นพ.ชวินทร์ ศิรินาค ผู้อำนวยการสำนักอนามัย กล่าวว่า กรุงเทพมหานครเตรียมการตรวจหาผู้ติดเชื้อโควิด-19 ในกลุ่มเสี่ยงทำงานในอาชีพต่างๆ ที่เสี่ยงต่อการติดเชื้อ เป็นการเฝ้าระวังในประชากรกลุ่มเสี่ยง หรือสถานที่เสี่ยง (Sentinel Surveillance) โดยเป็นการตรวจเชื้อในน้ำลาย นำส่งตรวจหาเชื้อที่กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ ซึ่งกรุงเทพมหานคร ได้รับการสนับสนุนชุดตรวจจากกระทรวงสาธารณสุข ให้ตรวจเชิงสุ่มในกลุ่มเสี่ยง จำนวน 15,210 ราย ตามสัดส่วนที่กระทรวงสาธารณสุขจัดแบ่งให้พื้นที่ต่างๆ ตรวจกลุ่มเสี่ยงทั้งประเทศ รวม 85,586 ราย
          ขณะนี้กำลังเริ่มดำเนินการตรวจเชิงสุ่ม ในกลุ่มเสี่ยง โดยคำนวณเชิงปริมาณ ประกอบด้วย กลุ่มบุคลากรทางการแพทย์ที่มีความเสี่ยงต่อการ ติดเชื้อ, กลุ่มผู้ต้องขังและผู้ต้องกักแรกรับ, คนขับหรือพนักงานประจำรถขนส่งสาธารณะ เรือโดยสารสาธารณะ, พนักงานไปรษณีย์และพนักงานส่งของ เดลิเวอรี่, พระ นักบวช หรือเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงานในศาสนสถาน, คนงานในไซต์งานก่อสร้างและคนงานที่พักในแคมป์คนงานก่อสร้าง, บุคลากร เจ้าหน้าที่กรุงเทพมหานครที่ปฏิบัติงานเสี่ยงต่อการติดเชื้อ เช่น พนักงานเก็บขนขยะ คนงานรักษาความสะอาด และเจ้าหน้าที่งานทะเบียน รวมถึงบุคลากรทางการศึกษาโรงเรียนสังกัดกรุงเทพมหานคร,  บุคลากรรัฐหน่วยงานอื่นที่ปฏิบัติงานเสี่ยงต่อการติดเชื้อ อาทิ สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง, พนักงานขายของในห้างสรรพสินค้า, ผู้ประกอบการและเจ้าหน้าที่ในตลาด และพนักงานร้านอาหาร
          ในส่วนของการตรวจหาผู้ติดเชื้อเชิงรุกผ่านระบบ BKK COVID-19 ยังคงดำเนินการอยู่แม้ช่วงที่ผ่านมาสถานการณ์ในพื้นที่กรุงเทพฯ จะไม่มีผู้ติดเชื้อรายใหม่ต่อเนื่อง 6 วัน แต่ก็ยังต้องดำเนินการต่อไป โดยการตรวจด้วยระบบ BKK COVID-19 จะคัดกรองกลุ่มเสี่ยงตามเกณฑ์ และลงพื้นที่ตรวจด้วยรถเคลื่อนที่ SWAB จนถึงวันที่ 18 พฤษภาคม 2563 มีผู้เข้าใช้ระบบแล้ว จำนวน 73,509 ราย ตรวจกลุ่มเสี่ยงเข้าเกณฑ์สงสัย จำนวน 2,670 ราย พบผู้ติดเชื้อโควิด-19 จำนวน 11 ราย ทั้งนี้กรุงเทพมหานครจะยังคงดำเนินการตรวจหาเชื้อเชิงรุกด้วยการ SWAB ตรวจหาเชื้อทาง โพรงจมูกและคอ คู่ขนานไปกับการตรวจเชิงสุ่มในกลุ่มเสี่ยงด้วยการตรวจหาเชื้อทางน้ำลาย เพื่อหา ผู้ติดเชื้อโควิด-19 ในกลุ่มเสี่ยงที่ไม่มีอาการ