HISO - เรื่องเล่าข่าวเด่น

  
   Follow us      
  
หนังสือพิมพ์แนวหน้า [ วันที่ 05/08/2564 ]
สธ.แนะกินแบบพอเพียงให้ถูกหลักโภชนาการช่วงWFH

 

          ผอ.สำนักโภชนาการ กรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุข แนะนำประชาชนกินให้ถูกหลักโภชนาการ ในช่วงโควิด-19 เน้นกินปริมาณพอเหมาะ ปรุงสุกใหม่  เลี่ยงกินสุกๆ ดิบๆ และ ไม่กินอาหารร่วมกับผู้อื่น
          ดร.แพทย์หญิงสายพิณ  โชติวิเชียร ผู้อำนวยการสำนักโภชนาการ กรมอนามัย กล่าวว่า จากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรค โควิด-19 ในขณะนี้ ประชาชนส่วนใหญ่ อยู่กับบ้าน หรือทำงานที่บ้านกัน มากขึ้น จึงนิยมสั่งซื้ออาหารออนไลน์เพิ่มขึ้น ซึ่งในปี 2563 ที่ผ่านมา จากข้อมูลจากสำนักงานพัฒนาธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ (สพธอ.) กระทรวง ดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม ได้สำรวจพฤติกรรมทางออนไลน์ เรื่อง "การใช้บริการ Online Food Delivery ของคนไทย" ระหว่างวันที่ 5-15 มีนาคม 2563 พบว่า มีผู้ใช้ บริการสั่งอาหารออนไลน์ถึงร้อยละ 85 และอาหารที่นิยมสั่งทางออนไลน์คืออาหารจำพวกฟาสต์ฟู้ดต่างๆ เช่น ไก่ทอด เบอร์เกอร์ พิซซ่า ร้อยละ 61 รองลงมาเป็นอาหารตามสั่งร้อยละ 47 และก๋วยเตี๋ยวหรืออาหารประเภทเส้น ร้อยละ 41  ส่วนอาหารสำเร็จรูปมีการสำรองกักตุนไว้ ร้อยละ 69 โดย อาหารแห้งที่ซื้อมากักตุนคือ บะหมี่กึ่งสำเร็จรูป เนื้อสัตว์แปรรูป เช่น หมูหยอง หมูแผ่น หมูทุบ ปลากระป๋อง ขนมหวาน เช่น ช็อกโกแลต เค้ก คุกกี้ และอาหารสำเร็จรูปแช่แข็งตามลำดับ โดยอาหารประเภทฟาสต์ฟู้ด ที่นิยมสั่งกันนั้น มักจะมีสารอาหารประเภทไขมันและโซเดียมสูง กินมากอาจสะสมเสี่ยงต่อการเกิดโรคอ้วน และเบาหวาน ความดันโลหิตสูง ไขมันในเลือดสูง โรคหัวใจและ หลอดเลือด ตามมาได้
          ดร.แพทย์หญิงสายพิณ กล่าวต่อไปว่า เพื่อลดความเสี่ยงและ ป้องกันการเกิดโรคต่างๆ ตามมา กรมอนามัยจึงแนะนำวิธีกินแบบ พอเพียงช่วงโควิด-19 ดังนี้ 1.กินพออิ่มในแต่ละมื้อ ตักอาหารปริมาณ ที่พอเหมาะไม่มากจนเกินไป 2. ดัดแปลง อาหารที่เหลือเป็นอาหารจานใหม่ เช่น ผัดคะน้า นำมาต้มจับฉ่ายผสมกับผักอื่นๆ น้ำแกงส้มที่เหลือสามารถ เติมผักเพิ่ม เช่น ถั่วฝักยาว มะละกอ แครอท ผักบุ้ง ส่วนผลไม้ที่เหลือหลายชนิด  นำมาทำเป็นสลัดผลไม้ 3.เรียนรู้วิธีการเก็บรักษาอาหารแต่ละประเภท เพื่อยืดอายุการใช้งาน ของวัตถุดิบต่างๆ  4. หุงข้าวผสม ข้าวโพด ถั่ว เผือก มัน เพื่อเพิ่มวิตามิน และยังได้สารอาหารอื่นๆ ด้วย 5.เลือกวัตถุดิบคุณภาพดีราคาถูก ในการทำเมนูอาหาร เช่น อาหาร ประเภทเนื้อสัตว์ อาจใช้ ไข่ เต้าหู้ และถั่วเมล็ดแห้ง สลับเปลี่ยนหมุนเวียนกับเนื้อหมู ไก่ เลือกผักพื้นบ้าน ผลไม้ตามฤดูกาล ถัดมาคือ 6.เพิ่มคุณค่าทางโภชนาการของอาหารสำเร็จรูปให้มากขึ้น เช่น นำบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปมาเพิ่มวัตถุดิบอาหารที่เสริมสร้าง ภูมิต้านทาน ผัก และสมุนไพร เช่น บะหมี่กึ่งสำเร็จรูปผัดกะเพรา หรือต้มยำทรงเครื่อง ปลากระป๋องห่อไข่ 7. ลดการกินจุบ กินจิบ กินอาหารให้เป็นเวลา 8. งดการกินอาหารมื้อดึก เพราะจะสะสมเป็นไขมันแทน ทำให้ น้ำหนักตัวเพิ่มขึ้นได้ 9.เคี้ยวอาหารช้าๆ จะทำให้รู้สึกอิ่มเร็วกว่าเพราะร่างกาย คนเราจะเริ่มรู้สึกอิ่มเมื่อกินอาหารไปประมาณ 20 นาที และ 10. ไม่กิน ทิ้งขว้าง มีวินัยในการซื้อและการกิน ที่ดี
          ทั้งนี้ สำหรับการบริโภคอาหารของประชาชนในบางพื้นที่ที่ ได้รับการช่วยเหลือจากการบริจาคขององค์กรภาครัฐ ภาคเอกชน และ ภาคประชาชน หากเป็นอาหารปรุงสำเร็จ ขอให้ผู้บริจาคเน้นย้ำสุขอนามัยในการปรุงประกอบอาหาร โดยให้เป็นอาหารที่ปรุงสุกอย่างทั่วถึง ส่วน ในกรณีที่ผู้บริโภคที่ได้รับการช่วยเหลือ เป็นอาหารแห้ง เช่น บะหมี่กึ่ง สำเร็จรูป ควรนำมาปรุงให้สุกก่อนกิน โดยเทอาหารใส่จานของตนเอง และ ไม่กินอาหารร่วมกับผู้อื่น" ผู้อำนวยการ สำนักโภชนาการ กล่าว
          ผอ.สำนักโภชนาการ กรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุข แนะนำประชาชนกินให้ถูกหลักโภชนาการ ในช่วงโควิด-19 เน้นกินปริมาณพอเหมาะ ปรุงสุกใหม่  เลี่ยงกินสุกๆ ดิบๆ และ ไม่กินอาหารร่วมกับผู้อื่น
          ดร.แพทย์หญิงสายพิณ  โชติวิเชียร ผู้อำนวยการสำนักโภชนาการ กรมอนามัย กล่าวว่า จากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรค โควิด-19 ในขณะนี้ ประชาชนส่วนใหญ่ อยู่กับบ้าน หรือทำงานที่บ้านกัน มากขึ้น จึงนิยมสั่งซื้ออาหารออนไลน์เพิ่มขึ้น ซึ่งในปี 2563 ที่ผ่านมา จากข้อมูลจากสำนักงานพัฒนาธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ (สพธอ.) กระทรวง ดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม ได้สำรวจพฤติกรรมทางออนไลน์ เรื่อง "การใช้บริการ Online Food Delivery ของคนไทย" ระหว่างวันที่ 5-15 มีนาคม 2563 พบว่า มีผู้ใช้ บริการสั่งอาหารออนไลน์ถึงร้อยละ 85 และอาหารที่นิยมสั่งทางออนไลน์คืออาหารจำพวกฟาสต์ฟู้ดต่างๆ เช่น ไก่ทอด เบอร์เกอร์ พิซซ่า ร้อยละ 61 รองลงมาเป็นอาหารตามสั่งร้อยละ 47 และก๋วยเตี๋ยวหรืออาหารประเภทเส้น ร้อยละ 41  ส่วนอาหารสำเร็จรูปมีการสำรองกักตุนไว้ ร้อยละ 69 โดย อาหารแห้งที่ซื้อมากักตุนคือ บะหมี่กึ่งสำเร็จรูป เนื้อสัตว์แปรรูป เช่น หมูหยอง หมูแผ่น หมูทุบ ปลากระป๋อง ขนมหวาน เช่น ช็อกโกแลต เค้ก คุกกี้ และอาหารสำเร็จรูปแช่แข็งตามลำดับ โดยอาหารประเภทฟาสต์ฟู้ด ที่นิยมสั่งกันนั้น มักจะมีสารอาหารประเภทไขมันและโซเดียมสูง กินมากอาจสะสมเสี่ยงต่อการเกิดโรคอ้วน และเบาหวาน ความดันโลหิตสูง ไขมันในเลือดสูง โรคหัวใจและ หลอดเลือด ตามมาได้
          ดร.แพทย์หญิงสายพิณ กล่าวต่อไปว่า เพื่อลดความเสี่ยงและ ป้องกันการเกิดโรคต่างๆ ตามมา กรมอนามัยจึงแนะนำวิธีกินแบบ พอเพียงช่วงโควิด-19 ดังนี้ 1.กินพออิ่มในแต่ละมื้อ ตักอาหารปริมาณ ที่พอเหมาะไม่มากจนเกินไป 2. ดัดแปลง อาหารที่เหลือเป็นอาหารจานใหม่ เช่น ผัดคะน้า นำมาต้มจับฉ่ายผสมกับผักอื่นๆ น้ำแกงส้มที่เหลือสามารถ เติมผักเพิ่ม เช่น ถั่วฝักยาว มะละกอ แครอท ผักบุ้ง ส่วนผลไม้ที่เหลือหลายชนิด  นำมาทำเป็นสลัดผลไม้ 3.เรียนรู้วิธีการเก็บรักษาอาหารแต่ละประเภท เพื่อยืดอายุการใช้งาน ของวัตถุดิบต่างๆ  4. หุงข้าวผสม ข้าวโพด ถั่ว เผือก มัน เพื่อเพิ่มวิตามิน และยังได้สารอาหารอื่นๆ ด้วย 5.เลือกวัตถุดิบคุณภาพดีราคาถูก ในการทำเมนูอาหาร เช่น อาหาร ประเภทเนื้อสัตว์ อาจใช้ ไข่ เต้าหู้ และถั่วเมล็ดแห้ง สลับเปลี่ยนหมุนเวียนกับเนื้อหมู ไก่ เลือกผักพื้นบ้าน ผลไม้ตามฤดูกาล ถัดมาคือ 6.เพิ่มคุณค่าทางโภชนาการของอาหารสำเร็จรูปให้มากขึ้น เช่น นำบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปมาเพิ่มวัตถุดิบอาหารที่เสริมสร้าง ภูมิต้านทาน ผัก และสมุนไพร เช่น บะหมี่กึ่งสำเร็จรูปผัดกะเพรา หรือต้มยำทรงเครื่อง ปลากระป๋องห่อไข่ 7. ลดการกินจุบ กินจิบ กินอาหารให้เป็นเวลา 8. งดการกินอาหารมื้อดึก เพราะจะสะสมเป็นไขมันแทน ทำให้ น้ำหนักตัวเพิ่มขึ้นได้ 9.เคี้ยวอาหารช้าๆ จะทำให้รู้สึกอิ่มเร็วกว่าเพราะร่างกาย คนเราจะเริ่มรู้สึกอิ่มเมื่อกินอาหารไปประมาณ 20 นาที และ 10. ไม่กิน ทิ้งขว้าง มีวินัยในการซื้อและการกิน ที่ดี
          ทั้งนี้ สำหรับการบริโภคอาหารของประชาชนในบางพื้นที่ที่ ได้รับการช่วยเหลือจากการบริจาคขององค์กรภาครัฐ ภาคเอกชน และ ภาคประชาชน หากเป็นอาหารปรุงสำเร็จ ขอให้ผู้บริจาคเน้นย้ำสุขอนามัยในการปรุงประกอบอาหาร โดยให้เป็นอาหารที่ปรุงสุกอย่างทั่วถึง ส่วน ในกรณีที่ผู้บริโภคที่ได้รับการช่วยเหลือ เป็นอาหารแห้ง เช่น บะหมี่กึ่ง สำเร็จรูป ควรนำมาปรุงให้สุกก่อนกิน โดยเทอาหารใส่จานของตนเอง และ ไม่กินอาหารร่วมกับผู้อื่น" ผู้อำนวยการ สำนักโภชนาการ กล่าว

 


pageview  1205832    
สำนักงานพัฒนาระบบข้อมูลข่าวสารสุขภาพ Health Information System Development Office (HISO)
ห้อง A3 ชั้น 3 อาคาร 4Plus Buiding เลขที่ 56/22-24 ซอยงามวงศ์วาน 4 ต.บางเขน อ.เมือง จ.นนทบุรี 11000
Tel : 02-5892490-2 Fax : 02-5892493 www.healthinfo.in.th
 
© Health Information System Development Office (HISO) . All Rights Reserved