HISO - เรื่องเล่าข่าวเด่น

  
   Follow us      
  
หนังสือพิมพ์แนวหน้า [ วันที่ 09/08/2564 ]
3กลุ่มเสี่ยง13จว.แดงเข้มเฮเริ่มฉีดไฟเซอร์สูงอายุ-7โรคเรื้อรัง-คนท้อง

 ต้องไม่เคยรับวัคซีนมาก่อนปชช.ฉีดซิโนแวค2โดสมีลุ้นจ่อคิวได้กระตุ้นเข็ม3ต้นปี'65 ป่วยใหม่19,983-ตาย138ศพ
          ไทยติดโควิดวันเดียว 19,983 ยอดสะสม 756,505 รายแล้ว หายป่วยเพิ่ม 18,503 คน อยู่ระหว่างรักษา 214,786 ราย อาการหนัก 5,157 ราย  ใส่เครื่องช่วยหายใจ 1,070 ราย เสียชีวิตเพิ่ม 138 ศพ  ขณะที่การฉีดวัคซีนยอดสะสม 20,478,635 โดส  สธ.แจงแผนกระจายวัคซีน สิงหาคม จัดส่ง 10 ล้านโดส 80% ไปตจว.กรมควบคุมโรคเผย กลุ่มฉีดซิโนแวค 2 เข็ม ในส่วนประชาชนทั่วไป รอบูสเตอร์ โดส กระตุ้นเข็ม 3 ปลายปี 2564 ต่อต้นปี 2565 ถัดจากกลุ่มเสี่ยงอันดับต้นๆ แผนจัดสรรไฟเซอร์ 1.5 ล้านโดสสัปดาห์นี้ ถึงคิว 3 กลุ่มเสี่ยง  13 จังหวัดสีแดงเข้ม "สูงอายุ-7 โรคเรื้อรัง- คนท้อง 12 สัปดาห์ขึ้นไป" ที่ไม่เคยได้วัคซีนเข็มแรกมาก่อน ย้ำนโยบายฉีดตามกลุ่มเป้าหมาย สกัดดราม่าฉีดวีไอพี
          เมื่อวันที่ 8 สิงหาคม ศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) หรือศบค. รายงานสถานการณ์โควิด-19 ประจำวันรวมถึง ความคืบหน้าการตรวจเชิงรุกหาผู้ติดเชื้อ ที่ทุกภาคส่วนร่วมมือลงพื้นที่ต่อเนื่อง
          ป่วย19,983-ตาย138-หายป่วย1.8หมื่น
          ศบค.ระบุว่า วันนี้ไทยพบผู้ติดเชื้อรายใหม่ 19,983 คน เป็นการติดเชื้อในประเทศ 19,627 ราย มาจากระบบเฝ้าระวังและระบบบริการ  16,780  ราย มาจากการค้นหาเชิงรุกในชุมชน 2,847 ราย จากเรือนจำและที่ต้องขัง 350 ราย และเป็นผู้เดินทางมาจากต่างประเทศ 6 ราย ทำให้มียอดผู้ติดเชื้อสะสม 756,505 ราย ผู้หายป่วยเพิ่ม 18,503 ราย ยอดรวมหายป่วยแล้ว 535,515 ราย อยู่ระหว่างรักษา 214,786 ราย อาการหนัก 5,157 ราย ใส่เครื่องช่วยหายใจ 1,070 ราย เสียชีวิตเพิ่ม 138 ราย เป็นชาย 68 ราย หญิง 70 ราย ในจำนวนนี้เป็นผู้เสียชีวิตที่บ้าน 1 รายคือที่ จ.ยะลา  ทำให้ขณะนี้มีผู้เสียชีวิตสะสม 6,204 ราย ขณะที่การฉีดวัคซีนวันที่ 7 ส.ค. 198,527 โดส ทำให้ขณะนี้มียอดฉีดสะสม 20,478,635 โดส ขณะที่สถานการณ์โลกมีผู้ป่วยสะสม 202,978,883 ราย เสียชีวิต สะสม 4,299,649 ราย
          กทม.ทะลุ3พัน-เจอ8คลัสเตอร์ทั่วปท.
          สำหรับ 10 จังหวัด ที่มีตัวเลขผู้ติดเชื้อสูงสุด ได้แก่ กทม. 3,080 ราย ชลบุรี 1,476 ราย สมุทรสาคร 1,391 ราย สมุทรปราการ 1,137 ราย นนทบุรี 757 ราย ปทุมธานี 662 ราย นครปฐม 578 ราย ฉะเชิงเทรา 449 ราย สระบุรี 396 ราย พระนครศรีอยุธยา 393 ราย นอกจากนี้ พบคลัสเตอร์ต่างจังหวัด 8 แห่ง ประกอบด้วย ที่ อ.บางพลี จ.สมุทรปราการ 2 แห่งคือ บริษัทภาชนะพลาสติก พบผู้ติดเชื้อ 10 ราย และโรงงานเสื้อผ้าเด็ก 16 ราย บริษัทอิเล็กทรอนิกส์ ต.บางปะกง อ.เมือง จ.ชลบุรี 19 ราย บริษัทรองเท้า อ.เมือง จ.สมุทรสาคร 65 ราย บริษัทเครื่องใช้ไฟฟ้า อ.เมือง จ.ปทุมธานี 9 ราย โรงงานไก่ อ.พนมสารคาม จ.ฉะเชิงเทรา 10 ราย บริษัทชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ อ.วังน้อย จ.พระนครศรีอยุธยา 11 ราย โรงงานชำแหละเนื้อสัตว์ อ.ท่าใหม่ จ.จันทบุรี 31 ราย
          หมอชนบทตรวจเชิงรุกเจอติด7.2พัน
          ขณะที่ เพจชมรมแพทย์ชนบท โพสต์ความคืบหน้าการปฏิบัติงานของแพทย์ชนบทในปฏิบัติการบุกกรุงเทพมหานคร ครั้งที่ 3 ว่า  วันที่ 8 สิงหาคม เข้าสู่วันที่ 5 ของทีมแพทย์ชนบทปฏิบัติการบุกกรุงเทพมหานครครั้งที่ 3 ได้ผลเป็นที่น่าพอใจ แม้ตัวเลขยอดผู้ได้รับการคัดกรองยังต่ำกว่าเป้าหมายที่วางไว้ ด้วยอุปสรรคฝนเทลงมาหลายจุดตรวจ ในกรุงเทพมหานครตลอด 4 วันที่ผ่านมา ทำให้ประชาชนไม่มีที่หลบฝน และด้วย สถานที่ตรวจไม่ได้สะดวกมากนัก แต่เป็น ที่น่าพอใจ
          "ในเวลา 4 วัน ตรวจคัดกรองได้ 69,115 ราย ผลบวก 7,227 ราย คิดเป็น ร้อยละ 10.5 ลดลงกว่ารอบที่ 2 (ร้อยละ 16.14) มันคือความหวังของประเทศในการควบคุมโรคกู้ภัยโควิด *ตรวจเร็ว ติดตามผู้สัมผัส รักษาเร็ว ให้วัคซีนตรงจุด ด้วยหน่วยแพทย์เคลื่อนที่เร็วและปฏิบัติการ ต่อเนื่อง* เราต้องชนะ กู้ภัยโควิด-19 ดูน้อยลง" เพจชมรมแพทย์ชนบทระบุ
          กระจายวัคซีน10ล้านโดส80%ไปตจว.
          ที่กระทรวงสาธารณสุข (สธ.) นพ.โสภณ เอี่ยมศิริถาวร รองอธิบดีกรมควบคุมโรค(คร.) แถลงถึงความคืบหน้าการ กระจายวัคซีนโควิด-19 ว่า ปกติกระทรวงสาธารณสุขจะส่งทุกสัปดาห์ ไม่ใช่แค่ไฟเซอร์ แต่มีแอสตราฯ รวมสัปดาห์ละ 2 ล้านโดส 4 สัปดาห์ ของเดือนสิงหาคมคือ 10 ล้านโดส ซึ่ง 80% ไปต่างจังหวัด และครึ่งหนึ่งไป 29 จังหวัด เพราะมีการระบาดมีผู้ป่วยอยู่ ซึ่งเน้นกลุ่มเสี่ยงที่กำหนดทั้งหมด
          คาดปชช.ทั่วไปได้บูตเตอร์โดสต้นปี'65
          ผู้สื่อข่าวถามว่า สธ.กำหนดแผนให้วัคซีนเข็มกระตุ้น หรือบูสเตอร์ โดส แก่กลุ่มประชาชนทั่วไปที่ฉีดวัคซีนซิโนแวค 2 เข็ม อย่างไร เพราะขณะนี้มีความกังวลว่าฉีดมานานแล้ว จะป้องกันเชื้อได้หรือไม่ นพ.โสภณ กล่าวว่า จริงๆวัคซีนซิโนแวคยังป้องกันการตายได้ แต่ป้องกันการติดเชื้อจะลดลง ซึ่งวัคซีนทุกตัวก็ลดลงทุกตัว อย่างไรก็ตาม สำหรับแผนฉีดบูสเตอร์ โดส กรณีคนฉีด ซิโนแวค 2 เข็มนั้น กลุ่มแรกเป็น บุคลากรการแพทย์ด่านหน้า กลุ่มรองลงมา บุคลากรทำงานเกี่ยวข้องผู้ป่วยแต่เสี่ยงอาจไม่เท่ากลุ่มแรก อาจไม่ด่านหน้าทีเดียว สุดท้ายกลุ่มเสี่ยง เช่น โรคเรื้อรัง
          "ส่วนประชาชนทั่วไปคาดว่าจะได้รับการบูสเตอร์ โดส ปลายปี 2564 ต่อเนื่องต้นปี 2565 เพราะต้องรอให้กลุ่มที่ยังไม่ได้วัคซีนเลยได้ฉีดก่อน ซึ่งยังมีผู้สูงอายุต่างจังหวัดเกินครึ่งที่ยังไม่ได้วัคซีนเลย" รองอธิบดี คร. กล่าว
          ฉีดไฟเซอร์ด่านหน้ารอบแรก5.7หมื่นโดส
          นพ.โสภณยังกล่าวถึงการกระจายวัคซีนไฟเซอร์ลอต 1.5 ล้านโดส ที่สหรัฐบริจาคให้ประเทศไทยว่า การกระจายวัคซีนไฟเซอร์รอบแรก ตั้งแต่วันที่ 4-6 สิงหาคม ฉีดไปแล้ว 5.7 หมื่นโดส ให้บุคลากรแพทย์และสาธารณสุขด่านหน้าเป็นกลุ่มเป้าหมายแรกในการฉีด ตามแผนต้องส่งประมาณ วันที่ 7-8 สิงหาคม และเริ่มฉีดวันที่ 9 สิงหาคม แต่ด้วยความจำเป็น จึงส่งและ ฉีดก่อน เร็วกว่าแผนกำหนดประมาณ 5 วัน ซึ่งการฉีดวัคซีนไฟเซอร์เข็มแรก ต้องฉีดเข็มที่ 2 อีก 3 สัปดาห์  ยังมีกลุ่มที่เป็นบุคลากรด่านหน้าที่ยังไม่ได้ฉีด เพิ่งจบใหม่ จะได้ส่วนนี้ แต่ส่วนใหญ่บุคลากรด่านหน้าจะฉีดไปแล้ว 2 เข็มและได้กระตุ้นเข็ม 3 ด้วยไฟเซอร์ ส่วนกลุ่มที่ฉีดกระตุ้นเข็ม 3 ด้วยแอสตราฯไปแล้ว จากการสำรวจพบกว่า 20% มีที่ต้องการฉีดไฟเซอร์ 70% นี่คือที่มาต้องส่งวัคซีนไปให้โรงพยาบาล 50-70%
          ส่งไฟเซอร์13จว.ฉีด3กลุ่มเสี่ยงเข็มแรก
          "ผู้บริหารสธ.ทุกคนยืนยันว่า วัคซีนจะกระจายไปครบทุกคนที่เป็นไปตามกำหนด โดยจะส่งเป็นลอตๆ เพราะถ้าเราส่งไปหมด 7 แสน จะเกิดปัญหาบางที่เกินบางที่ขาด เพื่อให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุด ซึ่งตัวเลขจะใกล้เคียงรพ.ส่งมา เพราะบางทีจะมีบางกลุ่มเพิ่งจบใหม่ บางที่ตั้งรพ.สนามเพิ่มหรือเพิ่มบุคลากรเข้ามาปฏิบัติงานด่านหน้า ข้อมูลตั้งแต่วันที่ 4-7 สิงหาคม ฉีดแล้ว 5.7 หมื่นคน เพิ่มประมาณ 1.1 หมื่นคน"นพ.โสภณกล่าว
          และว่า ความคืบหน้าการกระจายฉีดวัคซีนให้กลุ่มผู้สูงอายุ ผู้ป่วยโรคเรื้อรัง หญิงตั้งครรภ์อายุครรภ์ 12 สัปดาห์ขึ้นไป ซึ่งเป็นกลุ่มอื่นที่ต่อจากบุคลากรด่านหน้าจะส่งวัคซีนไฟเซอร์ภายในสัปดาห์นี้ และย้ำว่า ทุกรพ.ระวังมากในการป้องกันคนสวมสิทธิ์ เพราะต้องใช้เกณฑ์อายุ และต้องฉีดเป็นเข็มที่ 1 ให้ผู้สูงอายุ กลุ่มป่วยเรื้อรัง ส่วนหญิงตั้งครรภ์ก็ต้องเข็มที่ 1 เช่นเดียวกัน ซึ่งการ กระจายวัคซีนเราจะส่งไปรพ.จังหวัด เพื่อจัดบริการมีคุณภาพ โดยลอตนี้จะไป 13 จังหวัดก่อน ให้กลุ่มเสี่ยงทั้งสูงอายุ 60 ปี ผู้ป่วยโรคเรื้อรัง อายุ 12 ปีขึ้นไป และหญิงตั้งครรภ์อายุครรภ์ 12 สัปดาห์ขึ้นไป ที่สำคัญต้องไม่เคยได้รับวัคซีนมาก่อน
          ไทยร่วมใจฯลุยฉีด-สูงวัยโทรจองคิว
          ด้าน พล.ต.อ.อัศวิน ขวัญเมือง ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร (กทม.) เปิดเผย หลังลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมให้กำลังใจบุคลากรแพทย์ที่ให้บริการฉีดวัคซีนนอกโรงพยาบาล (รพ.) "หน่วยความร่วมมือบริการฉีดวัคซีนโควิด-19 กรุงเทพมหานคร-หอการค้าไทย" ที่ศูนย์การค้า เดอะมอลล์ บางแคว่า สถานที่ ฉีดวัคซีนนอก รพ.ที่ศูนย์การค้าเดอะมอลล์ บางแค ตั้งอยู่ชั้น 4 หน้าโรงภาพยนตร์ SF CINEMA เปิดให้บริการทุกวัน ตั้งแต่เวลา 09.00-17.00 น. ให้บริการฉีดวัคซีนได้ 4,000 คนต่อวัน ให้บริการฉีดวัคซีนแก่ผู้สูงอายุที่มีอายุ 60 ปีขึ้นไปสัญชาติไทย อาศัยอยู่ในกรุงเทพมหานคร ผู้ตั้งครรภ์และประชาชนอายุระหว่าง 18-59 ปี ที่ลงทะเบียนผ่านโครงการ "ไทยร่วมใจ" กรุงเทพฯ ปลอดภัย SAFE BANGKOK ผ่านแอปพลิเคชั่น เป๋าตัง หรือเว็บไซต์ www.ไทยร่วมใจ.com หรือร้านค้าสะดวกซื้อ ได้แก่ เซเว่น อีเลฟเว่น แฟมิลี่มาร์ท ท็อปส์ เดลี่ และมินิบิ๊กซี ที่มีคิวฉีดวัคซีนเดิมลงทะเบียนไว้วันที่ 1-8 กรกฎาคม โดยให้ไปฉีดวัคซีนวันที่ 7-10 สิงหาคม
          "สำหรับผู้มีคิวตั้งแต่ 9 กรกฎาคมเป็นต้นไป จะแจ้งคิวฉีดวัคซีนใหม่ให้ทราบทันที เมื่อได้รับการจัดสรรวัคซีน สำหรับ ผู้สูงอายุที่อายุ 60 ปีขึ้นไป ที่ติดขัดปัญหาลงทะเบียนผ่านระบบออนไลน์ แต่สะดวกลงทะเบียนผ่านทางโทรศัพท์มากกว่า ลงทะเบียนผ่านสายด่วนศูนย์ประสานงานฉีดวัคซีนผู้สูงอายุ "ไทยร่วมใจ Thai PBS" และจองคิวฉีดวัคซีนทางโทรศัพท์หมายเลข 02-790-2855 (40 คู่สาย) ได้อีกช่องทางหนึ่ง" ผู้ว่าฯ กทม.กล่าว
          คนท้องวอล์กอินได้12จุด
          และว่า ผู้ตั้งครรภ์อายุครรภ์ 12 สัปดาห์ วอล์ก อิน เข้ารับวัคซีนได้โดยไม่ต้อง ลงทะเบียน เพียงนำใบฝากครรภ์หรือใบรับรองการตั้งครรภ์จากแพทย์พร้อมบัตรประชาชนมาแสดง ที่ศูนย์ฉีดวัคซีนไทยร่วมใจ ศูนย์การค้า เดอะมอลล์ เป็น 1 ใน 12 จุด ที่ผู้ตั้งครรภ์วอล์ก อิน เข้ารับบริการได้ ประกอบด้วย 1.SCB สำนักงานใหญ่ (รัชโยธิน) 2.SCG บางซื่อ 3.โรบินสัน ไลฟ์สไตล์ ลาดกระบัง 4.เซ็นทรัล ลาดพร้าว 5.เซ็นทรัลเวิลด์ 6.สามย่านมิตรทาวน์ 7.โลตัส พระราม 4  8.เอเชียทีค เดอะริเวอร์ฟร้อนท์ 9.มหาวิทยาลัยหอการค้า 10.สยามพารากอน 11.เดอะมอลล์ บางกะปิ และ 12.เดอะมอลล์ บางแค ผู้ที่จะมาฉีดวัคซีนสอบถามข้อมูลได้ที่สายด่วนวัคซีน 1516 และเฟซบุ๊คเพจ "ไทยร่วมใจ กรุงเทพฯปลอดภัย"
          รองรับปชช.ได้8หมื่นคนต่อวัน
          ผู้ว่าฯ กทม.กล่าวต่อว่า หน่วยความร่วมมือกรุงเทพมหานคร-หอการค้าไทย ทั้ง 25 จุด เปิดฉีดวัคซีนให้กลุ่มเป้าหมายที่กำหนดวันนี้เป็นวันที่ 2 หลังได้รับจัดสรรวัคซีน ซึ่งในเดือนสิงหาคมนี้ กทม.จะได้รับวัคซีน 750,000 โดส โดยกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) จะทยอยแบ่งส่งให้ทุกสัปดาห์คือ สัปดาห์ที่ 1-3 จัดส่งสัปดาห์ละ 175,000 โดส และสัปดาห์ที่ 4 จัดส่ง 225,000 โดส ซึ่ง กทม.จะจัดฉีดให้ 3 กลุ่มหลัก คือ ผู้สูงอายุ หญิงตั้งครรภ์ และผู้ที่ลงทะเบียนผ่านโครงการไทยร่วมใจฯ ในคิวเดิมที่เลื่อนตามลำดับต่อไป ขณะนี้ศักยภาพการให้บริการของหน่วยบริการฯรองรับประชาชนได้สูงสุดถึง 80,000 คนต่อวัน
          ผู้สูงอายุกทม.ฉีดวัคซีนแล้ว80%
          "ขณะนี้ผู้สูงอายุในกรุงเทพฯได้รับวัคซีนแล้วร้อยละ 80 คาดว่าภายในเดือนสิงหาคมจะฉีดวัคซีนให้คนกรุงเทพฯได้ ทั่วถึงร้อยละ 60-70 ขอให้ทุกคนแม้จะได้รับบริการวัคซีนแล้วก็ตาม ให้ปฏิบัติตน ตามมาตรการสำคัญคือ สวมหน้ากากอนามัยหรือหน้ากากผ้าทุกครั้งที่ออกที่สาธารณะ ล้างมือบ่อยๆด้วยสบู่หรือเจลแอลกอฮอล์ ล้างมือ และเว้นระยะห่างอย่างน้อย 1-2 เมตร ลดการระบาดในกทม." พล.ต.อ.อัศวิน กล่าว
          ผุดศูนย์พักคอยทั่วกรุงลดแพร่เชื้อ
          ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากนั้นพล.ต.อ.อัศวินนำคณะไปตรวจความพร้อมศูนย์พักคอยเพื่อส่งต่อ เขตบางแค แห่งที่ 1 ตั้งอยู่ที่ศูนย์สร้างสุขทุกวัยบางแค (เรืองสอน) เป็นศูนย์พักคอย 1 ใน 7 แห่ง ที่กทม.เตรียมขยายศักยภาพรองรับผู้ป่วย  และ แห่งที่ 2 บริเวณโรงเรียนคลองหนองใหญ่ พร้อมเผยว่า กทม.จัดตั้งศูนย์พักคอย เพื่อส่งต่อ หรือ คอมมูนิตี้ ไอโซเลชั่น (Community Isolation) รองรับผู้ป่วยที่ผลตรวจรับรองว่าติดเชื้อในพื้นที่ 6 กลุ่มเขต มีเป้าหมายเปิดศูนย์พักคอยฯ ให้ได้มากที่สุด เพื่อแยกผู้ป่วยออกมาจากบ้าน นำมาพักคอยที่ศูนย์ฯ คัดกรองอาการและดูแลเบื้องต้น เพื่อรอส่งต่อไปรักษาที่โรงพยาบาล (รพ.) ลดปัญหาระบาดและติดเชื้อของคนในครอบครัวและชุมชน
          "สำหรับศูนย์พักคอยฯ เขตบางแค แห่งที่ 2 โรงเรียนคลองหนองใหญ่ ใช้พื้นที่อาคารเรียน 5 ชั้น 2 อาคารรับผู้ป่วยได้ 312 เตียง แบ่งเป็น ผู้ป่วยเหลือง/แดง 48 เตียง ผู้ที่มีผลตรวจแอนติเจน เทสต์ คิท (เอทีเค) ติดเชื้อ 33 เตียง และผู้ป่วยสีเขียว 231 เตียง มีแพทย์จาก รพ.บางปะกอก 8 และศูนย์บริการสาธารณสุข 40 บางแคบริหารจัดการผู้ป่วย กำหนดเปิดให้บริการวันที่ 9 สิงหาคม" พล.ต.อ.อัศวิน กล่าว
          ปรับศูนย์พักฯกึ่งรพ.สนามรับสีเหลือง
          และว่า ส่วนศูนย์พักคอยฯ เขตบางแค แห่งที่ 1 ตั้งอยู่ที่ศูนย์สร้างสุขทุกวัยบางแค (เรืองสอน)ปรับเป็นศูนย์พักคอยกึ่ง รพ.สนาม (Community Isolation plus : CI plus) รับผู้ป่วยอาการสีเหลืองได้เข้ารักษาตัวให้มากขึ้นรับผู้ป่วยได้ 150 เตียง แบ่งเป็น ชาย 62 เตียง หญิง 77 เตียง พ่อลูกอ่อน 4 เตียง และแม่ลูกอ่อน 7 เตียง โดยมีทีมแพทย์จาก รพ.หลวงพ่อทวีศักดิ์ ชุตินฺธโร อุทิศ เป็นผู้บริหารจัดการผู้ป่วย
          สำหรับศูนย์พักคอยฯ เขตบางแค เริ่มรับผู้ป่วยวันที่ 6 กรกฎาคม ที่ผ่านมา มีผู้ป่วยเข้าพัก 443 ราย และรักษาตัว จนครบ 14 วัน โดยไม่มีอาการรุนแรง และหายเป็นปกติกลับบ้านได้แล้ว คิดเป็น ร้อยละ 60 และส่งต่อเข้ารักษาที่โรงพยาบาล ร้อยละ 20 (ข้อมูล ณ วันที่ 8 ส.ค. 2564 เวลา 11.00 น.) ซึ่งศูนย์พักคอยฯพร้อมดูแลผู้ป่วย ด้วยทีมแพทย์ พยาบาล อาสาสมัคร และเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยตลอด 24 ชั่วโมง พร้อมยารักษาและเครื่องมือทางการแพทย์ ยาเวชภัณฑ์ อาหารหลัก 3 มื้อ และของใช้จำเป็น ให้ผู้ป่วยด้วย ศูนย์พักคอยฯ ถือเป็นทางเลือกที่ปลอดภัย ซึ่งกทม.พร้อมให้บริการรักษาประชาชนที่ถูกต้องและรวดเร็วที่สุด
          เปิดศูนย์พักคอย93แห่งรับได้หมื่นคน
          "ขณะนี้ กทม.ตั้งศูนย์พักคอยเพื่อส่งต่อแล้ว 65 แห่ง เปิดรับผู้ป่วยได้แล้ว 50 แห่ง รองรับผู้ป่วยได้ 8,597 ราย และยังมีศูนย์พักคอยเพื่อส่งต่อ ซึ่งดำเนินการโดยหน่วยงานภาครัฐ เอกชน สถานประกอบการและประชาชนทั่วไปอีก 5 แห่ง รับผู้ป่วยได้ 960 ราย นอกจากนี้ ยังมีศูนย์พักคอยแบบ Semi Community Isolation อีก 23 แห่ง รับผู้ป่วยได้ 527 รวมจำนวนศูนย์พักคอยฯ ในกรุงเทพฯมีทั้งหมด 93 แห่ง รับผู้ป่วยได้ 10,084 ราย (ข้อมูล ณ วันที่ 7 สิงหาคม เวลา 09.55 น.)" พล.ต.อ.อัศวินกล่าวและย้ำว่า ประชาชนที่ได้รับการยืนยันว่าติดเชื้อ โควิดโทรติดต่อสายด่วน 1330 หรือ สายด่วนโควิด 50 เขต 20 คู่สาย ตลอด 24 ชั่วโมง เพื่อรับการประเมินเข้าระบบรักษาแบบแยกกักตัวที่บ้าน (Home Isolation : HI) หรือเข้าพักที่ศูนย์พักคอยเพื่อส่งต่อ (Community Isolation : CI) หรือโรงพยาบาล เร็วที่สุด
          นายกฯขอบคุณและชื่นชมหมอชนบท
          นายอนุชา บูรพชัยศรี โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ชื่นชมทีมแพทย์ชนบท 38 ทีม จาก ทั่วประเทศ ที่ร่วมดำเนินการตรวจเชิงรุกในพื้นที่ กทม. ตามแนวทางของศบค.และกระทรวงสาธารณสุข (สธ.)คีอ เร่งตรวจ หาเชื้อ เพื่อคัดแยกผู้ป่วยออกให้เร็วที่สุด ซึ่งผู้ติดเชื้อที่ไม่มีอาการหรือมีอาการเล็กน้อย จะถูกจัดเข้าระบบดูแลรักษาที่บ้าน (Home Isolation) และที่ชุมชน (Community Isolation) พร้อมจ่ายยาฟ้าทะลายโจร หรือยาฟาวิพิราเวียร์ (Favipiravir) ช่วยลดการระบาด ทำให้คุมสถานการณ์ระบาดไวรัสโควิด-19 ในกรุงเทพฯให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น
          "นายกฯชื่นชมความเสียสละและอุทิศตนของทีมแพทย์ชนบทที่มาสนับสนุนการควบคุมการระบาดโควิดในกทม.ร่วมกับกระทรวงสาธารณสุข สำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) กรุงเทพมหานคร รวมทั้งทีมอาสาจากภาคประชาชน มั่นใจว่า ความสามัคคีของคนไทย จะเป็นพลังของชาติ ให้ไทยฝ่าวิกฤติโควิดครั้งนี้ไปได้" นายอนุชากล่าว
          ลุยตรวจทั่วกทม.แล้วกว่า3หมื่นคน
          สำหรับทีมแพทย์ชนบท 38 ทีมจากทั่วประเทศ ประกอบด้วย ภาคเหนือ 6 ทีม ภาคกลาง 10 ทีม ภาคตะวันออก 2 ทีม ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ 12 ทีม และภาคใต้ 8 ทีม เดินหน้าตรวจเชิงรุกในพื้นที่ กทม. ระหว่างวันที่ 4-10 สิงหาคม วันที่ 4 สิงหาคม ตรวจ ATK ไป 14,715 คน พบติดเชื้อ 1,992 คน (13.5%) วันที่ 5 สิงหาคม ตรวจ ATK ไป 15,692 คน สะสมวันที่ 5 สิงหาคม ตรวจคัดกรองแล้ว 30,407 คน พบติดเชื้อ 3,298 คน (10.8%) และจ่ายยาฟาวิฟิราเวียร์ไป 66,700 เม็ด ทั้งนี้ มีเป้าหมายคัดกรองผู้ป่วย 250,000 ราย และตั้งแต่วันที่ 6 สิงหาคมที่ผ่านมา ยังฉีดวัคซีนให้กลุ่มผู้สูงอายุและผู้มีโรคเรื้อรัง เพื่อให้บริการครบวงจรด้วย


pageview  1205832    
สำนักงานพัฒนาระบบข้อมูลข่าวสารสุขภาพ Health Information System Development Office (HISO)
ห้อง A3 ชั้น 3 อาคาร 4Plus Buiding เลขที่ 56/22-24 ซอยงามวงศ์วาน 4 ต.บางเขน อ.เมือง จ.นนทบุรี 11000
Tel : 02-5892490-2 Fax : 02-5892493 www.healthinfo.in.th
 
© Health Information System Development Office (HISO) . All Rights Reserved