HISO - เรื่องเล่าข่าวเด่น

  
   Follow us      
  
หนังสือพิมพ์แนวหน้า [ วันที่ 18/05/2563 ]
พฤติกรรมหย่อนหลังคลายล็อก ศบค.เตือนคนไทยตัวเลขความร่วมมือต่ำลงทุกด้าน

 เปิดห้างวันแรกคึกคักปชช.ต่อแถวตั้งแต่เช้าเล็งใช้กม.อื่นแทนพรก.ป่วยอีก3คน-ไม่มีตาย
          ศบค.แถลงติดเชื้อรายวันเพิ่ม 3 ราย อยู่ในสถานกักกัน ของรัฐ เป็นชายทั้งหมดกลับจากปากีฯ-อียิปต์  ไม่มีเสียชีวิต ขณะที่โพลล์ สธ.เผยพฤติกรรมปชช.หลัง ผ่อนปรน พบตัวเลขความร่วมมือมาตรการด้านสาธารณสุข ลดต่ำลงทุกด้าน ทั้งสวมหน้ากากอนามัย-ล้างมือ-ใช้ช้อนส่วนตัว และเว้นระยะห่างทางสังคม ด้านผอ.ศบค.สั่งฝ่ายกฎหมายศึกษาหากฎหมายใช้ทดแทนหากไม่ต่อพ.ร.ก.ฉุกเฉิน มท.สั่งผู้ว่าฯทั่วประเทศยึดข้อกำหนด ศบค.เข้มข้น หลังคลายล็อกเฟส 2 เปิดห้างวันแรก คึกคัก ประชาชนแห่รอคิวแน่น โดยต้องโหลดแอพฯ "ไทยชนะ.com" เช็คอินก่อนเข้าใช้บริการ ปลัดกทม.โร่ตรวจ ห่วงคนเยอะ รอประเมิน 3 วัน
          เมื่อวันที่  17  พฤษภาคม ที่ทำเนียบ รัฐบาล นพ.ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน โฆษกศูนย์ บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) หรือศบค. แถลงว่า สถานการณ์การแพร่ระบาดในประเทศไทย มีผู้ป่วยรายใหม่ 3 ราย ทำให้ยอดผู้ป่วยสะสมอยู่ที่ 3,028  ราย หายป่วยสะสม 2,856 ราย ไม่มีรายงานผู้เสียชีวิตเพิ่มเติม  ทำให้ยอดสะสมผู้เสียชีวิต ยังอยู่ที่ 56 ราย อยู่ระหว่างรักษาตัว 116 ราย
          พบป่วยใหม่3รายในสถานกักกันรัฐ
          ในส่วนผู้ป่วยรายใหม่ 3 ราย  มาจาก สถานกักกันที่รัฐจัดให้ทั้งหมด และเป็นเพศชายทั้งหมด โดย 1 ราย  เป็นนักศึกษา อายุ 23 ปี กลับมาจากปากีสถานเมื่อวันที่ 7 พฤษภาคม อีก  2 ราย เป็นนักศึกษาอายุ 21 ปี และ 23 ปี กลับมาจากอียิปต์เมื่อวันที่ 8 พฤษภาคม ซึ่งก่อนเดินทางได้ตรวจสารคัดหลั่งในโพรงจมูกมาแล้ว ครั้งหนึ่งแต่ไม่พบเชื้อ แต่มาตรวจพบเชื้อที่ประเทศไทย โดยระยะฟักตัวจากวันที่เดินทาง มาถึงไทย อยู่ที่ 9-10 วัน ยืนยันเราจะดูแลอย่างเต็มที่ ในส่วนปัจจัยเสี่ยงของผู้ป่วยในสองสัปดาห์ล่าสุด มาจากศูนย์กักกันของรัฐ ผู้ต้องกักมากที่สุด รองลงมาคือ จากการค้นหาเชิงรุก
          น่าห่วงโพลล์สธ.ชี้คนไทยการ์ดตก
          นพ.ทวีศิลป์กล่าวต่อว่า จากการศึกษาร่วมกันระหว่างกระทรวงสาธารณสุข มหาวิทยาลัยต่างๆ และสปสช. เพื่อสำรวจ พฤติกรรมประชาชนหลังมีมาตรการผ่อนปรน โดยเทียบระหว่างช่วงวันที่ 23-30 เมษายน กับ 14-18 พฤษภาคม พบว่า ตัวเลขความร่วมมือต่ำลงทั้งสิ้น  โดยพฤติกรรมโดยรวมลดลงจาก 77.6% เหลือ  72.5% สวมหน้ากากอนามัย จาก 91.2% เหลือ 91% ล้างมือด้วยสบู่หรือใช้เจลแอลกอฮอล์ จาก 87.2% เหลือ 83.4% กินร้อน ใช้ช้อน ตัวเอง จาก 86.1% เหลือ 82.3% ระวังไม่อยู่ใกล้คนอื่นในระยะน้อยกว่า 2 เมตร จาก 65.3% เหลือ 60.7% และการไม่เอามือจับหน้า จมูก ปาก จาก 62.9% เหลือ 52.9% ขณะที่ผลการตรวจกิจการ/กิจกรรมประจำวันที่ 16 พฤษภาคม ตรวจไปทั้งสิ้น 20,204 กิจการ/กิจกรรม ปฏิบัติตามมาตรการ 20,153 กิจการ/กิจกรรม ปฏิบัติตามมาตรการ แต่ไม่ครบ 51 กิจการ/กิจกรรม ไม่พบการกิจการ/กิจกรรมที่ไม่ปฏิบัติตาม
          1.1หมื่นร้านลงทะเบียนไทยชนะ
          นพ.ทวีศิลป์ยังแถลงถึงกรณีมีการส่งต่อข้อความทางไลน์ให้กดลงทะเบียนใน "ไทยชนะ.COM" เพื่อดูว่ามีคนเข้าใช้บริการในสถานที่ต่างๆ เท่าไหร่ อย่างไร ทำให้มีคำถามว่าเมื่อมีผู้ติดเชื้อน้อยแล้ว เหตุใดยังต้องลงทะเบียน ถ้าไม่ลงทะเบียนจะเป็นอย่างไร รัฐบาลบังคับในประเด็นนี้ หรือไม่ว่า ไม่ได้เป็นการบังคับแต่อย่างใด แต่เป็นการขอความร่วมมือ เพื่อที่จะดีต่อสุขภาพของท่านเอง และดีต่อการรับ ความแออัดหนาแน่นของผู้ใช้บริการ ดีต่อร้านค้าหรือผู้ให้บริการด้วย ดีต่อทุกส่วน รวมไปถึงส่วนที่จะเข้าไปตรวจสอบด้วย ตั้งแต่เวลา 06.00 น. มีร้านค้าที่ลงทะเบียน ไปแล้วกว่า 11,559 ร้านค้า แบ่งเป็น กรุงเทพมหานคร 3,420, ชลบุรี 877, นนทบุรี 611, สมุทรปราการ 545, ปทุมธานี 423, เชียงใหม่ 381, สุราษฎร์ธานี 357, นครราชสีมา 311, ขอนแก่น 248 และสงขลา 219 ต้องขอบคุณทุกจังหวัดที่ช่วยกัน เพื่อท่านเองจะมีความสะดวก
          ศบค.ชี้ระบบช่วยดูแลกลุ่มเสี่ยง
          นพ.ทวีศิลป์กล่าวว่า สมมุติว่า มีข่าวมีการติดเชื้อตรงนั้น ตรงนี้ แทนที่จะไปกวาดคนมาเป็นร้อยคน ระบบของการที่เราจะดูแลตรงนี้ได้ และถ้าท่านเกิดเป็นกลุ่มเสี่ยง ท่านก็จะสามารถเข้าตรวจได้ฟรีโดยไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายใดๆ และรัฐก็ไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายในการตรวจแบบหว่านแหจำนวนมากๆ ด้วย นอกจากนี้ เราจัดทำอีกช่องทางคือ 1119 เพื่อให้เจ้าของกิจการ และคนทั่วไปที่มีความสงสัยโทรศัพท์เข้าไปได้ ไลน์ก็สามารถเข้าไปสอบถามข้อมูลได้
          เมื่อถามว่า ขณะนี้มีความสับสนระหว่างไทยชนะ กับหมอชนะ ที่ออกมาก่อนหน้านี้ มีความแตกต่างกันอย่างไร นพ.ทวีศิลป์กล่าวว่า หมอชนะเป็น แอพพลิเคชั่นที่เอาไว้ใช้ดูความเสี่ยงของแต่ละคน ต้องกรอกตอบแบบสอบถาม ต้องแสดงตน แต่ระบบใหญ่คือ ไทยชนะ ซึ่งอาจจะมีหมอชนะ หรืออื่นๆ ตามเข้ามาในฐานใหญ่นี้อีกทีหนึ่ง ไม่ได้มีความ ซ้ำซ้อนอะไรกัน เพียงแต่มีหลายมุม
          สั่งศึกษาไม่ขยายพรก.ฉุกเฉิน
          ถามต่อว่า หากการผ่อนปรนระยะที่ 2 ดีขึ้น จะพิจารณาไม่ขยาย พ.ร.ก.ฉุกเฉิน และมาใช้ พ.ร.บ.ควบคุมโรคติดต่อ แทนได้หรือไม่ นพ.ทวีศิลป์ กล่าวว่า เรื่องดังกล่าว ผอ.ศบค.มอบให้คณะกรรมการด้านกฎหมายไปศึกษา ถ้าต้องปรับเปลี่ยนให้นำเสนอขึ้นมา การใช้ พ.ร.ก.ฉุกเฉินที่ผ่านมาเป็นการรวบรวมกฎหมายต่างๆ ให้มาอยู่ภายใต้ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ให้เกิดมาตรการดูแลสังคมในสถานการณ์โรครุนแรง แต่ตอนนี้ในประเทศคุมโรคได้ระดับหนึ่ง เพียงแต่ยังมีประเด็น เช่น ขณะนี้เราห้ามเครื่องบินเข้าถึง 30 มิถุนายน ถ้าจะยกเลิกพ.ร.ก. ฉุกเฉิน จะใช้สามารถประมวลกฎหมายตัวใดมาแทน ดังนั้น จึงต้องใช้กฎหมายหลายด้านประกอบกันเพื่อป้องกันการนำเชื้อ เข้าประเทศและการควบคุมเชื้อให้อยู่ในการดูแลได้ทั้งหมด ตรงนี้จึงมีความจำเป็น ถ้าจะยกเลิกแต่สถานการณ์ของโลกยังติดเชื้ออยู่จำนวนมาก เราต้องดูกันอย่างลึกซึ้งและใช้เวลาพอสมควร ถ้าไทยดีขึ้น ทั่วโลกดีขึ้น ก็ไม่มีความจำเป็น แต่สถานการณ์โลกยังระบาด จึงยังมีความจำเป็น ซึ่งคณะกรรมการด้านกฎหมายต้องไปศึกษามาว่ามีกฎหมายอะไรทดแทนได้ เพื่อสรุปความเห็น นำเสนอต่อ ผอ.ศบค.ต่อไป
          เล็งขยายรับคนไทยกลับบ้าน
          เมื่อถามว่า มีแนวโน้มขยายจำนวนการรับคนไทยจากต่างประเทศเข้ามาแต่ละวันหรือไม่ นพ.ทวีศิลป์กล่าวว่า ในที่ประชุม ศบค.สัปดาห์ก่อนได้คุยกันเรื่องนี้ และให้ความสำคัญ เนื่องจากสถานการณ์การแพร่ระบาดในประเทศต่างๆ ไม่ดีนัก และคนไทยมีสิทธิกลับประเทศ ดังนั้น เราต้องทำงานกันอย่างหนัก โดยกระทรวงสาธารณสุข กระทรวงต่างประเทศ กระทรวงมหาดไทย กระทรวง กลาโหม ระบุว่าสามารถรองรับได้ จากที่ กำหนดไว้ 200 คนต่อวัน อาจขยับมา 300 ต่อวัน และต่อไปน่าจะขยับไป 400 ต่อวัน
          เผย5ข้อปฏิบัติรับชีวิตปกติวิถีใหม่
          วันเดียวกัน นพ.บัญชา ค้าของ รองอธิบดีกรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุข แถลงว่า สำหรับชีวิตปกติวิถีใหม่ของประชาชนตามมาตรการผ่อนปรนระยะ 2 มี 5 ข้อหลัก คือ 1.คัดกรองตนเองว่าป่วยหรือเสี่ยง หลังตื่นนอนทุกเช้าต้องคัดกรองตัวเองว่ามีอาการป่วยหรือไม่ อาทิ ไข้ ไอ จาม เจ็บคอ หายใจเหนื่อย หรือ มีประวัติเดินทางไปยังสถานที่ มีความเสี่ยง เช่น สถานที่แออัด ตลาดนัด การกินเลี้ยงสังสรรค์ เมื่อพบว่าตนเองมีความเสี่ยงจะต้องไม่ออกนอกบ้านและดูแลหรือกักกันตัวเอง 2.ประเมินความจำเป็นและวางแผนออกนอกบ้านให้สั้น จะต้องมีการวางแผนก่อนออกจากบ้าน สถานที่ใดไม่จำเป็นก็ไม่ต้องเดินทางไป หากจำเป็นต้องไปจะต้องลดระยะเวลาให้สั้น 3.เลือกสถานบริการมาตรฐานตามมาตรการรัฐ ซึ่งเป็นชีวิตวิถีใหม่ โดยขณะนี้ประเทศไทยมีแพลตฟอร์มไทยชนะ ให้ประชาชนสามารถเข้าไปตรวจสอบก่อนเดินทางไปยังสถานที่ต่างๆได้ 4.ใช้เครื่องป้องกันสวมหน้ากาก เจลแอลกอฮอล์ สิ่งที่สำคัญคือการล้างมือ และจะต้องสวมหน้ากากอนามัยให้เป็นอาวุธประจำตัว 5.ให้ความร่วมมือปฏิบัติตามมาตรการของสถานประกอบการ หากเดินทางไปยังสถานประกอบการใดจะต้องให้ความร่วมมือในการ คัดกรอง ตามมาตรการต่างๆ
          นพ.บัญชากล่าวต่อว่า วิถีใหม่ความ ร่วมมือของประชาชนขณะอยู่ในสถานประกอบการ ดังนี้ 1.ลงทะเบียน โดยสามารถ ทำได้ 2 วิธี คือ การสแกนคิวอาร์โค้ด หรือการ จดบันทึกด้วยมือ 2.คัดกรอง ผู้ที่มีอาการป่วย และมีความเสี่ยง จะไม่สามารถเข้าสถานประกอบการได้ 3.ล้างมือด้วยเจลแอลกอฮอล์หรือน้ำสบู่ 4.ไม่ใช้ของร่วมกัน เช่น การรับประทานอาหารแบบบุฟเฟ่ต์ จะต้องไม่ใช้ ช้อนตักร่วมกัน จะต้องแยกของใช้อย่างชัดเจน 5.ลดพูดคุยเสียงดัง รวมถึงการตั้งวงดื่มสุรา ที่ส่งผลทำให้ไม่สามารถควบคุมสติได้ 6.เลี่ยงสถานที่แน่น ศบค.กำหนดว่า งดการ จัดกิจกรรมโปรโมชั่น ชั่วโมงทอง ลดราคาสินค้าที่ทำให้มีประชาชนเข้าไปแออัดกัน และ 7.เว้นระยะห่าง โดยเน้นหลักการอย่างง่าย คือ โต๊ะ เตียง วางห่างกัน 2 เมตร ประชาชนห่างกัน 1 เมตร พื้นที่ 1 คนต่อ 5 ตารางเมตร สระว่ายน้ำ 150 ตารางเมตร ต่อ 1 คนว่ายน้ำ
          สถานประกอบการต้องดูแลลูกจ้าง
          นพ.บัญชา กล่าวด้วยว่า วิถีใหม่ของผู้ประกอบการ โดยจะมีเจ้าหน้าที่พนักงานท้องถิ่นทำหน้าที่ในการตรวจสอบสถานประกอบการต่างๆ ดังนี้ 1.ลงทะเบียน จัดคิวล่วงหน้า 2.จัดที่รอ มีการจัดที่นั่งรอโดยจะต้องเว้นระยะห่าง 3.คัดกรอง ผู้เข้าใช้บริการ 4.ติดตั้งจุดบริการ เจลล้างมือ ให้เพียงพอ 5.จัดสถานที่หรือบริการ ลดแน่นเว้นระยะ โดยจะต้องมีผู้เข้าไปกำกับควบคุมระบายคนอย่าให้เกิดความหนาแน่น 6.ทำความสะอาด ขอเน้นย้ำว่าจะต้องทำความสะอาดทุก 2 ชั่วโมง 7.ระบายอากาศ ต้องตรวจสอบว่าเครื่องปรับอากาศมีการเกิดเชื้อราหรือไม่ แต่หากประชาชนสวมหน้ากากอนามัยอย่างไรก็สามารถป้องกันได้ในระดับหนึ่ง 8.งดสุรา ซึ่งเป็นข้อห้ามเด็ดขาดที่ห้ามมีการบริการ 9.จำกัดเวลาบริการ กำหนดให้ตั้งแต่ 1-2 ชั่วโมง ต่อราย ซึ่งเป็นรายละเอียดของแต่ละกิจกรรม และ 10.จำกัดบริการหรือกิจกรรมใกล้ชิด
          นพ.บัญชากล่าวอีกว่า ส่วนวิถีใหม่ หน่วยงานรัฐที่มีหน้าที่ติดตามกำกับมาตรการ ผ่อนปรน ดังนี้ 1.การแยก กัก ดูแล ติดตามรายสัมผัสคนป่วย คนเสี่ยง ในกรณีเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงานติดตามกำกับที่มีความเสี่ยง 2.แพลตฟอร์มไทยชนะ การลงทะเบียน ผู้ประกอบการ และประชาชน 3.คู่มือการปฏิบัติ ของกระทรวงสาธารณสุข โดยกรมอนามัยและกรมควบคุมโรค จะมีกำหนดออกมาอย่างเหมาะสม เนื่องจากมีบางกิจการที่ไม่สามารถทำได้ตามรายละเอียด ทั้ง 2 กรมจะลงพื้นที่ ลงไปเพื่อปรับ/ออกแบบใหม่ เพื่อสร้างความปลอดภัย 5.หน่วยงานพื้นที่ตรวจสอบ กำกับ และ 5.สายตรวจ ตำรวจ ทหาร เจ้าหน้าที่ สาธารณสุข เป็นการผนึก 3 กำลัง โดยกระทรวงสาธารณสุขเป็นผู้ช่วยด้านวิชาการ ส่วนตำรวจและทหารบังคับใช้ตามกฎหมาย
          ปัดยื้อเลิกพรก.ฉุกเฉินหวงอำนาจ
          ส่วนนางนฤมล ภิญโญสินวัฒน์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรีกล่าวถึง กรณีหลายฝ่ายออกมาเรียกร้องให้รัฐบาลยกเลิกพ.ร.ก.ฉุกเฉินฯทันทีว่า เรื่องนี้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม ในฐานะผอ.ศบค.พิจารณา พ.ร.ก.ฉุกเฉิน อยู่ตลอดเพื่อพิจารณา ถึงสถานการณ์ โดยล่าสุดที่ประชุม ศบค. ได้อนุมัติให้ผ่อนคลายระยะที่ 2 จากการ ประเมินการผ่อนคลายระยะที่ 1 พบตัวเลข ผู้ติดเชื้อลดลงเป็นลำดับ รวมทั้งความร่วมมือของประชาชนทั่วไปอยู่ในเกณฑ์สูงมาก ทำให้ผ่อนคลายในระยะที่ 2 ตามมา
          ส่วนที่มีคนเสนอให้ยกเลิก พ.ร.ก. ฉุกเฉินทันทีนั้น จากสถานการณ์ปัจจุบันอาจยังดำเนินการไม่ได้ทันที รัฐบาลโดยนายกรัฐมนตรี เข้าใจถึงความเดือดร้อนของประชาชนทุกกลุ่ม แต่รัฐบาลจำเป็นยังต้องให้คงอยู่ เพราะจากการรายงานของ ผู้ติดเชื้อไว้รัสโควิด-19 แต่ละวันยังมีตัวเลข ผู้ติดเชื้อผันผวน แม้บางวันไม่มีผู้ติดเชื้อแต่บางวันยังมีผู้ติดเชื้ออยู่ รัฐบาลจึงจำเป็นต้องให้สถานการณ์ผู้ติดเชื้อฯหยุดนิ่งก่อน เพราะเราต้องรักษาชีวิตประชาชนก่อน ทั้งนี้ทุกภาคส่วนก็ต้องให้ความร่วมมือกับรัฐบาลป้องกันการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 อย่างเข้มงวดด้วย"
          "นายกฯเน้นย้ำว่า ไม่ได้ประวิงเวลาประกาศใช้ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน เพื่อประโยชน์ของตัวเอง หรือต้องการรักษาอำนาจไว้อย่างที่หลายฝ่ายนำไปเป็นประเด็นกล่าวหา รัฐบาลเข้าใจดีว่าวันนี้บ้านเมืองกำลังมีปัญหาเรื่องเศรษฐกิจ รัฐบาลกำลังแก้ปัญหา และช่วยเหลือประชาชนในทุกกลุ่ม ที่ได้รับผลกระทบ อยู่" โฆษกรัฐบาลกล่าว และว่า ในสถานการณ์ ขณะนี้ รัฐบาลอยากให้ทุกฝ่ายเข้าใจปัญหา ที่เกิดขึ้น และร่วมมือกันปัญหาเพื่อประชาชน และเศรษฐกิจไทยจะเดินต่อไปข้างหน้าได้ เช่น ขณะนี้รัฐบาลก็เริ่มผ่อนคลายให้สถานประกอบการหลายแห่ง เริ่มดำเนินกิจกรรมได้ แต่ต้องอยู่ภายใต้เงื่อนไขและข้อกำหนดของ ศบค. และเชื่อว่าเมื่อสถานการณ์ดีขึ้นต่อเนื่อง ทุกธุรกิจและทุกกิจกรรม ก็จะสามารถกลับมาเปิดให้บริการได้เพิ่มขึ้น
          เตรียมเปิดญาติเยี่ยมผู้ต้องขังสิ้นพ.ค.
          ขณะที่นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รมว. ยุติธรรม เปิดเผยว่า หลังรัฐบาลผ่อนปรนลดหย่อน มาตรการป้องกันการระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 หลายด้าน ทำให้ประชาชนสามารถทำกิจกรรมต่างๆ ได้มากขึ้น ตนเห็นว่า กรมราชทัณฑ์ควรจะให้ญาติผู้ต้องขังมาเยี่ยมกันได้ แต่ ทุกอย่างต้องขึ้นอยู่กับประกาศต่างๆ ของศูนย์บริหารสถานการณ์การระบาดของ โควิด-19 (ศบค.)  ประกาศจากกระทรวงสาธารณสุข และประกาศของจังหวัดต่างๆ เบื้องต้นการเยี่ยมญาติอาจต้องยึดพื้นที่จังหวัดที่ไม่พบผู้ป่วยแล้วมาระยะหนึ่ง การเยี่ยมต้องจัดระเบียบเน้นการเว้นระยะห่างทางสังคม ป้องกันการระบาด
          "การประกาศให้เยี่ยมญาติต้อง บอกก่อนว่ามีข้อแม้ มีกฎระเบียบเคร่งครัด จะเริ่มผ่อนปรนทยอยเปิดให้เยี่ยมได้ประมาณสิ้นเดือนพฤษภาคม กรมราชทัณฑ์ ต้องซักซ้อม ทำความเข้าใจกับญาติ รวมถึง จัดคิวให้เข้าเยี่ยมต่อวัน เพราะที่ผ่านมาทำสำเร็จในการป้องกันโควิด-19 จนไม่พบ ผู้ต้องขังติดเชื้อแพร่กระจายกันในเรือนจำ แม้สถานการณ์คลี่คลายแต่การป้องกันเชื้อจากภายนอกเข้าสู่เรือนจำต้องทำอย่างเข้มข้นเช่นเดิม จากนี้จะเร่งวางแผน วางระเบียบ และประกาศแนวทางอีกครั้ง" นายสมศักดิ์กล่าว
          เซ็นทรัลเวิลด์คึกคักคนแห่รอเข้า
          อีกด้านหนึ่ง วันเดียวกัน ผู้สื่อข่าวรายงานบรรยากาศหน้าศูนย์การค้าเซ็นทรัลเวิลด์ ที่เปิดทำการหลังจาก ศบค.ปลดล็อกระยะ 2 ให้ห้างสรรพสินค้าเปิดให้บริการได้ โดยต้องปฏิบัติตามมาตรการที่รัฐกำหนด ซึ่งมีประชาชนมารอต่อคิวก่อนที่ศูนย์การค้าจะเปิดให้บริการ มากกว่า 100 ราย โดยเข้าคิวเว้นระยะห่าง ตามที่ศูนย์การค้าจัดระเบียบไว้ พร้อมทั้งต้องสแกน คิวอาร์โค้ด เพื่อยืนยันตัวตนก่อนเข้าใช้บริการ
          นายณัฐกิตติ์ ตั้งพูลสินธนา ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ ฝ่ายการตลาด บมจ.เซ็นทรัลพัฒนา กล่าวว่า มีการเตรียมความพร้อมสร้างความมั่นใจด้วยมาตรการความสะอาดปลอดภัยเชิงรุก ตั้งแต่เริ่มต้นสถานการณ์ อีกทั้งยังเป็นผู้นำสร้างบรรทัดฐาน ตอบรับ New Normal ด้วยมาตรการต้นแบบ "เซ็นทรัล สะอาด มั่นใจ" ยินดีอย่างยิ่งที่ได้เห็นทุกภาคส่วนพร้อมใจกันนำไปปฏิบัติในวงกว้าง แสดงให้เห็นศักยภาพของคนไทย โดยเฉพาะ Social Distancing ที่เรียกได้ว่าสร้างปรากฏการณ์จน ได้รับความสนใจทั่วโลก
          ปลัดกทม.ตรวจความพร้อมห้าง
          ด้าน นางศิลปสวย ระวีแสงสูรย์ ปลัดกรุงเทพมหานคร ลงพื้นที่ตรวจความพร้อมในการเปิดให้บริการของห้างสรรพสินค้าซีคอนสแควร์ ซึ่งเป็นวันแรกภายหลังภาครัฐมีมาตรการผ่อนคลายให้ห้างสรรพสินค้าเปิดให้บริการได้ โดยบรรยากาศตั้งแต่ช่วงก่อนห้างเปิดบริการเวลา 10.00 น.พบว่ามีประชาชนเดินทางมาเข้าคิวรอเข้าห้างเป็นจำนวนมาก ซึ่งระหว่างยืนรอจะมีพนักงานห้าง แจ้งให้พี่น้องประชาชนเว้นระยะห่างทางสังคม อย่างน้อย 1-1.5 เมตร รวมทั้ง ก่อนเข้าห้างทุกคนจะต้องมีการเช็คอิน และเวลาออกจะต้องเช็คเอาท์ ผ่านการสแกนคิวอาร์โค้ดแพลตฟอร์ม "ไทยชนะ.com" เพื่อให้ง่ายต่อการดูแล และเก็บข้อมูล โดยจะมีพนักงานยืนให้ข้อมูล และคอยบริการป้ายคิวอาร์โค้ดแก่ลูกค้าทุกคน
          นอกจากนี้เมื่อเข้ามาภายใน ตัวห้าง จะต้องผ่านการคัดกรอง ตรวจวัดอุณหภูมิร่างกายด้วยเครื่อง เฟซ-บอท ที่จะวัดอุณหภูมิร่างกาย และบอกได้ว่าใครไม่สวมใส่หน้ากากจะไม่ให้เข้าในตัวห้าง และบริเวณ ทุกจุด ที่มีการสัมผัสบ่อยๆ เช่น ประตูทางเข้า หน้าลิฟต์ บันไดเลื่อน จะมีบริการเจลล้างมือ
          หวั่นคนเยอะรอประเมินผล3วัน
          ปลัด กทม.กล่าวว่า จากการตรวจสอบทั้งร้านอาหาร ฟู้ดคอร์ท ธนาคาร และร้านค้า ร้านเสื้อผ้า มีมาตรการเตรียมพร้อมเป็นอย่างดี มีการตรวจวัดอุณหภูมิ มีเจลล้างมือ และที่สำคัญในส่วนกลางของตัวห้าง และภายในร้านมีการประชาสัมพันธ์การเว้นระยะห่างอย่างต่อเนื่อง ถือเป็นมาตรการสำคัญที่ทุกร้านต้องเข้มงวดต่อเนื่อง แต่สิ่งน่าห่วงหลังจากนี้ คือห้างใหญ่ที่มีพื้นที่จำนวนมาก อย่างซีคอนสแควร์ แม้จะทำตามมาตรการ 5 ตารางเมตร ต่อลูกค้า 1 คน ก็จะสามารถรองรับได้ถึง 40,000 คน หากเข้ามาพร้อมกันกลัวเรื่องการเว้นระยะห่างทางสังคม จึงได้กำชับทางห้างให้เข้มงวดเรื่องนี้
          นางศิลปสวย กล่าวต่อว่า ได้ประสานเจ้าหน้าที่ตำรวจ และสำนักงานเขต ให้มาตรวจตราเป็นประจำ ไม่ใช่เฉพาะห้างขนาดใหญ่ ห้างขนาดกลางและขนาดเล็ก ห้างเก่าแก่ทั่ว กทม. ก็จะต้องปฏิบัติในแนวทางเดียวกัน ไม่มีข้อยกเว้น ซึ่งหลังจากดำเนินการ ได้ 2-3 วัน กรุงเทพมหานครจะมีการเรียกข้อมูลจากทุกเขต เพื่อมา ประชุมสรุปผลและประเมินผลการดำเนินการ ว่ามีห้างใดฝ่าฝืน ร่วมมือ ขนาดไหน ต้องมีการเพิ่มเติม หรือปรับปรุงมาตรใดอีกหรือไม่
          ขณะที่ นายจรัญ ผู้พัฒน์ รองกรรมการบริหารผู้จัดการสำนักสื่อสารการตลาด และองค์กรสัมพันธ์ ห้างสรรพสินค้าซีคอนสแควร์ กล่าวถึงมาตรการรองรับการป้องกันการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ว่าเน้นย้ำเรื่องความสะอาด งานทำความสะอาด ใช้น้ำยาฆ่าเชื้อโรคเช็ดจุดที่มีการสัมผัสบ่อยๆ ทุกๆ 30 นาที ทุกจุดที่เปิดให้นั่ง จะทำเรื่องหมาย สัญลักษณ์ ต้องเว้นระยะห่าง 1 เมตร ส่วนบริเวณศูนย์อาหาร จัดโต๊ะห่างกัน 1.5 เมตร และจัดที่นั่ง 1 โต๊ะ 1 คน พนักงานทุกคนต้องใส่หน้ากากอนามัย และเฟซชิลด์ตลอดเวลา
          โหลดแอพไทยชนะ1.5แสนคน
          นพ.พลวรรธน์ วิทูรชิต ผู้ตรวจราชการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอีเอส) กล่าวว่า วันนี้ถือเป็นวันแรกที่มีการเปิดใช้แอพพลิเคชั่น ไทยชนะ.com โดยในเวลา 11.30 น. มีผู้ลงทะเบียนสำหรับร้านค้าไปแล้วทั้งสิ้น 26,736 ร้านค้า และผ่านไป 2 ชั่วโมง มีผู้เช็คเอาท์ผ่านระบบ 155,486 คน และมีผู้เช็คอินทุกๆ นาที ผ่านการสแกนคิวอาร์โค้ด 4,635 คน ถือเป็นความร่วมมือร่วมใจของคนไทยในการใช้ แอพพลิเคชั่นดังกล่าว สำหรับขั้นตอนการลงทะเบียนที่สำคัญสำหรับผู้ประกอบการ จะต้องกรอกชื่อ นามสกุล และเลขบัตรประชาชนให้ครบถ้วน เพื่อเข้าสู่ระบบ โดยจะพบว่า มีความผิดพลาด เนื่องจากใส่เลขหลังบัตรประชาชนระหว่างตัวเลขศูนย์ กับพยัญชนะภาษาอังกฤษ ตัวโอสลับกัน และอีกความผิดพลาดคือพิมพ์สระเอสองตัว แทนการพิมพ์สระแอ ซึ่งจะทำให้เกิดความผิดพลาดไม่สามารถเข้าระบบได้ อย่าลืมว่า ทั้งสองสระไม่เหมือนกัน ขอให้ ตรวจสอบตรงนี้ด้วย
          เทอร์มินอล21โคราชตรวจเข้ม
          ที่ ศูนย์การค้าเทอร์มินอล 21 จ.นครราชสีมา ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ภายหลังทางภาครัฐมีมาตรการคลายล็อก ระยะ 2 วันเดียวกันนี้ ทางศูนย์การค้าได้เปิดให้บริการตั้งแต่เวลา 11.00 น. โดยมีพนักงานคอยคัดกรองผู้ที่จะเข้าไปภายในศูนย์การค้าดังกล่าว อย่างเข้มงวด มีเครื่องตรวจวัดอุณหภูมิอย่างละเอียด พร้อมกับจัดเจลแอลกอฮอล์ล้างมือไว้ให้บริการ นอกจากนี้ยังติดป้ายให้บริการเฉพาะผู้ที่สวมหน้ากากอนามัยเท่านั้น เพื่อสร้างความมั่นใจให้กับผู้ค้าและผู้มาใช้บริการ ซึ่งทางผู้ค้าได้ทยอยเข้าพื้นที่เพื่อเปิดร้าน และต่างพากันดีใจที่ได้กลับมาเปิดร้านอีกครั้ง ส่วนประชาชนที่มาใช้บริการต่างมั่นใจในมาตรการของศูนย์การค้าฯ
          อย่างไรก็ดี สำหรับศูนย์การค้าแห่งนี้ นับว่าได้รับผลกระทบ 2 ครั้งติดต่อกันแล้วในปีนี้ เนื่องจาก ก่อนหน้านี้ เมื่อวันที่ 8 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา ได้เกิดเหตุกราดยิงประชาชน จนศูนย์การค้า ต้องปิดทำการ ไปนานนับเดือน และกลับมาเปิดบริการ ได้ไม่นาน ก็มาได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19
          สงขลาชาวบ้านแห่รอเข้าห้างดัง
          ส่วนที่ จ.สงขลา ผู้สื่อข่าวรายงานว่า บรรยากาศการเปิดห้างสรรพสินค้าเซ็นทรัลเฟสติวัล หาดใหญ่ เป็นไปอย่างคึกคัก มีประชาชนมารอตั้งแต่เวลา 10.00 น. ก่อนเปิดทำการ เพื่อรอการตรวจคัดกรองตามมาตรการป้องกันการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 โดยบรรดาลูกค้าที่มารอใช้บริการต่างดีใจที่ห้างกลับมาเปิดบริการอีกครั้ง และพอใจในการดูแลความปลอดภัยให้กับลูกค้า ซึ่งทางห้างให้ลูกค้าสแกน คิวอาร์โค้ด เช็คอินก่อน ส่วนผู้ที่ไม่มีโทรศัพท์สมาร์ทโฟนที่ใช้สแกนได้ก็จะใช้วิธีลงชื่อในเอกสาร นอกจากนี้ยังมีการตรวจวัดอุณหภูมิ ใช้เจลล้างมือ ยืนบนพรมฆ่าเชื้อรองเท้า บันไดเลื่อนมีระบบไฟเขียวและไฟแดงหากคนหนาแน่น เกินไป เพื่อให้เว้นระยะห่าง นับว่ามีเฉพาะที่ประเทศไทย
          ทั้งนี้ ห้างเซ็นทรัลเฟสติวัล หาดใหญ่ รองรับลูกค้าได้เต็มที่ 30,000 คน ในช่วงเวลาเดียวกัน ซึ่งเป็นตัว เลขที่คำนวณตามระยะห่างของพื้นที่ซึ่งลูกค้าสามารถเข้าไปใช้บริการได้อย่างปลอดภัย โดยเปิดบริการตั้งแต่เวลา 10.00-20.00 น.


pageview  1204899    
สำนักงานพัฒนาระบบข้อมูลข่าวสารสุขภาพ Health Information System Development Office (HISO)
ห้อง A3 ชั้น 3 อาคาร 4Plus Buiding เลขที่ 56/22-24 ซอยงามวงศ์วาน 4 ต.บางเขน อ.เมือง จ.นนทบุรี 11000
Tel : 02-5892490-2 Fax : 02-5892493 www.healthinfo.in.th
 
© Health Information System Development Office (HISO) . All Rights Reserved