HISO - เรื่องเล่าข่าวเด่น

  
   Follow us      
  
หนังสือพิมพ์แนวหน้า [ วันที่ 04/07/2562 ]
ข้อเสื่อม โรคยอดฮิตของผู้สูงวัย รู้เท่าทัน รีบป้องกันก่อนอาการลุกลาม

อเสื่อม หากไม่ได้ รับการรักษาหรือปฏิบัติตนอย่างเหมาะสม อาการของโรคจะดำเนินไปเรื่อยๆ อาจทำให้เจ็บปวด ข้อเข่าผิดรูป เดินได้ไม่ปกติ ส่งผลให้ปฏิบัติกิจวัตรประจำวันต่างๆ ไม่สะดวก เกิดความทุกข์ทรมานทั้งทางด้านร่างกายและจิตใจ
          หากอธิบายให้ชัดเจนยิ่งขึ้นข้อเสื่อม เป็นโรคที่เกิดจากการเสื่อมสภาพ หรือเกิดการสึกกร่อนบางลงของกระดูกอ่อน ผิวข้อ ซึ่งมักจะเกิดกับข้อที่ต้องรองรับ น้ำหนักค่อนข้างมาก เช่น ข้อเข่า ข้อสะโพก ฯลฯ โดยกระดูกอ่อนผิวข้อนี้จะถูกทำลาย ลงอย่างช้าๆ จนมีผลทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงที่โครงสร้างของข้อเข่า เกิดน้ำสะสมในข้อเข่าเพิ่มมากขึ้นจนทำให้ข้อบวม พบกระดูกงอกผิดปกติที่ขอบหรือที่มุมข้อ พบกล้ามเนื้อและเอ็นรอบข้อเข่าหย่อนยาน การเปลี่ยนแปลงโครงสร้างของข้อที่กล่าวมาข้างต้น จะส่งผลให้การเคลื่อนไหวของข้อเป็นไปอย่างจำกัด โดยเริ่มแรกผู้ป่วยจะรำคาญกับอาการปวด หรือไม่สบายตรงข้อที่เสื่อมในขณะที่ใช้งาน เช่น ขณะยืนหรือเดิน และอาการปวดนี้ จะดีขึ้นเมื่อได้พักการใช้งาน รวมทั้งยังอาจพบอาการฝืดตึงที่ข้อเป็นช่วงสั้นๆ ในช่วงเช้า หรือภายหลังที่อยู่ในอิริยาบถท่าใด ท่าหนึ่งเป็นเวลานานๆ เช่น หลังจากนั่งขับรถ นานๆ นั่งยองนานๆ ฯลฯ
          สำหรับ ช่วงอายุที่มักเกิดภาวะข้อเสื่อม มักพบได้บ่อยในช่วงวัยกลางคน (40 ปีขึ้นไป) และจะพบโรคนี้มากขึ้น เมื่ออายุเพิ่มขึ้นไปเรื่อยๆ โดยเฉพาะในวัยสูงอายุที่อายุมากกว่า 65 ปีขึ้นไป เนื่องจากมีปัจจัยบางอย่าง เช่น อาชีพที่ทำงานหนัก ความอ้วน ฯลฯ ส่งผลให้ไม่สามารถควบคุมความสมดุลของเซลล์ กระดูกอ่อนได้ ทำให้กระดูกอ่อนผิวข้อ ถูกทำลายอย่างต่อเนื่อง จนเกิดภาวะข้อเสื่อม ในที่สุด ส่วนในวัยหนุ่มสาว เซลล์กระดูกอ่อนยังแข็งแรงและทนทานต่อแรงตึง แรงกดได้ดีกว่าผู้สูงอายุ
          สาเหตุการเกิดข้อเสื่อมที่ไม่ทราบ สาเหตุ พบข้อเสื่อมได้ตั้งแต่อายุ 40 ปีขึ้นไปจนถึงผู้สูงอายุ แต่อาจมีผู้สูงอายุ บางรายที่ไม่เกิดภาวะข้อเสื่อม ส่วนใหญ่พบในเพศหญิง มากกว่าเพศชาย 2-3 เท่า ซึ่งอาจเกี่ยวกับฮอร์โมน รวมไปถึงผู้มีน้ำหนัก ตัวเกิน (อ้วน) ผู้ที่ทำกิจกรรมที่มีแรงกดต่อ ข้อเข่ามาก เช่น การนั่งคุกเข่า นั่งพับเพียบ นั่งขัดสมาธิ ขึ้นลงบันไดบ่อยๆ ฯลฯ นอกจากนี้ยังเกิดจากความบกพร่อง ของข้อ เช่น ข้อเข่าหลวม กล้ามเนื้อ ต้นขาอ่อนแรง
          รวมทั้งเกิดจากกรรมพันธุ์ ส่วนความเสื่อมของข้อที่ทราบสาเหตุ เป็น ผู้ที่เคยได้รับอุบัติเหตุจนมีการบาดเจ็บ ที่ข้อ เส้นเอ็นมีการใช้งานที่ข้อมากเกินไป เช่น อาชีพแม่บ้าน การเล่นกีฬา ฯลฯนอกจากนี้ข้อเสื่อมอาจเป็นร่วมกับโรค ข้ออักเสบอื่น ๆ ได้ เช่น โรคข้ออักเสบ รูมาตอยด์ เก๊าท์ ข้ออักเสบติดเชื้อ โรคของต่อมไร้ท่อ เช่น อ้วน ฯลฯ
          อาการที่บ่งบอกว่าเป็นโรค ข้อเสื่อม
          ระยะแรก อาการจะเริ่มปวดเข่า เวลามีการเคลื่อนไหว เช่น เวลาเดิน โดยเฉพาะขึ้นลงบันได หรือนั่งพับเข่าฯ และอาการปวดจะดีขึ้นเมื่อได้พักการใช้ข้อ พบอาการฝืดตึง หรือขัดที่ข้อเป็นช่วงสั้นๆ ในตอนเช้า หรือภายหลังที่อยู่ในอิริยาบถ ท่าใดท่าหนึ่งนานๆ เช่น หลังจากนั่งขับรถ นานๆ นั่งพับเพียบ หรือคุกเข่านานๆ ฯลฯ พบเสียงดังกรอบแกรบภายในข้อขณะเคลื่อนไหวข้อเข่า ซึ่งเกิดจากการเสียดสีของเยื่อบุภายในข้อ หรือเอ็นที่หนาตัวขึ้น หรือเกิดจากความขรุขระของกระดูกอ่อน ผิวข้อที่ถูกทำลายไป มักพบอาการข้อเสื่อม ในข้อเข่าข้างที่ถนัดหรือข้างที่ใช้งานบ่อยก่อน ถ้าผู้ป่วยไม่ดูแลป้องกันต่อมาอีกไม่นาน ข้อเข่าอีกข้างก็จะเริ่มเสื่อมตามมา
          ระยะรุนแรง อาการปวดข้อจะรุนแรงขึ้นโดยเฉพาะเวลาเดินหรือขยับข้อ บางครั้งอาจพบปวดช่วงกลางคืน อาจคลำ พบกระดูกงอกบริเวณข้างข้อ หรือที่ขอบ มุมข้อ เมื่อเกร็งกล้ามเนื้อต้นขาเต็มที่ จะพบมีอาการปวดหรือเสียวที่กระดูกสะบ้า ถ้ามีอาการอักเสบที่ข้อจะทำให้ข้อบวม และร้อน แพทย์จะตรวจพบน้ำคั่งอยู่ใน ช่องว่างระหว่างข้อ ถ้าข้อเสื่อมมานาน จะทำให้การเหยียดข้อเข่า หรืองอข้อเข่าได้ไม่ค่อยสุดนอกจากนี้อาจพบกล้ามเนื้อรอบข้อลีบลงหรืออ่อนแรง ข้อเข่าโก่ง ข้อเข่าหลวม หรือบิดเบี้ยวผิดรูป จะทำให้ การเดินและการใช้ชีวิตประจำวันลำบาก มากขึ้น หากผู้ป่วยไปพบแพทย์ที่โรงพยาบาล แพทย์จะฉายรังสี x-ray ภาพจากฟิล์ม x-ray จะเห็นช่องว่างระหว่างข้อจะแคบลง
          สำหรับแนวทางการรักษาโรคข้อเสื่อม แม้ว่าข้อเสื่อมจะเป็นโรคที่ ไม่สามารถรักษาให้หายขาดได้ก็ตาม แต่ก็ มีวิธีการรักษาหลากหลายวิธี ซึ่งเป้าหมายในการรักษาก็คือ พยายามลดอาการปวดอักเสบของข้อให้ทุเลาเร็วที่สุด
          การรักษาด้วยยา มีหลายรูปแบบ ทั้งชนิดทาภายนอก ฉีดเข้าข้อ รับประทานยา บางตัวสามารถปรึกษากับเภสัชกรในร้านยาได้ แต่บางตัวจะต้องจ่ายตามแผนการรักษาของแพทย์ ซึ่งเป้าหมายรักษาคือช่วยบรรเทาอาการปวดอักเสบ บวมที่ข้อให้หายเร็วที่สุด เพื่อให้ผู้ป่วยไม่ทุกข์ทรมานกับการปวด ช่วยควบคุมไม่ให้เป็นมากไปกว่านี้
          การรักษาโดยไม่ใช้ยา เน้นการปฏิบัติตัวของผู้ป่วยปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการใช้ข้อให้ถูกหลัก การควบคุมน้ำหนัก การบริหารกล้ามเนื้อ ออกกำลังกาย การใช้อุปกรณ์เครื่องช่วยพยุงเพื่อช่วยประคับ ประคองด้วยการลดแรงกดที่ข้อเท้า ร่วมกับ การทำให้กล้ามเนื้อต้นขาแข็งแรงขึ้น จะเป็น ผลทำให้ร่างกายค่อยๆ ซ่อมแซมส่วนของข้อ ที่เสื่อมไปได้ รวมไปถึงการปรับเปลี่ยนอิริยาบถ และสภาพแวดล้อมในที่อยู่อาศัยให้เหมาะสมกับชีวิตประจำวันของผู้ป่วยเพื่อป้องกันไม่ให้ข้อเสื่อมมากขึ้น ได้แก่ การปรับเปลี่ยนวิธีนั่ง นอน ยืน เดิน
          การรักษาโดยการผ่าตัด ใช้ในกรณีผู้ป่วยโรคข้อเสื่อมรุนแรง
          วิธีดูแลร่างกายและข้อรู้เท่าทันป้องกันก่อนอาการลุกลาม
          มีวิธีดูแลร่างกายและข้อเพื่อช่วยให้ห่างไกลจากโรคข้อเสื่อมโดยคำแนะนำ จาก ทีมเภสัชกร บริษัท ไบโอฟาร์ม เคมิคัลส์ จำกัด ผู้จัดจำหน่ายเวชภัณฑ์คุณภาพชั้นนำทั้งในประเทศและ ต่างประเทศ ดังนี้
          การควบคุมน้ำหนักไม่ให้ เกินเกณฑ์
          ปรับเปลี่ยนอิริยาบถ เช่น ไม่ทำ อะไรที่ผิดท่า เช่น นั่งยองๆ นั่งกับพื้น พับเพียบ ขึ้นลงบันไดบ่อยๆ นั่งหลังงอ ก้มคอทำงานนาน ฯลฯ
          เสริมสร้างกล้ามเนื้อให้แข็งแรงโดยการออกกำลังกาย โดยเฉพาะกล้าม เนื้อบริเวณเอ็นข้อต่อ ดังนั้นการที่จะเริ่มฝึกบริหารกล้ามเนื้อใดๆ ควรปรึกษา ผู้เชี่ยวชาญก่อน และควรเลือกการ ออกกำลังกายที่ไม่มีผลเสียต่อข้อ เช่น ว่ายน้ำ การเดินในน้ำ เดิน ปั่นจักรยาน ฯลฯ
          ผลิตภัณฑ์อาหารเสริมป้องกันข้อเสื่อม ควรปรึกษาแพทย์หรือเภสัชกรก่อนใช้
          แม้ว่าอาการของโรคข้อเสื่อม จะมีสาเหตุมาจากวัยที่เพิ่มขึ้น และพฤติกรรมการใช้งานบริเวณข้อที่หนักเกินไป ซึ่งหากเกิดภาวะข้อเสื่อมแล้ว ก็ยากที่จะรักษาให้หายขาดหรือกลับคืนสู่สภาพปกติได้ แต่ก็ไม่ใช่ว่าจะไม่มีทางหลีกเลี่ยงการเกิดภาวะข้อเสื่อมได้เลยทีเดียว ดังนั้นเราจึงควรรักษาข้อให้อยู่ ในสภาพดีและแข็งแรง เพื่อเป็น หลักประกันว่าในวันข้างหน้าเราจะยังคง มีคุณภาพชีวิตที่ดีไปนานๆ


pageview  1205111    
สำนักงานพัฒนาระบบข้อมูลข่าวสารสุขภาพ Health Information System Development Office (HISO)
ห้อง A3 ชั้น 3 อาคาร 4Plus Buiding เลขที่ 56/22-24 ซอยงามวงศ์วาน 4 ต.บางเขน อ.เมือง จ.นนทบุรี 11000
Tel : 02-5892490-2 Fax : 02-5892493 www.healthinfo.in.th
 
© Health Information System Development Office (HISO) . All Rights Reserved