HISO - เรื่องเล่าข่าวเด่น

  
   Follow us      
  
ไทยโพสต์ [ วันที่ 10/06/2556 ]
ภัยประชิดเด็กไทย อันตราย...โรงเรียนซ่อนอ้วน

 ปัญหาโรคอ้วนเป็นเรื่องที่ไม่ควรมองข้ามอีก ต่อไป เพราะปัจจุบันมีแนวโน้มรุนแรงขึ้น โดยเฉพาะในกลุ่มประชากรวัยเด็ก ซึ่งสถานที่ใกล้ชิดมากที่สุดอย่างสถาบันการศึกษาบางแห่งกลับหยิบยื่นภัยร้ายที่คาดไม่ถึงต่อสุขภาพร่างกาย
          ในเวทีการเรียนรู้ "ทราบแล้วเปลี่ยน...โรงเรียนซ่อนอ้วน" จากงานเปิดเวที "สานงาน เสริมพลัง ร่วมสร้างประเทศไทยให้น่าอยู่" ที่ทางสำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) ร่วมกับภาคีเครือข่ายสร้างเสริมสุขภาพจัดขึ้นเมื่อเร็วๆ นี้ ณ ศูนย์นิทรรศการและการประชุมไบเทค บางนา ที่ผ่านมาชี้ให้เห็นถึงอันตรายจากโรคอ้วนที่ทาง สสส.และภาคีได้ร่วมกันดำเนินงานด้านการจัดการเด็กอ้วนในโรงเรียน
          อาจารย์สง่า ดามาพงษ์ นักวิชาการสาธารณสุขเชี่ยวชาญโภชนาการ ผู้จัดการโครงการโภชนาการสมวัยและที่ปรึกษากิตติมศักดิ์สมาคมโภชนาการแห่งประเทศ เผยว่า เด็กไทย 540,000 คน คือจำนวนเด็กอ้วนลงพุงในปัจจุบัน จากที่ในปี พ.ศ. 2538 ซึ่งเด็กไทยเป็นโรคผอมขาดสารอาหาร ต่อมาในปี 2544 มีจำนวนเด็กอ้วนมากกว่าเด็กผอม 1.6 เท่า และในปี 2552 จำนวนเด็กอ้วนที่เพิ่มขึ้นส่งผลให้เด็กอ้วนมีจำนวนมากกว่าเด็กผอมถึง 2.5 เท่า สัญญาณอันตรายจากโรคอ้วนในเด็กก็คือ เด็กมีอาการซึม นอนกรน จากพันธุกรรมพบว่า เด็กที่มีพ่อแม่พี่น้องอ้วนมีโอกาสที่จะเกิดโรคอ้วนได้ อย่างไรก็ดีในปัจจุบันเชื่อว่าโรคอ้วนเป็นผลจากพันธุกรรมร่วมกับสิ่งแวดล้อม เช่น การรับประทานอาหารและการดำเนินชีวิต
          ด้านการรับประทานอาหารของเด็กไทยพบว่า เด็กไม่ได้กินอาหารเช้าหรือกินอาหารเช้าที่ขาดคุณภาพ โดยเฉพาะอย่างยิ่งมื้อกลางวันในโรงเรียนยังเป็นอาหารที่ด้อยคุณภาพ เด็กกินอิ่มแต่ไม่มีประโยชน์ อาหารมีพลังงานสูงมาก จำพวกของทอด ของหวาน ร้านค้าในโรงเรียนก็จำหน่ายอาหารว่าง ขนมกรุบกรอบ น้ำอัดลม สิ่งเหล่านี้เป็นภัยร้ายก่อให้เกิดโรคอ้วน
          โรคอ้วนในเด็กสามารถส่งผลกระทบต่อสุขภาพกายและสุขภาพจิตได้ เช่น ไขมันในเลือดสูง ทั้งคอเลสเตอรอล ไตรกลีเซอไรด์ และไขมันชนิดแอลดีแอล (ไขมันชนิดไม่ดี) ซึ่งอาจทำให้มีโอกาสเกิดโรคหลอดเลือดและหัวใจมากขึ้นเมื่อเป็นผู้ใหญ่, ความดันโลหิตสูง, เบาหวาน หรือความผิดปกติของการเผาผลาญอาหารประเภทแป้งและน้ำตาล, ความผิดปกติของกระดูกและข้อ เช่น กระดูกโค้งงอ ขาโก่ง เท้าแบน, โรคผิวหนัง เช่น เชื้อราที่ผิวหนัง ผิวหนังอักเสบติดเชื้อได้ง่าย, นอนกรนและหยุดหายใจขณะหลับ, โตก่อนวัย เป็นหนุ่มเป็นสาวเร็วกว่าปกติ, ประจำเดือนมาไม่สม่ำเสมอ มีบุตรยากเมื่อโตเป็นผู้ใหญ่, ตับอักเสบและถุงน้ำดีอักเสบ, ไม่มั่นใจในตนเอง อายเพราะถูกเพื่อนล้อ และอาจพบภาวะซึมเศร้าตามมาได้ รวมทั้งเด็กที่กินผักน้อยมีความเสี่ยงเป็นโรคมะเร็งสูง
          ข้อมูลที่น่าสนใจพบว่า โรงเรียนที่จัดผักผลไม้ให้เด็กเป็นอาหารว่างมีเด็กอ้วนน้อยกว่า 30% ส่วนโรงเรียนที่ได้รับการสนับสนุนทำกิจกรรมจากบริษัทเครื่องดื่มน้ำอัดลม ขนมกรุบกรอบของหวาน จะมีเด็กอ้วนประมาณ 1.5 เท่าของโรงเรียนที่ไม่ได้รับการสนับสนุน เพียงแค่ธุรกิจแต่โรงเรียนกำลังฆ่าเด็กโดยไม่รู้ตัว และโรงเรียนที่จำหน่ายน้ำอัดลมให้กับนักเรียนจะมีเด็กอ้วน 2 เท่าของโรงเรียนที่ไม่ได้ขาย ส่วนโรงเรียนที่ปฏิบัติกิจกรรมทางกาย 3 ครั้งต่อสัปดาห์ จะมีเด็กอ้วนน้อยกว่า 20%
          ปัญหาโภชนาการเป็นปัญหาของทุกคนที่ละเลยไม่ได้ โดยทุกคนต้องใส่ใจและแก้ปัญหานำพาเด็กไทยสู่โภชนาการสมวัย โรงเรียนวัดสวนส้ม จังหวัดสมุทรปราการ เป็น 1 ใน 200 โรงเรียนที่เล็งเห็นปัญหาดังกล่าว จึงเข้าร่วมโครงการโภชนาการสมวัย ภายใต้การสนับสนุนของ สสส.และกรมอนามัย โภชนาการแห่งประเทศไทย ปรับเปลี่ยนเมนูอาหารกลางวันที่มีพลังงานสูง และขนมหวาน เปลี่ยนจากอาหารราคา 13 บาท เป็น 18 บาท โดยแต่ละมื้อจะมีผลไม้มาแทนขนมหวาน ปรุงตามสัดส่วนโปรแกรมอาหารที่ทางโครงการมอบให้ รวมทั้งจัดอาหารว่างเป็นน้ำผักผลไม้ น้ำธัญพืช และปฏิเสธร้านอาหาร รถเข็นรอบโรงเรียนเพื่อสุขภาพโภชนาการเด็กที่สมวัย เพื่อป้องกันและแก้ปัญหาเด็กไทยมีภาวะอ้วน
          ที่สำคัญ นอกจากการแก้ปัญหาโรคอ้วนในเด็กแล้ว โรงเรียนแต่ละแห่งจำเป็นมีพื้นที่สุขภาวะไว้สำหรับเป็นพื้นที่สร้างสรรค์ให้คนในโรงเรียนได้ใช้ประโยชน์ เกิดความผูกพันในการมีส่วนร่วม และเกิดจิตสำนึกใหม่ในการสร้างสุขภาวะที่ดี เพื่อปลูกฝังและสร้างความเข้มแข็งทางจิตและอารมณ์เรื่องการกินและการมีกิจกรรมทางกายของเด็ก ไม่ใช่เพียงแค่สนามเด็กเล่น ทุกส่วนในโรงเรียนสามารถเป็น Health Space ได้ทั้งหมด
          ทุกวันนี้สถานการณ์ของการเป็นโรคอ้วนในกลุ่มเด็กยังคงอยู่ในอัตราที่สูง และคาดว่าจะมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ทุกปี ส่งผลทำให้เกิดปัญหาสุขภาพในระยะยาวได้ ดังนั้นเด็กเป็นโรคอ้วนจึงถือว่าเป็นเรื่องที่มีความสำคัญอย่างยิ่ง ถึงเวลาแล้วหรือยังที่ทุกคนต้องช่วยแก้ไขให้การควบคุมป้องกัน ปรับเปลี่ยนทุกครอบครัว ทุกโรงเรียนในประเทศไทยให้เป็นโรงเรียนไม่ซ่อนอ้วน.
          อ้วนอันตรายลดง่ายๆ ด้วย 3 อ.
          อ.ที่หนึ่ง อาหาร คือ ให้กินอาหารครบ 3 มื้อ ครบ 5 หมู่ ให้กินผักผลไม้ไม่หวาน และไม่กินข้าวหรือแป้งมาก ไม่กินหวาน มัน เค็ม และต้องไม่กินจุบจิบ
          อ.ที่สอง ออกกำลังกาย ต้องเผาผลาญเอาไขมันสะสมออกไป โดยออกกำลังกายลดน้ำหนัก ควรทำครั้งละ 45 นาที สัปดาห์ละ 5-6 ครั้ง
          อ.ที่สาม อารมณ์ ใครสามารถทำได้จะลดน้ำหนักได้ คือต้องมีแรงจูงใจ ความเชื่อมั่น มุมานะ อดทน และตั้งเป้าหมาย สกัด สะกด สะกิดให้ได้ว่าเจออะไรอร่อย หรือต้องคิดเสมอว่าเรากำลังลดน้ำหนัก ต้องมีสติตลอดเวลา ซึ่งการลดน้ำหนักเป็นคู่จะช่วยให้ลดน้ำหนักได้ดีขึ้น.


pageview  1205848    
สำนักงานพัฒนาระบบข้อมูลข่าวสารสุขภาพ Health Information System Development Office (HISO)
ห้อง A3 ชั้น 3 อาคาร 4Plus Buiding เลขที่ 56/22-24 ซอยงามวงศ์วาน 4 ต.บางเขน อ.เมือง จ.นนทบุรี 11000
Tel : 02-5892490-2 Fax : 02-5892493 www.healthinfo.in.th
 
© Health Information System Development Office (HISO) . All Rights Reserved