PM2.5ลามไปหลายจังหวัด ขอนแก่นวิกฤติพุ่ง89มคก. แม่ฮ่องสอนห้ามเผาเด็ดขาด
          ค่าฝุ่น PM2.5 ในกรุงเทพฯ-ปริมณฑล ลดลง ไม่เกิน มาตรฐาน ทุกพื้นที่อากาศดีขึ้นมาก กทม.เตรียมรับภาวะวิกฤติอีกระลอก 6-8 กุมภาพันธ์/13-15 กุมภาพันธ์ ส่งเครื่องบินเล็กพ่นละอองน้ำ หลายจังหวัด เริ่มเผชิญฝุ่น อย่าง แม่ฮ่องสอน ห้ามเผาเด็ดขาด เริ่ม 1 มีนาคม ผู้ว่าฯขอนแก่น สั่งฉีดละอองน้ำ ลดควันฝุ่นจากเผาไร่อ้อย หมอศิริราชติงอย่าด่วน สรุปว่าแก้ปัญหา
          สำเร็จ แนะรัฐเร่งป้องกันระยะยาว ก่อนจะกลับมาหนักอีกปีหน้า
          เมื่อวันที่ 6 กุมภาพันธ์ ศูนย์ประสานงานและแก้ปัญหามลพิษทางอากาศของกรุงเทพมหานครและปริมณฑลรายงานข้อมูลผลการดำเนินงานและสถานการณ์คุณภาพอากาศประจำวันว่าสถานการณ์ฝุ่นละอองขนาดเล็กกว่า 2.5 ไมครอนหรือ PM2.5 เฉลี่ย 24 ชั่วโมง พื้นที่กรุงเทพฯและปริมณฑล เวลา 08.00 น. วัดได้ 18-44ไมโครกรัม/ลูกบาศก์เมตร (มคก./ลบ.ม.)ไม่เกินค่ามาตรฐานทุกพื้นที่ที่ตรวจวัด ดัชนีคุณภาพอากาศอยู่ในระดับคุณภาพอากาศดีถึงดีมาก สภาพอากาศในกรุงเทพฯคาดการณ์ว่าลมมีกำลังแรงขึ้นจะมีฝนร้อยละ 10 ของพื้นที่ จากแบบจำลองการคาดการณ์ปริมาณ PM2.5 ของกรมควบคุมมลพิษ(คพ.)คาดว่าวันที่ 7 กุมภาพันธ์ ปริมาณ PM2.5 มีแนวโน้มลดลง ประกอบกับการดำเนินมาตรการอย่างเข้มข้น จะส่งผลให้ปริมาณฝุ่นละอองลดลงได้
          กทม.ส่งบินเล็กพ่นน้ำไล่ฝุ่นระลอก2
          สำหรับปฏิบัติการเพิ่มเติมในการ ลดฝุ่นละอองในกรุงเทพฯ วันนี้ กรุงเทพมหานคร (กทม.) ร่วมกับโรงเรียนการบินกรุงเทพออกปฏิบัติการบินฉีดพ่นละอองน้ำเป็นระลอกที่ 2 ระหว่างวันที่ 6-8 กุมภาพันธ์. และช่วง วันที่ 13-15 กุมภาพันธ์ โดยกำหนดโปรยละอองน้ำบริเวณสำนักงานเขตบางขุนเทียนบริเวณถนนพระราม 2 รวมถึงกรมการขนส่งทางบก กองบังคับการตำรวจจราจรตั้งจุดตรวจวัดควันดำ รถโดยสารและรถขนส่งอย่างต่อเนื่องทุกวัน
          บิ๊กคลีนนิ่งทุกเขตตลอดสัปดาห์
          นอกจากนี้ กทม.ยังร่วมกับทุกภาคส่วนจัดกิจกรรม Big Cleaning ทุกวัน ทุกพื้นที่ ตลอดทั้งสัปดาห์ โดยกทม.กำหนดแผนฉีดล้างถนนต่อเนื่องหมุนเวียนไปตามถนนทั่วพื้นที่กรุงเทพฯ ทุกวัน รวมถึงรณรงค์ประชาสัมพันธ์ และเข้มงวดตรวจสอบสถานประกอบการในพื้นที่ กวดขันการเผาทุกประเภท เพื่อลดปริมาณฝุ่นละอองในพื้นที่ให้มากที่สุด รวมถึงเร่งติดตั้งสปริงเกอร์ในโรงเรียนสังกัดกว่า 200 แห่ง
          อุตุแจงอย่าวิตกลมนิ่งปัจจัยธรรมชาติ
          นายภูเวียง ประคำมินทร์ อธิบดีกรมอุตุนิยมวิทยาชี้แจงข้อเท็จจริงมีการระบุช่วง วันที่ 6-8 กุมภาพันธ์ สถานการณ์ฝุ่น PM2.5 จะกลับมาวิกฤติอีกครั้งว่าไม่ได้มีอะไรน่ากังวล ลมที่เคยพัดแรงช่วง 2-3 วัน ที่ผ่านมายังคงมีอยู่ แค่อาจพัดเบาลงเล็กน้อยเท่านั้น แต่ช่วงที่ลมอาจนิ่งในกทม.คือ ช่วง 13-15 กุมภาพันธ์ เนื่องจากตั้งแต่วันที่ 10-11 กุมภาพันธ์จะมีความกดอากาศสูง หรือมวลความเย็นระลอกใหม่เคลื่อนลงมาปกคลุมประเทศไทย รวมถึงในภาคกลาง และกรุงเทพฯ จะทำให้ช่วงแรกกรุงเทพฯ อาจมีฝนฟ้าคะนอง ซึ่งถือเป็นปกติของช่วงที่อากาศเปลี่ยน ก่อนที่ช่วงวันที่ 12 กุมภาพันธ์ ในกทม.จะเย็น หลังจากนั้นมวลความเย็นจะอ่อนกำลังลง ทำให้ลมที่เคยพัดจะกลับมานิ่งสงบอีกครั้ง
          ส่วนปัจจัยนี้จะทำให้เกิดฝุ่นละอองในกรุงเทพฯ อีกหรือไม่นั้น เรื่องลมนิ่งสงบเป็นเพียงปัจจัยหนึ่งที่เกิดตามธรรมชาติ ซึ่งเราห้ามไม่ได้ แต่ภาวะปัญหาฝุ่นละออง ต้องดูว่าปัจจัยหลักก่อนหน้านี้ที่ทำให้เกิดมาจาก
          อะไร และมาตรการต่างๆ ได้รับความร่วมมือ ได้รับการแก้ไขขนาดไหน
          แม่ฮ่องสอนประกาศห้ามเผา1มี.ค.-30เม.ย.
          ขณะนี้สถานการณ์ฝุ่นPM2.5ในต่างจังหวัด เริ่มน่าเป็นห่วงอย่างที่ จ.แม่ฮ่องสอน นายสิริรัฐ ชุมอุปการ ผู้ว่าราชการจังหวัดแม่ฮ่องสอน เผยว่าจ.แม่ฮ่องสอนประสบปัญหาไฟป่าและหมอกควันช่วงเดือนกุมภาพันธ์-เมษายนของทุกปี ส่งผลกระทบต่อการดำรงชีวิต สังคม เศรษฐกิจและการ ท่องเที่ยว ทั้งใน จ.แม่ฮ่องสอนและเขตภาคเหนือ ตอนบนเป็นวงกว้างเพื่อลดผลกระทบจากปัญหาหมอกควันและไฟป่า คณะกรรมการศูนย์อำนวยการเฉพาะกิจป้องกันและแก้ปัญหาไฟป่าและหมอกควันของ จ.แม่ฮ่องสอน กำหนดให้ตั้งแต่วันที่ 1 มีนาคม-30 เมษายน 2562 รวมระยะเวลา 61 วัน เป็นช่วงปลอดการเผาเด็ดขาด โดยให้ทุกภาคส่วนทั้งภาครัฐ เอกชน ภาคประชาชน ดำเนินการตามมาตรการ ที่กำหนดอย่างเคร่งครัด
          ขอนแก่นวิกฤติPM2.5พุ่ง89มคก.
          เช่นเดียวกับที่ จ.ขอนแก่น มีผลกระทบจากฝุ่น PM 2.5 ปกคลุมทั่วเมือง โดยเฉพาะถนนมิตรภาพ สายขอนแก่น-นครราชสีมา นายสมศักดิ์ จังตระกุล ผู้ว่าราชการ จังหวัดขอนแก่น พร้อมหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง นำรถบันไดหอน้ำฉีดพ่นน้ำ ซึ่งเวลา 19.00 น. เว็บไซต์กรมควบคุมมลพิษ รายงานคุณภาพอากาศอยู่ในระดับคุณภาพปานกลางถึงเริ่มมีผลกระทบต่อสุขภาพ ตรวจพบค่าฝุ่น PM 2.5 เกินมาตรฐานระหว่าง 47-89 มคก./ลบ.ม. บริเวณ ต.ในเมือง อ.เมือง ขอนแก่น
          นายสมศักดิ์กล่าวว่า ปัญหาฝุ่นใน จ.ขอนแก่น เกิดจากเผาอ้อยเป็นส่วนใหญ่ ตนสั่งให้อ.น้ำพองและอ.กระนวน พ่นละอองน้ำ ป้องกันฝุ่นฟุ้งกระจายมาถึงตัวเมืองขอนแก่น ขณะเดียวกันประสานเจ้าของคอนโดมิเนียม ห้างสรรพสินค้า ช่วยฉีดน้ำลดฝุ่นบนตึกอีกทางหนึ่ง สำหรับมาตรการระยะยาวหารือกับโรงงานอ้อย น้ำตาลห้ามเผาอ้อย ตอซังข้าว หญ้าเด็ดขาด ผู้สื่อข่าวลงพื้นที่สำรวจปัญหาฝุ่นตามสถานที่ต่างๆ พบว่า ถ้ามองด้วยตาเปล่าจะเห็นเหมือน หมอกปกคลุมลอยอยู่บนอากาศ สร้างความตื่นตระหนกให้ชาวบ้านในพื้นที่เป็นอย่างมาก
          หมอติงอย่าด่วนสรุปแก้ฝุ่นสำเร็จ
          มีความเห็นจาก นพ.ประสิทธิ์ วัฒนาภา คณบดีคณะแพทยศาสตร์ ศิริราชพยาบาล ต่อการแก้ปัญหาฝุ่น PM 2.5 ว่าอย่าเพิ่งด่วนสรุปเร็วเกินไปหากจะบอกว่าสถานการณ์ค่าฝุ่น PM2.5 ในกทม.และปริมณฑลได้รับการแก้ไขดีแล้ว แต่สาเหตุที่ฝุ่นลดลงมาจาก 2 ปัจจัยคือ ปัจจัยธรรมชาติมีลมเข้ามากับมาตรการที่รัฐบาลดำเนินการทั้งการปิดโรงเรียน ลดกำลังการผลิตในโรงงานอุตสาหกรรม การฉีดพ่นน้ำดูเหมือนทุกอย่างดีขึ้นและสัปดาห์หน้ามีการคาดการณ์ว่าสถานการณ์ฝุ่นจะกลับมาวิกฤติอีกครั้งนั้น รัฐควรเตรียมตัวให้พร้อม
          จี้รบ.เร่งวางแผนป้องกันระยะยาว
          นพ.ประสิทธิ์กล่าวอีกว่า ต้องเข้าใจธรรมชาติว่า ฝุ่น 2.5 อยู่กับประเทศไทยมาระยะหนึ่งแล้ว และมีโอกาสจะเกิดขึ้นอีก ในช่วงฤดูหนาวที่อากาศปิดประมาณเดือนธันวาคมมีนาคม ฉะนั้นต้องเตรียมรับมือ ใช้วิชาการ องค์ความรู้มาช่วยหาวิธีการป้องกันระยะยาว เพราะปีหน้าก็เจออีก ควรวางแผนฟ้องกันคือ ลดการเกิดฝุ่น เช่น เปลี่ยนน้ำมันเชื้อเพลิง ลดการเผาไหม้ ไม่สัมผัสฝุ่น ไม่เข้าพื้นที่สีแดง เช่นมาตรการหยุดเรียน และถ้าต้องเข้าไปในพื้นที่สีแดงจะดูแลร่างกายอย่างไร เช่น สวมเครื่องป้องกัน หน้ากากอนามัยหาวิธีการให้เกิดผลกระทบน้อยที่สุดด้วยการดูแลตนเองและรับประทานอาหารที่ป้องกันได้ ทุกอย่างต้องทำคู่ขนาน ในต่างประเทศ มีการลดการใช้รถยนต์ จัดตารางวันคู่วันคี่ ช่วงที่เกิดฝุ่นหรือสภาพอากาศเลวร้าย เพื่อไม่เพิ่มฝุ่นละอองขนาดเล็ก