 30 นาที หรือได้รับการดูแลรักษา ที่ดีอย่างทันท่วงที เมื่อมีอาการเกิดขึ้นโดยผลข้างเคียงที่เกิดขึ้น ไม่เกินเกณฑ์มาตรฐานของวัคซีนแต่ละชนิด จึงสามารถกล่าวได้ว่า วัคซีนที่ใช้ในประเทศไทยมีความปลอดภัยสูง
 


pageview  1205837    
สำนักงานพัฒนาระบบข้อมูลข่าวสารสุขภาพ Health Information System Development Office (HISO)
ห้อง A3 ชั้น 3 อาคาร 4Plus Buiding เลขที่ 56/22-24 ซอยงามวงศ์วาน 4 ต.บางเขน อ.เมือง จ.นนทบุรี 11000
Tel : 02-5892490-2 Fax : 02-5892493 www.healthinfo.in.th
 
© Health Information System Development Office (HISO) . All Rights Reserved