HISO - เรื่องเล่าข่าวเด่น

  
   Follow us      
  
หนังสือพิมพ์แนวหน้า [ วันที่ 12/05/2564 ]
LIFE & HEALTH: กินสร้างเพิ่มภูมิต้านทานร่างกาย

 ผศ.(พิเศษ)ดร.อภิสิทธิ์ ฉัตรทนานนท์
          ประธานกรรมการมูลนิธิคุณแม่คุณภาพ
          อาหารเป็นหนึ่งในปัจจัยจำเป็นต้องบริโภค เพื่อใช้เป็นพลังงานและเสริมสร้างร่างกายให้แข็งแรงอยู่เสมอ หรือจะพูดอีกนัยหนึ่งว่าอาหารเป็นปัจจัยหลักอย่างหนึ่ง ในการช่วยให้ภูมิคุ้มกันร่างกายดี ซึ่งจะช่วยป้องกันโรคภัยไข้เจ็บให้กับคนเราได้
          ข้อมูลจาก อ.ศัลยา คงสมบูรณ์เวช นักกำหนดอาหารขึ้นทะเบียนวิชาชีพ (สหรัฐอเมริกา) กรรมการบริหาร มูลนิธิคุณแม่ คุณภาพ เปิดเผยว่า การขาดสารอาหารบางตัวอาจมีผลในการลดระบบภูมิคุ้มกันของร่างกาย ข้อมูลการวิจัยส่วนใหญ่สนับสนุนการบริโภคอาหารหลากหลายในปริมาณที่เหมาะสม เพื่อให้ได้รับสารอาหารสมดุล เป็นวิธีที่ดีที่สุดในการที่จะทำให้ ร่างกายได้รับสารอาหารและพฤกษเคมี อย่างเพียงพอที่จะเพิ่มระบบภูมิคุ้มกันให้กับร่างกาย มีงานวิจัยชี้ว่า การทำงานของระบบภูมิต้านทาน ไม่ต้องการวิตามิน และเกลือแร่ ในปริมาณมากอย่างที่เราคิด เพียงแต่เรารับประทานให้เพียงพอตามที่ร่างกายต้องการเท่านั้น ถ้ากินมากเกินไปกลับเป็นอันตรายได้ เช่น การได้รับธาตุเหล็กสูงเกินควรอาจทำให้เกิดการติดเชื้อ ซึ่งแย่พอๆ กับการได้รับธาตุเหล็กไม่เพียงพอ ทำนองเดียวกับแร่ธาตุทองแดง ถ้าได้รับมากเกินไป ก็จะก่อให้เกิดปัญหาอนุมูลอิสระในร่างกาย มีผลต่อการทำลายดีเอ็นเอ แม้ว่าแร่ธาตุสังกะสีเป็นอีกตัวหนึ่งในการป้องกันหวัด แต่ถ้าได้รับมากเกินควรก็อาจลดการดูดซึมของแร่ธาตุทองแดงและลดภูมิต้านทานได้ ฉะนั้นอาหารที่หลากหลายและมีสารอาหารที่สมดุลที่เราเลือกกินในชีวิตประจำวันจะเป็นสิ่งที่ช่วยส่งเสริมการทำงานของระบบภูมิคุ้มกัน
          ไขมันกับระบบภูมิต้านทานอาหารไขมันต่ำเกินไปอาจสร้างปัญหาลดภูมิต้านทาน ในขณะที่อาหารไขมันสูงเกินไปสร้างปัญหาโรคอ้วน ไขมันในเลือดสูง โรคหัวใจ และโรคมะเร็ง เป็นต้น ไขมันที่มีบทบาทต่อระบบภูมิต้านทานคือ กรดไขมันจำเป็นไลโนเลอิก (กลุ่มกรดไขมัน โอเมก้า 6) และกรดไขมันจำเป็นแอลฟาไลโนเลนิก (กลุ่มโอเมก้า 3) พบมากในปลาทะเล แฟลกซ์ซีด วอลนัท และน้ำมันคาโนลา หากร่างกายได้รับกรดไขมันทั้งสองไม่เพียงพอจะทำให้แผลหายช้า ซึ่งเป็นสัญญาณอย่างหนึ่งที่บอกให้รู้ว่าระบบภูมิต้านทานทำงานลดลง คนส่วนใหญ่ไม่มีปัญหาในปริมาณกรดโอเมก้า 6 เพราะทุกวันนี้ร่างกายได้รับอย่างเกินพอ แต่กรดโอเมก้า 3 ซึ่งเพิ่มภูมิต้านทาน เรามักจะรับประทานกันไม่เพียงพอ
          หวัดกับภูมิต้านทาน เรื่องของการรักษาหวัดเป็นคำถามที่ยังไม่มีคำตอบที่แน่ชัด ปัจจุบันไม่มียาที่จะรักษาหวัดซึ่งเป็นเชื้อไวรัส จะรักษาตามอาการ แนะนำให้พักผ่อน และดื่มน้ำมากๆ แต่ถ้าภูมิต้านทานดี หวัดก็จะทำอะไรไม่ได้ สำหรับการรับประทานวิตามินซีในขนาดสูงๆไม่สามารถป้องกันหวัดได้ จากการวิจัยพบว่าการเสริมวิตามินซีวันละ 2,000 มิลลิกรัม เพียงลดความรุนแรงของอาการหวัดและระยะเวลาของการเป็นหวัดเท่านั้น แต่ขนาดสูงขนาดนั้นไม่แนะนำสำหรับเด็ก หญิงตั้งครรภ์ หญิงให้นมบุตร และอาจทำให้เกิดอาการถ่ายท้องบ่อยหรือนิ่วในไตกับบางคน กรณีที่รับประทานวิตามินซีขนาดสูงไม่ควรเกิน 1,000 มิลลิกรัมต่อวัน และแบ่งเป็น 2 ขนาด ขนาดละไม่เกิน 500 มิลลิกรัม แต่การดื่มน้ำส้มคั้นสดมากๆ จะได้ทั้งน้ำและวิตามินซีที่เพิ่มภูมิต้านทานและลดอาการหวัดได้ สมุนไพรบางชนิดยังได้รับการยอมรับว่าอาจมีส่วนในการเพิ่มภูมิต้านทาน เช่น เอคินาเซีย โสม สำหรับเครื่องเทศบางชนิด ได้แก่ ขมิ้น เห็ดหอมญี่ปุ่น และกระเทียม เป็นต้น
          อาหารเพิ่มระบบภูมิคุ้มกันปัจจุบันมีข้อมูลที่แสดงว่าการรับ ประทานวิตามินและแร่ธาตุรวม วันละครั้ง สามารถเพิ่มระบบภูมิต้านทานได้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในผู้สูงอายุ และ คนที่มักจะรับประทานอาหารไม่ครบส่วนกรณีที่ต้องการเสริมวิตามินและแร่ธาตุรวม หรือมัลติวิตามินที่ให้สารอาหาร โดยเฉพาะวิตามินบีประมาณร้อยเปอร์เซ็นต์ของข้อกำหนดประจำวัน เสริมเพียงวันละเม็ดก็พอแล้ว ผู้สูงอายุ อาจพิจารณาการเสริมวิตามินอีธรรมชาติวันละไม่เกิน 200 ไอยู ทั้งนี้อย่าลืมปรึกษาแพทย์ เภสัชกรหรือ นักโภชนาการถึงปริมาณที่เหมาะสม
          ตัวอย่างผลของสารอาหารที่มีต่อภูมิคุ้มกัน เช่น
          วิตามินบี 6 ช่วยเซลล์ เม็ดเลือดขาวสร้างแอนติบอดี แหล่ง จากอาหาร เช่น ถั่วเมล็ดแห้ง ธัญพืชไม่ขัดสี ไก่ หมู กล้วย
          วิตามินซี ช่วยป้องกันเซลล์เม็ดเลือดนิวโทรฟิล ซึ่งทำหน้าที่ ดักจับเชื้อแบคทีเรีย แหล่งจาก อาหาร เช่น ผลไม้ตระกูลส้ม ฝรั่ง สตรอว์เบอร์รี่ พริกหวาน บร็อกโคลี่ มะเขือเทศ ดอกกะหล่ำ
          วิตามินอี ช่วยเพิ่มการสร้างแอนติบอดี ช่วยสร้างเสริมการทำงานของทีเซลล์ ซึ่งทำหน้าที่หลักในการป้องกันการติดเชื้อร่วมกับบีเซลล์ แหล่งจากอาหาร เช่น ถั่วเปลือกแข็ง วีทเจิร์ม
          ซีลีเนียม ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพ ของเซลล์ที่ทำหน้าที่ภูมิคุ้มกัน แหล่งจากอาหาร เช่น เนื้อสัตว์ไม่ติดมัน อาหารทะเล ถั่วบราซิล
          สังกะสี ช่วยสร้างและเสริมการทำงานของเซลล์เม็ดเลือดนิวโทรฟิล และคิลเลอร์เซลล์ ป้องกันเซลล์ในระบบภูมิคุ้มกันถูกทำลายโดยการลดไซโตไคน์ ซึ่งควบคุมการบวมอักเสบ เสริมสร้างบีเซลล์และทีเซลล์ แหล่งจากอาหาร เช่น วีทเจิร์ม ถั่วดำ เนื้อวัว ไม่ติดมัน อาหารทะเลโดยเฉพาะปู
          โปรตีน ช่วยผลิตและรักษาปริมาณเซลล์เม็ดเลือดขาว แหล่งจากอาหาร เช่น ผลิตภัณฑ์นมขาดไขมัน ถั่วเมล็ดแห้ง เนื้อสัตว์ทุกชนิด ไข่ถั่วเปลือกแข็ง
          เบต้าแคโรทีน เพิ่มการทำงานของเซลล์ที่ดักจับเชื้อโรค แหล่งจากอาหาร เช่น แครอท ฟักทอง มันเทศ ผักใบเขียวจัด แคนตาลูป มะปรางสุก มะม่วงสุก มะละกอสุก
          การมีโภชนาการดี นอกจาก จะช่วยเพิ่มภูมิต้านทานแล้ว การดื่มน้ำเปล่าสะอาดอย่างน้อยวันละ 8 แก้ว จะช่วยทดแทนน้ำที่ร่างกายต้องเสียไปทางเหงื่อและปัสสาวะ และน้ำยังช่วยขจัดของเสียในร่างกายอีกด้วย ล้างมือให้สะอาดอยู่เสมอ ที่สำคัญคุณควรปรับเปลี่ยนการดำเนินชีวิตด้วยการออกกำลังกายสม่ำเสมอ ลดความเครียด นอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ งดบุหรี่ ร่วมกับการ มีโภชนาการที่ดี ร่างกายก็จะ แข็งแรงมีภูมิคุ้มกันต่อต้านเชื้อโรคต่างๆ ได้
          ขอฝากข้อมูลจาก กรมการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก ที่ชี้ว่าสารสำคัญในฟ้าทะลายโจร กำจัดไวรัสได้แต่ยังไม่มีข้อยืนยันว่าใช้ป้องกันโควิด-19 ได้ จึงแนะให้ใช้เฉพาะเมื่อมีอาการไข้ ไอ เจ็บคอ ตามสรรพคุณที่ระบุในบัญชียาหลักแห่งชาติเท่านั้น


pageview  1204848    
สำนักงานพัฒนาระบบข้อมูลข่าวสารสุขภาพ Health Information System Development Office (HISO)
ห้อง A3 ชั้น 3 อาคาร 4Plus Buiding เลขที่ 56/22-24 ซอยงามวงศ์วาน 4 ต.บางเขน อ.เมือง จ.นนทบุรี 11000
Tel : 02-5892490-2 Fax : 02-5892493 www.healthinfo.in.th
 
© Health Information System Development Office (HISO) . All Rights Reserved