ไวรัสโควิด-19 ยังลามไม่หยุด ยอดผู้ติดเชื้อพุ่งทะลุ 28 ล้านคน ไปแล้ว ส่วนยอด เสียชีวิตรวมเกินกว่า 9 แสนศพ อินเดียยังวิกฤติต่อเนื่อง ติดเชื้อวันเดียว 95,735 คน เป็นสถิติสูงสุดในโลก นับตั้งแต่พบผู้ติดเชื้อคนแรกที่จีนเมื่อปลายปีที่แล้ว ส่วนผู้เสียชีวิตสะสมมากกว่า 75,000 คนแล้ว "เมียนมา"พบผู้ป่วยใหม่ไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่วันเดียว 180 คน รัฐบาลสั่งล็อกดาวน์เพิ่มอีก 21 เขตในภูมิภาคย่างกุ้ง
          สำนักข่าวต่างประเทศรายงานเมื่อวันที่ 10 กันยายน เกี่ยวกับสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ 2019 หรือ โควิด-19 ว่า ขณะนี้ทั่วโลกมียอดผู้ป่วยติดเชื้อสะสม รวม 28,054,015 ราย เสียชีวิต แล้ว 908,522 ราย รักษาหายแล้ว  20,120,422 ราย โดยสหรัฐยังคงเป็นประเทศที่มียอดผู้ป่วยสูงสุดในโลก ที่จำนวน 6,549,771 ราย และเสียชีวิตสูงที่สุดในโลกเช่นกัน ที่จำนวน 195,245 ราย รองลงมา คือ อินเดีย ติดเชื้อ 4,470,166 ราย เสียชีวิต 75,119 ราย บราซิล ติดเชื้อ 4,199,332 ราย เสียชีวิต 128,653 ราย รัสเซีย ติดเชื้อ 1,046,370 ราย เสียชีวิต 18,263 ราย เปรู ติดเชื้อ 702,776 ราย เสียชีวิต 30,236 ราย
          ขณะที่บริษัทยา 9 แห่งทั่วโลกกำลังอยู่ในระหว่างช่วงท้ายการทดลองทางคลินิกระยะที่ 3 ในวัคซีนป้องกันโรคไวรัสโควิด-19 อย่างไรก็ดี แอสตราเซเนกา บริษัทยาของอังกฤษ ได้ประกาศหยุดการทดลองทางคลินิกในวัคซีนที่พัฒนาร่วมกับมหาวิทยาลัย ออกซฟอร์ดในสัปดาห์นี้หลังอาสาสมัครที่เข้าร่วมทดสอบมีอาการป่วยที่ยังไม่ทราบสาเหตุ ทั้งที่อยู่ในขั้นตอนที่ก้าวหน้ากว่าวัคซีนของบริษัทอื่นๆ ทั่วโลก แต่การระงับการทดลองทางคลินิกถือเป็นเรื่องปกติที่เกิดขึ้นได้
          รองนายกเทศมนตรีกรุงมอสโกของรัสเซียประกาศอนุมัติวัคซีนและเริ่มทดลองฉีดวัคซีนให้แก่อาสาสมัครในกรุงมอสโกวันนี้ อาสาสมัครที่มีชื่อเสียงที่ได้รับการฉีดวัคซีนแล้ว ได้แก่ ลูกสาวของประธานาธิบดีวลาดีมีร์ ปูติน ของรัสเซีย นายกเทศมนตรีกรุงมอสโก และนายวลาดิเมียร์ เชอร์ไรนอฟสกี หัวหน้าพรรคเสรีนิยมประชาธิปไตย
          ขณะที่ผู้ว่าการรัฐเซาเปาโลของบราซิล ระบุว่า ผลการทดลองทางคลินิกในวัคซีนที่พัฒนาโดยบริษัทยาของจีนให้ผลลัพธ์ที่มีประสิทธิภาพอย่างมาก และอาจเริ่มโครงการฉีดวัคซีนทั่วประเทศได้เร็วสุดในช่วงต้นเดือนธันวาคมนี้
          ส่วนที่ประเทศจีน บริษัทซิโนฟาร์ม ผู้ผลิตวัคซีนป้องกันโรคไวรัสโควิด-19 เริ่มต้นทำการทดลองวัคซีนระยะสามในเปรู ซึ่งทางการตั้งเป้าว่าในรอบนี้จะฉีดวัคซีนในอาสาสมัครได้ 3,000 คน และจะมีการฉีดวัคซีนรอบใหม่ในสัปดาห์หน้าอีก 3,000 คน โดยอาสาสมัครที่เข้ารับการฉีดวัคซีนจะต้องมีอายุระหว่าง 18-75 ปี หลังจากที่ทั้ง 6,000 คนรับการฉีดวัคซีนครั้งแรกไปแล้วจะต้องรออีก 1 เดือน จึงจะได้รับการฉีดวัคซีนเข็มที่ 2 จากนั้นจะมีการสังเกตอาการเป็นเวลา 4 เดือน โดยจะมีการตรวจเช็คสุขภาพรายวัน โดยบริษัทซิโนฟาร์มได้จัดสรรวัคซีน 30,000 โดส สำหรับทดลองฉีดให้อาสาสมัคร และมีผู้เข้าร่วมฉีดวัคซีนไปแล้ว 10,000 คนในบาห์เรนและสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ และหลังจากนี้จะมีการทดลองในโมร็อกโก และอาร์เจนตินาด้วย
          ขณะที่ กระทรวงสาธารณสุขของอินเดีย รายงานสถานการณ์โรคไวรัสโควิด-19 ในรอบ 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา ว่าสถิติผู้ป่วยสะสมมีจำนวนอย่างน้อย 4,465,863 คน เพิ่มขึ้น 95,735 คน เป็นสถิติรายวันสูงสุดทั้งระดับประเทศและระดับโลก อีกทั้งยังเป็นสถิติการพบผู้ติดเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่มากที่สุดภายในวันเดียวบนโลก นับตั้งแต่มีการยืนยันผู้ป่วยคนแรกที่จีน เมื่อเดือนธันวาคม 2562 ส่วนอินเดียพบผู้ติดเชื้อคนแรกเมื่อวันที่ 30 มกราคม ที่ผ่านมา
          ในรอบวันเดียวกันมีการยืนยัน ผู้เสียชีวิตอีก 1,172 คน เป็นสถิติสูงที่สุดนับตั้งแต่เดือนกรกฎาคม และเพิ่มจำนวน ผู้เสียชีวิตจากโรคโควิด-19 ในอินเดียสะสมเป็นอย่างน้อย 75,062 คน คิดเป็นอัตราการเสียชีวิต 1.68% และสถิติของผู้ที่ได้รับการรักษาหายสะสมอยู่ที่อย่างน้อย 3,471,783 คน เพิ่มขึ้น 72,939 คน
          ปัจจุบันอินเดียเป็นประเทศที่มีสถิติผู้ป่วยสะสมจากโรคโควิด-19 มากที่สุดในทวีปเอเชีย และเป็นอันดับ 2 ของโลกรองเพียงสหรัฐ ส่วนสถิติสะสมของผู้เสียชีวิตจากโรคดังกล่าวในอินเดียอยู่ในอันดับ 1 ของทวีปเอเชีย และเป็นอันดับ 3 ของโลก รองจากสหรัฐและบราซิล
          ทางด้านกระทรวงสาธารณสุขของเมียนมา รายงานสถานการณ์โรคโควิด-19 ในรอบ 24 ชั่วโมงล่าสุด จนถึงเวลา 20.00 น. ตามเวลาท้องถิ่นของวันพุธ ยืนยันผู้ติดเชื้อใหม่ 180 คน เพิ่มสถิติผู้ป่วยสะสมเป็นอย่างน้อย 1,889 คน โดยเมื่อช่วงครึ่งเช้าของวันพุธตรวจพบผู้ติดเชื้อ 98 คน จากจำนวน ดังกล่าวเป็นผู้ที่อยู่ในภูมิภาคย่างกุ้งมากถึง 93 คน และเป็นการติดเชื้อจากภายในประเทศทั้งหมด ขณะที่สถิติผู้เสียชีวิตสะสมอยู่ที่อย่างน้อย 12 คน และรักษาหายเพิ่มเป็นอย่างน้อย 553 คน โดยรัฐบาลเมียนมา ปรับลดเกณฑ์ การพิจารณาให้ผู้ป่วยออกจากโรงพยาบาล เพื่อสำรองเตียงให้เพียงพอสำหรับการรับผู้ป่วยใหม่ที่เพิ่มขึ้นไม่หยุด นับตั้งแต่พบการติดเชื้อภายในประเทศ ที่รัฐยะไข่ เมื่อวันที่ 16 สิงหาคม ที่ผ่านมา
          ทั้งนี้ กระทรวงสาธารณสุขของเมียนมา ได้ประกาศขยายขอบเขตมาตรการล็อกดาวน์ ในภูมิภาคย่างกุ้งเพิ่มอีก 21 เขต ซึ่งเป็นพื้นที่มีผู้ติดเชื้อสะสมไม่ต่ำกว่า 5 คน ทำให้ขณะนี้มีอย่างน้อย 28
          เขตในภูมิภาคย่างกุ้งที่ต้องอยู่ภายใต้มาตรการล็อกดาวน์ หลังจากสถานการณ์การแพร่ระบาดในภูมิภาคย่างกุ้งมีแนวโน้มรุนแรงขึ้น โดยจำนวนผู้ป่วยสะสมเพิ่มเป็นอย่างน้อย 675 คน นับตั้งแต่วันที่ 16 สิงหาคม