ไวรัสโควิด-19 ยังแพร่ระบาดอย่างหนักในลาตินอเมริกา ล่าสุดยอดผู้เสียชีวิตสะสมทะลุ 7 หมื่นราย บราซิลหนักสุดเฉียด 4 หมื่นราย ตามมาห่างๆ ด้วยเม็กซิโกและเปรู ขณะที่ชิลี กับอาร์เจนตินาก็อยู่ในสถานการณ์ที่น่าเป็นห่วง ด้านรัสเซียมียอดผู้ป่วยมากกว่า 5 แสน รายแล้ว อิตาลียังไม่พร้อมรับนักท่องเที่ยวจากสหรัฐและชาติในเอเชีย องค์การอนามัยโลก ชี้จำเป็นต้องศึกษาวิจัยเพิ่มในประเด็นผู้ติดเชื้อแต่ไม่แสดงอาการ
          สำนักข่าวต่างประเทศรายงานสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ 2019 หรือโควิด-19 ว่า ในช่วงเช้าวันที่ 11 มิถุนายน ว่า จำนวนผู้ติดเชื้อ ทั่วโลกอยู่ที่ 7,444,646 ราย เสียชีวิต 418,126 ราย โดยในรอบ 24 ชั่วโมง ที่ผ่านมา มีผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้น 133,122 ราย เสียชีวิต 5,154 ราย
          สำนักข่าวเอเอฟพี รายงานว่า ตัวเลข ผู้เสียชีวิตจากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ในลาตินอเมริกาพุ่งทำสถิติใหม่อีกครั้ง หลังยอดผู้เสียชีวิตเพิ่มสูงขึ้นทะลุ 70,000 รายแล้ว บราซิลมีผู้เสียชีวิตมากที่สุดคือเกือบ 40,000 ราย หรือคิดเป็นจำนวนมากกว่าครึ่งหนึ่งของจำนวนผู้เสียชีวิตในลาตินอเมริกา ทั้งหมด ขณะที่เม็กซิโกยอดผู้เสียชีวิตใกล้แตะ 15,000 ราย ส่วนเปรู มีผู้เสียชีวิตเกือบ 6,000 ราย
          ทวีปอเมริกายังคงเป็นศูนย์กลางในการแพร่ระบาดของไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ โดยตัวเลขผู้เสียชีวิตในทวีปอเมริกาเหนือและใต้รวมกัน มีผู้เสียชีวิตเกินครึ่งหนึ่งของจำนวนผู้เสียชีวิตทั่วโลกในขณะนี้กว่า 418,000 ราย ขณะที่จำนวนผู้ติดเชื้อในหลายประเทศในลาตินอเมริกาก็เพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง
          ทั้งนี้ แม้ว่าสถานการณ์แพร่ระบาดยังน่าวิตก แต่ประเทศบราซิลก็เริ่มผ่อนคลายมาตรการควบคุมโรคแล้ว ล่าสุดนครเซาเปาโลเริ่มเปิดร้านค้าและมีประชาชนออกมาจับจ่ายสินค้าราคาถูกกันเป็นจำนวนมาก ขณะที่ทางร้านมีการตรวจวัดอุณหภูมิและบริการเจล ล้างมือให้แก่ลูกค้า
          ชิลี-อาร์เจนตินาน่าเป็นห่วง
          ขณะที่ชิลีเป็นประเทศหนึ่งที่มีการแพร่ระบาดอย่างรุนแรง ล่าสุดทางการตัดสินใจ ขยายมาตรการกักกันโรคในกรุงซานติอาโก ออกไปอีกหลังพบว่าจำนวนผู้ติดเชื้อเพิ่มสูงขึ้น ล่าสุด ชิลีมียอดผู้ติดเชื้อสะสมเกือบ 150,000 คน และมีผู้เสียชีวิตเกือบ 2,500 คน
          ส่วนที่อาร์เจนตินาสถานการณ์ยัง น่าเป็นห่วงจำนวนผู้ติดเชื้อยังเพิ่มขึ้นอย่าง ต่อเนื่อง และล่าสุดพบว่ามีผู้ติดเชื้อรายใหม่เพิ่มขึ้น 1,141 คน ภายในวันเดียวเป็นครั้งแรก จำนวนผู้ติดเชื้อสะสม 25,987 คน และมี ผู้เสียชีวิต 735 คน โดยกรุงบัวโนสไอเรสเป็นพื้นที่ที่มีการแพร่ระบาดรุนแรงที่สุด แม้จะมีการขยายมาตรการล็อกดาวน์ก็ตาม
          รัสเซียติดเชื้อทะลุ5แสนคน
          สำหรับสถานการณ์ในยุโรป เว็บไซต์ทางการรัสเซียระบุว่า ยอดผู้ป่วยโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโควิด-19 ล่าสุดเพิ่มขึ้นเป็นกว่า 500,000 คนแล้ว หลังจากทางการกรุงมอสโกยกเลิกมาตรการปิดเมืองในสัปดาห์นี้ โดยมีรายงานระบุว่า ยอดผู้ป่วยโควิด-19 สะสมทั่วประเทศอยู่ที่ 502,436 คน โดยเมื่อวันก่อนมีรายงานผู้ป่วยรายใหม่ถึง 8,779 คน ผู้ป่วยส่วนใหญ่อยู่ใน 2 เมืองใหญ่ที่สุดของประเทศ คือ กรุงมอสโก และนครเซนต์ปีเตอร์สเบิร์กและพื้นที่โดยรอบ ส่วน ในวันนี้ กรุงมอสโกมีรายงานผู้ติดเชื้อรายใหม่ 1,436 คน ซึ่งทางการกรุงมอสโกเพิ่งยกเลิกมาตรการจำกัดเมื่อวันอังคารที่ผ่านมา มีประชาชนจำนวนมากออกมาตามท้องถนนและสวนสาธารณะต่างๆ ขณะเดียวกัน มีรายงานว่า พื้นที่อื่นๆ ของรัสเซียกำลังยกเลิกมาตรการจำกัด เช่นกัน ขณะกำลังจะมีการลงประชามติครั้งสำคัญทั่วประเทศในวันที่ 1 กรกฎาคมนี้
          ทั้งนี้ รัสเซียมีรายงานผู้เสียชีวิต สะสมอยูที่ 6,532 คน ซึ่งนับว่ายังต่ำกว่าอีกหลายประเทศที่มีการระบาดอย่างหนัก แต่ก็มีนักวิจารณ์หลายคนแสดงความสงสัยต่อตัวเลขผู้เสียชีวิตอย่างเป็นทางการ โดยกล่าวหา ว่าทางการรายงานตัวเลขต่ำกว่าความเป็นจริง แต่ทางการอ้างว่า มีผู้ติดเชื้อหลายรายที่มีอาการไม่รุนแรงหรือไม่ปรากฏอาการ และกระทรวงสาธารณสุขกำลังปรับเปลี่ยนวิธีการ รายงานตัวเลขผู้เสียชีวิต โดยให้รวมการ เสียชีวิตที่เชื่อว่าอาจจะเกิดจากเชื้อไวรัสโคโรนา 2019
          อังกฤษจ่อคลายล็อกดาวน์
          ขณะที่ อังกฤษเตรียมผ่อนคลายมาตรการล็อกดาวน์ เพื่อช่วยเหลือผู้ที่ใช้ชีวิตลำพังที่ต้องโดดเดี่ยว โดยมาตรการผ่อนคลายของนายกรัฐมนตรีบอริส จอห์นสัน จะทำให้ผู้ที่ใช้ชีวิตโดยลำพังหรือพ่อแม่ เลี้ยงเดี่ยว สามารถพบปะกับคนในครอบครัวอื่นได้โดยไม่ต้องเว้นระยะห่างจากกัน 2 เมตร และสามารถพักค้างคืนที่อื่นได้ นอกจากนี้ ยังทำให้คู่สมรสที่ต้องแยกจากกันสามารถกลับมาใช้ชีวิตด้วยกัน และทำให้คุณปู่คุณย่าสามารถกอดกับบุตรหลานได้ตั้งแต่วันเสาร์นี้ เป็นต้นไป
          ศ.นีล เฟอร์กูสัน นักวิชาการแห่งอิมพีเรียล คอลเลจ ที่เคยแนะนำรัฐบาลอังกฤษ เรื่องการประกาศมาตรการล็อกดาวน์ กล่าวว่า จำนวนผู้เสียชีวิตจากโควิด-19 ในอังกฤษอาจลดลงถึงครั้งหนึ่ง หากประกาศล็อกดาวน์เร็วกว่านี้ 1 สัปดาห์
          อิตาลียังไม่พร้อมรับนทท.
          นายโรแบร์โต สเปอแรนซา รัฐมนตรีสาธารณสุขอิตาลี แถลงต่อวุฒิสภาว่า ยังเร็วเกินไปที่จะเปิดรับนักท่องเที่ยวจากสหรัฐและเอเชีย เนื่องจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ยังน่าเป็นห่วง หลังจากเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว อิตาลีผ่อนคลายมาตรการล็อกดาวน์ เปิดให้ประชาชนสามารถเดินทางท่องเที่ยวภายในประเทศได้ พร้อมกับเปิดรับนักท่องเที่ยวจากยุโรป
          สำหรับธุรกิจการท่องเที่ยวและ ร้านอาหาร คิดเป็นรายได้ร้อยละ 13 ของ จีดีพีของอิตาลี ขณะที่สมาคมเจ้าของโรงแรม ระบุว่า เวลานี้พนักงานโรงแรมจำนวนมาก เสี่ยงตกงาน หากไม่มีนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ เข้าประเทศ โดยเฉพาะนักท่องเที่ยวจากสหรัฐและเอเชีย
          โตเกียวเล็งเปิดธุรกิจ19มิ.ย.นี้
          ที่ญี่ปุ่น หนังสือพิมพ์ธุรกิจรายวันนิกเกอิ รายงานว่า ทางการกรุงโตเกียว ของ ญี่ปุ่น กำลังวางแผนจะให้ธุรกิจทั้งหมดเปิดดำเนินการอีกครั้งนับจากวันที่ 19 มิถุนายนเป็นต้นไป โดยทางการกรุงโตเกียวได้เริ่มผ่อนคลายมาตรการจำกัดเพื่อควบคุมการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ในเดือนนี้ หลังจากรัฐบาลยกเลิกการประกาศ สถานการณ์ฉุกเฉินไปเมื่อปลายเดือนพฤษภาคม ที่ผ่านมา แต่ยังคงไม่เปิดให้บริการในบางธุรกิจ ที่ยังคงเห็นว่ามีความเสี่ยงสูงต่อการแพร่เชื้อ เช่น ร้านดนตรีสด ส่วนภัตตาคารและบาร์ต่างๆ เปิดโดยจำกัดชั่วโมงการให้บริการ
          อนามัยโลกชี้โควิดยังระบาดหนัก
          ทางด้าน นายไมค์ ไรอัน ผู้อำนวยการ โครงการฉุกเฉินด้านสาธารณสุขขององค์การอนามัยโลก (ดับเบิลยูเอชโอ) กล่าวว่า เวลานี้ ไวรัสโควิด-19 ยังคงมีการแพร่ระบาดหนักขึ้น ในหลายพื้นที่ของโลก ซึ่งเป็นเรื่องที่น่ากังวลอย่างยิ่ง
          ขณะที่ นายทีโดรส อัดฮานอม เกรเบรเยซุส ผอ.องค์การอนามัยโลก กล่าวถึง เรื่องผู้ติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 ที่ไม่แสดงอาการป่วย แต่สามารถแพร่เชื้อได้ว่าเป็นเรื่องที่จำเป็นต้องศึกษาวิจัยเพิ่มเติม และเสริมด้วยว่าการค้นหาผู้ติดเชื้อ การแยกตัวออกจากคนอื่นยังคงเป็นแนวทางสำคัญในการยับยั้งการแพร่ระบาด
          ทั่วโลกติดเชื้อ7.4ล้านดับ4.1แสน
          สำหรับการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ทั่วโลก นับถึงช่วงเย็นวันที่ 11 มิถุนายน 2563 มีผู้ติดเชื้อสะสมจำนวน 7,477,996 ราย เสียชีวิต 419,382 ราย รักษาหายแล้ว 3,792,064 ราย สหรัฐ ติดเชื้อ 2,066,508 ราย เสียชีวิต 115,137 ราย บราซิล ติดเชื้อ 775,184 ราย เสียชีวิต 39,797 ราย รัสเซีย ติดเชื้อ 502,436 ราย เสียชีวิต 6,532 ราย อังกฤษ ติดเชื้อ 290,143 ราย เสียชีวิต 41,128 ราย สเปน ติดเชื้อ 289,360 ราย เสียชีวิต 27,136 ราย