HISO - เรื่องเล่าข่าวเด่น

  
   Follow us      
  
หนังสือพิมพ์แนวหน้า [ วันที่ 22/05/2555 ]
สุ่มตรวจน้ำมะนาวเทียม สธ.เปิดผลวิเคราะห์วัตถุกันเสียยังอยู่ในเกณฑ์กม.กำหนด/แนะดู "อย." ก่อนซื้อ

  นายแพทย์สุรวิทย์ คนสมบูรณ์ รมช.สาธารณสุข เปิดเผยว่า ช่วงนี้มะนาวยังมี ราคาแพง ทำให้ร้านอาหารหลายร้านลดต้นทุน การผลิตด้วยการหันมาใช้น้ำมะนาวเทียม ซึ่งเป็นวัตถุแต่งกลิ่นรสที่ผลิตขึ้นเพื่อทดแทนน้ำมะนาว โดยอาจมีการใช้กรดซิตริก แทนการใช้น้ำมะนาวบางส่วนหรือทั้งหมด
          ทั้งนี้ ตามประกาศกระทรวงสาธารณสุข (ฉบับที่ 223) พ.ศ.2544 ระบุว่า น้ำมะนาวเทียม จัดเป็นวัตถุกันเสียแต่งกลิ่นเลียนแบบธรรมชาติ ซึ่งต้องแสดงฉลากมีข้อความเป็นภาษาไทยที่ระบุชื่ออาหาร และข้อความว่า วัตถุแต่งกลิ่นรสเลียนธรรมชาติ เลขสารบบอาหาร วัตถุประสงค์หรือประโยชน์ในการใช้ วิธีใช้ ปริมาณสุทธิ ชื่อและที่ตั้งของผู้ผลิตหรือ ผู้แบ่งบรรจุ ชนิดและปริมาณของสีที่ผสม (ถ้ามี) คำแนะนำในการเก็บรักษา เดือนปี ที่ผลิต หรือวันเดือนปีที่หมดอายุ
          จากการรวบรวมข้อมูลผลการวิเคราะห์ ทางเคมีของตัวอย่างน้ำมะนาวเทียม 30 ตัวอย่าง แบ่งเป็นตัวอย่างที่ได้ จากสำนักงานคณะ กรรมการอาหารและยา และสำนักงานสาธารณสุข จังหวัด 23 ตัวอย่าง รับจากผู้ผลิต 3 ตัวอย่าง เก็บจากตลาด 4 ตัวอย่าง เพื่อตรวจวิเคราะห์วัตถุ กันเสีย สีสังเคราะห์ และปริมาณกรดซิตริก มีผลการตรวจวิเคราะห์จากกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ ดังนี้
          พบวัตถุกันเสีย คือ กรดเบนโซอิก 9 ตัวอย่าง ในปริมาณตั้งแต่น้อยกว่า 20-370 มิลลิกรัมต่อกิโลกรัม พบสีสังเคราะห์เพื่อให้มีสีเหลือง เช่น ตาร์ตราซีน 25 ตัวอย่าง ในปริมาณ 1.3-5.8 มิลลิกรัมต่อกิโลกรัม และมีการเติมสีสังเคราะห์อื่น เช่น เอโซรูบีน ซันเซต เยลโลว์ เอฟซีเอฟ และปองโซ 4 อาร์ ในปริมาณ 0.1-0.6 มิลลิกรัมต่อกิโลกรัม พบปริมาณกรดซิตริก 3.3-10.8 มิลลิกรัมต่อ 100 มิลลิลิตร
          ทั้งนี้ ปริมาณวัตถุเจือปนอาหารที่พบ ไม่เกินกำหนดตามบัญชีท้ายประกาศกระทรวง สาธารณสุข ฉบับที่ 281 (พ.ศ.2547) ของอาหารทั่วไป คือ วัตถุกันเสียกรดเบนโซอิก ใช้ได้ไม่เกิน 1,000 มิลลิกรัมต่อกิโลกรัม สีตาร์ตราซีน ใช้ได้ไม่เกิน 70 มิลลิกรัมต่อกิโลกรัม
          นายเพทย์สุรวิทย์กล่าวว่า ผู้ประกอบการ ร้านอาหารหรือผู้บริโภค ควรเลือกใช้น้ำมะนาว เทียมที่ข้างขวดมีเครื่องหมาย อย. เท่านั้น ไม่ควรใช้น้ำมะนาวเทียมที่แบ่งขายใส่ถุง เพราะ กระบวนการผลิตอาจไม่ได้มาตรฐาน ไม่ปลอดภัย ทำให้เกิดอาการท้องเสียได้ และอาจมีปริมาณ กรดซิตริกสูงเกินมาตรฐาน ทำให้เกิดการ ระคายเคืองบริเวณเยื่อบุช่องปาก หลอดอาหาร กระเพาะอาหาร ลำไส้เล็ก หรือบริเวณ ทวารหนักได้ ดังนั้นคนที่เป็นโรคกระเพาะอาหารหรือโรคกรดไหลย้อนควรระมัดระวัง
 


pageview  1206123    
สำนักงานพัฒนาระบบข้อมูลข่าวสารสุขภาพ Health Information System Development Office (HISO)
ห้อง A3 ชั้น 3 อาคาร 4Plus Buiding เลขที่ 56/22-24 ซอยงามวงศ์วาน 4 ต.บางเขน อ.เมือง จ.นนทบุรี 11000
Tel : 02-5892490-2 Fax : 02-5892493 www.healthinfo.in.th
 
© Health Information System Development Office (HISO) . All Rights Reserved