เมื่อวันที่ 26 มิ.ย. ที่กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ นพ.บุญชัย สมบูรณ์สุข อธิบดีกรมวิทยาศาสตร์ การแพทย์ แถลงถึง "การประชุมสัมมนาวิชาการธาลัสซีเมียแห่งชาติ ครั้งที่ 18 ประจำปี 2555" ในวันที่ 11-13 ก.ค. 2555 ว่า ปัจจุบันคนไทยป่วยเป็นโรคโลหิตจางธาลัสซีเมียราว 6 แสนคน โดยมี ผู้ที่เป็นพาหะราว 18-24 ล้านคน ในแต่ละปีมีมารดา ที่เสี่ยงต่อการมีบุตรเป็นโรคนี้ 5 หมื่นครรภ์ และมี เด็กเกิดใหม่เป็นโรคธาลัสซีเมียเพิ่มขึ้นถึง 12,125 คน ซึ่งต้องเสียค่าใช้จ่ายการรักษาประมาณ 5-6 พันล้านบาท ต่อปี หากไม่มีการป้องกันก็จะมีผู้ป่วยโรคธาลัสซีเมีย เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ
          ศ.นพ.สุทัศน์ ฟู่เจริญ กรรมการมูลนิธิโรค โลหิตจางธาลัสซีเมียแห่งประเทศไทย กล่าวว่า ทางที่ดีที่สุดต้องเน้นป้องกันโดยการตรวจหาพาหะ หากพบว่าเป็นก็ควรมีการตรวจในคู่สมรส เพื่อดูความเสี่ยงว่าลูกจะมีโอกาสป่วยหรือไม่หากพ่อหรือแม่เป็นพาหะเพียงคนเดียว โอกาสลูกจะเป็นพาหะเท่ากับ 2 ใน 4 แต่จะไม่เป็นโรค หากพ่อและแม่เป็นพาหะธาลัสซีเมียชนิดเดียวกัน โอกาสที่ลูกจะเป็นโรคธาลัสซีเมียเท่ากับ 1 ใน 4 โอกาสที่จะเป็นพาหะเท่ากับ 2 ใน 4 และปกติอีก 1 ใน 4
          นพ.สมชาย แสงกิจพร ผอ.สถาบันวิจัยวิทยาศาสตร์สาธารณสุข กรมวิทยาศาสตร์ฯ กล่าวว่า ที่ผ่านมาในสิทธิหลักประกันสุขภาพถ้วนหน้า หรือบัตรทอง ไม่ได้กำหนดให้มีการตรวจในเด็ก แต่จะกำหนดเพียงให้หญิงตั้งครรภ์ตรวจหาพาหะฟรี หากพบเป็นพาหะ ก็จะตรวจสามี และหากพบเป็นอีกก็จะต้องตรวจทารกในครรภ์ หากพบว่าป่วยด้วยโรคนี้ ก็ต้องมีการตั้งคณะกรรมการขึ้น เพื่อพิจารณาว่าต้องยุติการตั้งครรภ์หรือไม่ แต่ทั้งหมดก็อยู่ที่การตัดสินใจ บางรายต้องการมีบุตรมาก ก็ต้องทำการรักษากันต่อไป โดยการรักษาสามารถเบิกได้บ้างในสิทธิบัตรทอง แต่ไม่ทั้งหมด