HISO - เรื่องเล่าข่าวเด่น

  
   Follow us      
  
ไทยโพสต์ [ วันที่ 20/03/2555 ]
ผู้หญิงมี'กิ๊ก'เสี่ยงมะเร็งปากมดลูก

จากการสำรวจของถุงยางอนามัยดูเร็กซ์พบว่า ชายไทยนอกใจคนรักมากเป็นอันดับ 1 คือ 54% และหญิงไทยนอกใจคนรักถึง 59% ติดอันดับ 2 ของโลกรองจากผู้หญิงประเทศไนจีเรีย ปัจจุบันผู้หญิงไทยนิยมการมีกิ๊กมากขึ้น ซึ่งกรณีนี้ นางเบ็ญจพร มงคลธง นักจิตวิทยา คลินิกเครือ รพ.กล้วยน้ำไท กล่าวว่า สิ่งที่ส่งผลให้ผู้หญิงปัจจุบันในทุกอาชีพ ทุกวัย เริ่มเลียนแบบพฤติกรรมผู้ชาย คือ จีบและคบผู้ชายครั้งละหลายๆ คน เพื่อชดเชยปัญหาโดยความสัมพันธ์มักเริ่มจากการใกล้ชิด เช่น การไปเที่ยว นั่งทำงานเห็นกันทุกวัน หรือทำกิจกรรม, งานอดิเรกที่ต้องใช้เวลาด้วยกัน เกิดความเห็นอกเห็นใจกันจากการปรับทุกข์ ให้คำปรึกษา ก่อเป็นความสัมพันธ์ขึ้น ซึ่งอาจเป็นที่รู้กันในออฟฟิศ และในกลุ่มคนที่ไม่เกี่ยวข้อง รู้จักใกล้ชิดกับสามีหรือแฟน โดยอาจมีความสัมพันธ์ทางกายร่วมด้วย
          ทั้งนี้ การมีกิ๊กอาจยิ่งก่อให้เกิดปัญหาครอบครัวมากขึ้น มีเรื่องคาใจไม่คุยกัน การเสียชื่อเสียงไม่เป็นที่ยอมรับ ฯลฯ และรวมถึงโรคที่
          ติดต่อทางเพศสัมพันธ์ด้วย
          นพ.ก้องศาสดิ์ ดีนิรันดร์ สูตินรีแพทย์ คลินิกเครือ รพ.กล้วยน้ำไท กล่าวว่า "โรคที่อันตรายจากการมีกิ๊กหลายคนของผู้หญิง และเกินเลยถึงขั้นมีเพศสัมพันธ์ จะยิ่งเสี่ยงเป็นโรคมะเร็งปากมดลูก ยิ่งมีกิ๊กมากยิ่งเป็นการเพิ่มโอกาสการติดเชื้อมากขึ้น คนส่วนใหญ่คิดว่าถุงยางอนามัยป้องกันโรคทางเพศสัมพันธ์ได้ทุกโรค แต่ไม่ได้ป้องกันโรคมะเร็งปากมดลูกที่เป็นโรคที่ส่งผลให้ผู้หญิงไทยเสียชีวิตเป็นอันดับ 1 เพราะเชื้อเอชพีวีที่เป็นสาเหตุของมะเร็งปากมดลูกมีอยู่ร้อยกว่าสายพันธุ์ แต่ชนิดที่จะทำให้เกิดมะเร็งปากมดลูกมีประมาณ 15 สายพันธุ์ ซึ่งเชื้อนี้อาศัยอยู่ทั่วไปบนร่างกาย ผิวหนัง เสื้อผ้า ขน ฯลฯ ทั้งผู้ชายและผู้หญิง สามารถทนความร้อนและอยู่ในที่แห้งได้ แต่ไม่ก่อเกิดโรคในผู้ชาย
          การใช้ถุงยางอนามัยก็ไม่สามารถป้องกันโรคนี้ได้ดี เพราะสามารถติดต่อได้โดยการสัมผัส เวลามีเพศสัมพันธ์ เชื้อที่อาศัยอยู่บนอวัยวะ ผิวหนัง และขนของทั้งชายและหญิงอาจติดเข้าไป
          กับอวัยวะเพศชายหรืออวัยวะเพศหญิง การมีเพศสัมพันธ์เป็นการนำเชื้อเอชพีวีจากด้านนอกเข้าไปสู่บริเวณปากมดลูก และเกิดการติดเชื้อขึ้นในบริเวณปากมดลูก ทำให้เริ่มมีการแบ่งตัวของเซลล์ที่ผิดปกติ หรือกรณีมีแผลถลอกบริเวณเยื่อบุภายในก็สามารถทำให้ติดเชื้อได้เช่นเดียวกัน
          คุณหมอแนะนำว่า มะเร็งปากมดลูกลดความเสี่ยงได้โดยการรักเดียวใจเดียว หรือไม่ไปมีความสัมพันธ์ทางเพศกับคนที่มีคู่นอนหลายคน แต่ถ้าไม่แน่ใจควรรีบเข้าพบสูตินรีแพทย์เพื่อตรวจภายในเพื่อหาเซลล์มะเร็งถ้าตรวจพบก่อนในระยะ
          ที่เซลล์เริ่มมีการผิดปกติ ก็สามารถรักษาได้ "ในกรณีที่คุณเคยมีกิ๊ก, กำลังมีกิ๊กถึงขั้นมีเพศสัมพันธ์ หรือมีเพศสัมพันธ์กับผู้ชายที่มีหรือเคยมีเพศสัมพันธ์กับผู้หญิงหลายคน ควรพบแพทย์เพื่อตรวจหามะเร็งปากมดลูก และฉีดวัคซีนป้องกันมะเร็งปากมดลูก ซึ่งจะช่วยลดความเสี่ยงจากการติดเชื้อ HPV 16, 18 ได้ถึง 70 เปอร์เซ็นต์ หากมีการติดเชื้อก่อนหน้าการฉีดก็ไม่สามารถป้องกันเชื้อที่เข้าสู่ร่างกายแล้วได้ แต่เป็นการป้องกันเชื้อใหม่ที่อาจได้รับหลังการฉีด การฉีดวัคซีนป้องกันมะเร็งปากมดลูกที่ได้ผลดีคือ การฉีดเมื่ออายุประมาณ9 ปี". 
 


pageview  1205119    
สำนักงานพัฒนาระบบข้อมูลข่าวสารสุขภาพ Health Information System Development Office (HISO)
ห้อง A3 ชั้น 3 อาคาร 4Plus Buiding เลขที่ 56/22-24 ซอยงามวงศ์วาน 4 ต.บางเขน อ.เมือง จ.นนทบุรี 11000
Tel : 02-5892490-2 Fax : 02-5892493 www.healthinfo.in.th
 
© Health Information System Development Office (HISO) . All Rights Reserved