HISO - เรื่องเล่าข่าวเด่น

  
   Follow us      
  
หนังสือพิมพ์แนวหน้า [ วันที่ 11/06/2555 ]
น้ำป่าถล่มจ.แพร่ รางรถไฟขาดซ้ำอีก อุตรดิตถ์3ตำบลยังอ่วม"ตาปี"เอ่อท่วมสุราฎร์

 เมื่อเวลา 4.00 น. วันที่ 10 มิถุนายน ผู้สื่อข่าวรายงานว่า น้ำป่าจากห้วยหก ห้วยหนองหอย ต.บ้านปิน อ.ลอง จ.แพร่ ได้ไหลบ่าเข้าท่วมเขตเทศบาลบ้านปิน โดยเฉพาะในชุมชนระดับน้ำท่วมสูงถึง 1 เมตรสร้างความเสียหายแก่ชาวบ้านนับ 100 หลังคาเรือน
          รวมทั้งยังทำให้ทางรถไฟช่วงหมู่ 5 ต.บ้านปิน ได้รับความเสียหาย รางรถไฟขาด จนรถสายเหนือ กรุงเทพฯ-เชียงใหม่ ไม่สามารถใช้การได้ต้องหยุดเดินรถตั้งแต่ 4.00 น. โดยครั้งนี้เป็นครั้งที่ 2 หลังจากเส้นทางรถไฟช่วง อ.เด่นชัย ขาดเมื่อวันที่ 8 มิถุนายนที่ผ่านมา
          อ.ลองน้ำท่วมสูงอีก1.5เมตร
          นอกจากนี้ น้ำป่ายังได้ไหลเข้าท่วม หมู่ 1 หมู่ 2 หมู่ 3 หมู่ 7 หมู่ 8 และหมู่ 10 ต.หัวทุ่ง อ.ลอง จ.แพร่ ระดับน้ำ สูงถึง 1.50 เมตร และยังทำให้พืชผลทางการเกษตร นาข้าวและไร่ข้าวโพด ได้รับความเสียหายนับ 1,000 ไร่
          ทั้งนี้ ขณะเกิดเหตุทางการได้เข้าควบคุมสถานการณ์ช่วยเหลือประชาชนที่ประสบภัย แต่เหตุการณ์ครั้งนี้ทำให้หลายครอบครัวต้องอพยพมานอนที่ศาลาวัด เนื่องจากภายในบ้านไม่สามารถหลับนอนได้เนื่องจากระดับน้ำสูงมาก
          บ้าน400หลังคาจมบาดาล
          นายสมคิด ผานุการณ์ หัวหน้าสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย จ.แพร่ เปิดเผยว่า จากการสำรวจความ เสียหายเบื้องต้นมีบ้านเรือนประชาชนได้รับ ความเสียหายประมาณ 400 หลังคาเรือน ขณะนี้หน่วยงานในพื้นที่ทั้งองค์กรปกครอง ส่วนท้องถิ่น และอำเภอได้ส่งเจ้าหน้าที่ไปให้การช่วยเหลือประชาชนที่ได้รับความ เดือดร้อนแล้ว โชคดีไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บ หรือ เสียชีวิตจากเหตุน้ำป่าไหลหลากในครั้งนี้
          ส่วนสถานการณ์ล่าสุดน้ำป่าที่ไหลหลากมาท่วมในพื้นที่ได้ลดระดับลงจนกลับเข้าสู่ภาวะปกติ สำหรับสาเหตุที่ทำให้เกิดน้ำป่าไหลหลากแม้ในพื้นที่จะมี ฝนตกลงมาในปริมาณไม่มาก เพราะฝนที่ตก สะสมเป็นเวลานานทำให้ดินอุ้มน้ำไว้มากจนชุ่ม
          รถไฟเปิดเดินรถปกติแล้ว
          ล่าสุด นายสมเดช ยุพิน นายสถานี รถไฟเด่นชัย อ.เด่นชัย จ.แพร่ เปิดเผยว่า การรถไฟแห่งประเทศไทย (ร.ฟ.ท.) ได้ส่งเจ้าหน้าที่มาซ่อมแซมรางรถไฟที่เสียหายจากเหตุน้ำป่าไหลหลาก ซึ่งได้ซัดเอาหินที่รองรางรถไฟไหลไปตามน้ำจนรางทรุดตัว เจ้าหน้าที่ได้ลำเลียงหินมาเสริมใหม่และได้เปิดเส้นทางได้แล้วเมื่อเวลา 9.40 น. วันที่ 10 มิถุนายน
          ส่วนผู้โดยสารที่เดินทางมากับ ขบวนรถเส้นทางกรุงเทพฯ-เชียงใหม่ ร.ฟ.ท.ได้นำรถโดยสารจำนวน 11 คัน เพื่อลำเลียงผู้โดยสารที่ตกค้างประมาณ 500 คน เดินทางจากสถานีรถไฟ อ.เด่นชัย ไปยังจุดหมายปลายทางที่ จ.ลำปาง ลำพูน และเชียงใหม่ ตั้งแต่เวลา 8.15 น. เรียบร้อยแล้ว
          สวดรัฐไม่แก้ปัญหาทำท่วมซ้ำ
          จ.ส.ต.นคร กาศมณี อายุ 54 ปี อยู่บ้านเลขที่ 48/7 หมู่ 5 ต.บ้านปิน อ.ลอง กล่าวว่า ปัญหาน้ำท่วมเกิดขึ้นทุกปี แต่ปีนี้มาเร็วและแรงกว่าทุกปีที่ผ่านมา สร้างความเดือดร้อนอย่างมาก ซึ่งหลังจากนี้ ทางการก็จะแก้ปัญหาด้วยการเอาของมาแจก เพื่อยังชีพ ความจริงชาวบ้านไม่ได้เดือดร้อน เรื่องข้าวปลาอาหาร แต่เดือดร้อนที่หน่วยงาน ของรัฐไม่รู้จักการแก้ปัญหา
          "น้ำท่วมเทศบาลบ้านปินเกิดจาก การก่อสร้างถนนสายแพร่-ลอง และทางรถไฟที่ทำท่อให้ลำห้วยผ่านเล็กเกินไป เช่น ห้วยร่องบอน ติดกับทางรถไฟ ถ้ามีการ แก้ไขอย่างจริงจังทำท่อให้กว้างพอน้ำจะไม่ท่วมบ้านปินอีกเลย" จ.ส.ต.นคร กล่าว
          จังหวัดเตือนระวังดินถล่มอีก
          ทั้งนี้ จังหวัดแพร่ยังประกาศเตือนภัย น้ำป่า เนื่องจากยังมีฝนตกตลอดเวลา และ ตกหนักในเวลากลางคืนทำให้เกิดน้ำป่า ในช่วงรุ่งเช้า โดยเฉพาะในจุดเสี่ยงที่มีอยู่ทุกอำเภอ รวมถึงเขตภูเขาสูง เพราะขณะนี้ อาจเกิดดินพังทลายได้ ขอให้ประชาชนเตรียมพร้อมในการเคลื่อนย้ายไปอยู่ในที่ปลอดภัย
          อุตรดิตถ์3ตำบลอ่วมหนัก
          นายผจญ พูลด้วง นายกองค์การบริหารส่วนตำบล (อบต.) คอรุม อ.พิชัย จ.อุตรดิตถ์ กล่าวว่า การสร้างคลองส่งน้ำ ตามโครงการผันน้ำจากแม่น้ำยมลงสู่แม่น้ำ น่าน โดยเริ่มจากแม่น้ำยมที่บริเวณวัด หาดสะพานจันทร์ ต.ป่ากุมเกาะ อ.สวรรคโลก แล้วแยกเป็น 2 สายผ่าน อ.ศรีนคร ลงสู่แม่น้ำยมสายเก่าไหลลงสู่ อ.พรหมพิราม จ.พิษณุโลก อีกสายผ่านพื้นที่การเกษตรของชาวบ้านกว้างเท่ากับแม่น้ำลงสู่แม่น้ำน่าน ที่บริเวณ ต.คอรุม อ.พิชัย จ.อุตรดิตถ์ ก่อนถึง ต.คอรุม ได้แยกลงสู่คลองน้ำไหลที่ผ่าน ต.ท่ามะเฟือง ต.พญาแมน อ.พิชัย ลงสู่แม่น้ำน่านด้วย
          ซึ่งเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา เกิดน้ำท่วม ในพื้นที่ จ.สุโขทัย ทำให้มีน้ำจำนวนมากไหลมาตามคลองผันน้ำดังกล่าว ไหล เอ่อล้นคลองเข้าท่วมพื้นที่นาข้าวที่บางส่วน กำลังเก็บเกี่ยว และบางส่วนก็กำลังอยู่ระหว่างการลงแปลงปลูกข้าวในพื้นที่ ต.คอรุม ต.ไร่อ้อย ต.บ้านดารา อ.พิชัย หลายพันไร่ ซึ่งแม้ว่าในปีนี้ได้สร้างทำนบขนาดใหญ่ 2 จุด คือ ทำนบบ้านไทรเอน หมู่ที่ 11 และทำนบบ้านบางนา ต.คอรุม แต่ก็ยังไม่สามารถแก้ไขปัญหาน้ำท่วมพื้นที่ ทางการเกษตรได้ เนื่องจากปริมาณน้ำ ที่ผันมาจากน้ำยมนั้นมีปริมาณมากเกินไป
          ประชาชนหวั่นซ้ำรอยปี2554
          "ยังมีต.ท่ามะเฟือง และต.พญาแมน อ.พิชัย ยังเป็นห่วงอยู่ว่าน้ำจากโครงการผันน้ำยมลงสู่แม่น้ำน่านจะสร้างผลกระทบ ให้อีก เพราะปีที่ผ่านมาน้ำท่วมพื้นที่การเกษตร นานกว่า 2 เดือน แต่การช่วยเหลือและการจ่ายค่าชดเชยกลับไม่ได้ตามที่เรียกร้อง และปีนี้ก็เช่นเดียวกันจึงอยากให้หน่วยงาน ที่เกี่ยวข้องเข้ามาดำเนินการแก้ไขน้ำจากคลองผันน้ำไม่ให้ท่วมพื้นที่ของเกษตรกรอีก โดยเฉพาะคันดินที่ขวางน้ำในคลองผันน้ำอยู่บริเวณบ้านคลองกล้วย หมู่ที่ 8 ต.คอรุม หากคันดินนี้ไม่มีก็จะทำให้น้ำระบายลงสู่แม่น้ำน่านได้เร็ว แต่หากน้ำมีปริมาณมากก็จะหนุนสูงทำให้น้ำไหล ไปไหนไม่ได้ก็จะเกิดการท่วมขังเหมือนปีที่ผ่านมา" นายผจญ กล่าว
          แม่น้ำตาปีเอ่อท่วมอ.พระแสง
          ด้านสถานการณ์น้ำท่วม จ.สุราษฎร์ธานี ปริมาณน้ำในแม่น้ำตาปี และคลองน้ำอิปัน อ.พระแสง ยังคงมีปริมาณมากและยังคงเพิ่มสูงขึ้นเรื่อยๆ สำหรับถนนสายพระแสง-ทุ่งใหญ่ จ.นครศรีธรรมราช ได้รับอิทธิพลจากแม่น้ำตาปี ขณะนี้รถเล็ก ไม่สามารถสัญจรได้เนื่องจากระดับน้ำ เพิ่มขึ้น ในส่วนของ ต.ไทรขึง ต.ไทรโสภา และต.บางสวรรค์ ซึ่งได้รับอิทธิพลจาก คลองอิปัน จาก จ.กระบี่ มีระดับสูงขึ้น โดยเฉพาะที่หมู่ 3 บ้านบางไผ่ ต.สินปุน และหมู่ 10 บ้านบางหยด ต.อิปัน และ ต.ไทร ขังหลายหมู่บ้าน ชาวบ้านต้องอาศัยอยู่บนชั้น 2 ของตัวบ้าน บางบ้านขนข้าวของออกไปอยู่บ้านญาติ เนื่องจากไม่ไว้ใจระดับน้ำที่ยังคงสูงขึ้น
          สำหรับระดับน้ำในแม่น้ำตาปีที่อ.พระแสง ขณะนี้มีระดับสูงกว่าตลิ่งถึง 56 เซนติเมตร ทำให้น้ำไหลเข้าท่วม พื้นที่ลุ่มเป็นบริเวณกว้าง และจากการที่ บางหมู่บ้านถูกน้ำท่วมขังมาหลายวันแล้ว ทำให้เริ่มขาดแคลนน้ำดื่ม ทหารจากหน่วยพัฒนาการเคลื่อนที่ 46 จังหวัดสุราษฎร์ธานี ได้นำน้ำดื่มจำนวน 700 ขวด และเรือท้องแบน 2 ลำ เดินทางเข้าพื้นที่ หมู่ 10 บ้านบางหยด ต.อิปัน เพื่อแจกจ่าย น้ำดื่มแก่ชาวบ้านที่เดือดร้อนจากน้ำท่วมขัง
          นายกฯทัวร์ลุ่มน้ำ11-14มิ.ย.
          น.ส.ศันสนีย์ นาคพงศ์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า นายกรัฐมนตรีและคณะรัฐมนตรี (ครม.) มีความพร้อมอย่างเต็มที่สำหรับการลงพื้นที่ ติดตามความคืบหน้าโครงการป้องกันอุทกภัยระหว่างวันที่ 11-14 มิถุนายนนี้ โดยเริ่มตั้งแต่พื้นที่ปลายน้ำ กลางน้ำ และต้นน้ำ ซึ่งจะไปติดตามงานใน 8 จังหวัด ที่เกี่ยวโยงกับการดูแลสถานการณ์น้ำ และ ก่อนออกเดินทาง นายกรัฐมนตรีจะประชุม ร่วมกับคณะกรรมการนโยบายน้ำ และอุทกภัย แห่งชาติ ในเวลา 10.00 น. เพื่อซักซ้อม เตรียมการก่อนลงพื้นที่จริง เพราะในครั้งนี้ นายกรัฐมนตรีมอบหมายให้รัฐมนตรีลงพื้นที่ คู่ขนานใน 31 จังหวัด ที่ประสบอุทกภัย ซึ่งระหว่างการลงพื้นที่ครั้งนี้จะมีการจำลอง ระบบซิงเกิ้ลคอมมาน เซ็นเตอร์ จาก จ.ชัยนาท โดยศูนย์กลางจะอยู่ที่ทำเนียบรัฐบาล ซึ่งจะมีการดึงข้อมูลแบบนาทีต่อนาที หรือเรียลไทม์ เพื่อให้แก้ไขปัญหาได้ทันท่วงที
          ขณะเดียวกันก็จะมีการซ้อมแผนเตือนภัยและแผนเผชิญเหตุน้ำท่วมเพื่อเตรียมพร้อมรับสถานการณ์ และยืนยันว่า รัฐบาลพยายามอย่างที่สุดที่จะทำให้การ เตรียมการในทุกภาคส่วนเป็นไปอย่างพร้อมเพรียงในการรับสถานการณ์น้ำปีนี้
          เสธ.ซ้อมรับมือภัยพิบัติธรรมชาติ
          วันเดียวกัน นายวิทยา พร้อมด้วย นพ.ไพจิตร์ วราชิต ปลัดกระทรวงสาธารณสุข ได้เยี่ยมชมการฝึกซ้อมร่วมการปฏิบัติการช่วยเหลือผู้ประสบภัยพิบัติ ฉุกเฉินภาคสนามระหว่างชุดแพทย์สนามฉุกเฉินระดับตติยภูมิ (Medical Emergency Response Team: MERT) หรือชุดเมิร์ท กับทหารและเจ้าหน้าที่ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัด ที่บริเวณอ่างเก็บน้ำจักรพงษ์ (เขาอีโต้) อ.เมือง จ.ปราจีนบุรี ซึ่งกรมการแพทย์ กระทรวงสาธารณสุข (สธ.) ร่วมกับสมาคมเวชศาสตร์ฉุกเฉินแห่งประเทศไทย จัดขึ้น เพื่อเตรียมความพร้อม รองรับภาวะภัยพิบัติ เช่น น้ำท่วม น้ำป่าไหลหลาก และแผ่นดินถล่ม
 


pageview  1205453    
สำนักงานพัฒนาระบบข้อมูลข่าวสารสุขภาพ Health Information System Development Office (HISO)
ห้อง A3 ชั้น 3 อาคาร 4Plus Buiding เลขที่ 56/22-24 ซอยงามวงศ์วาน 4 ต.บางเขน อ.เมือง จ.นนทบุรี 11000
Tel : 02-5892490-2 Fax : 02-5892493 www.healthinfo.in.th
 
© Health Information System Development Office (HISO) . All Rights Reserved