เพราะปัจจุบันคนเราให้ความสำคัญกับสุขภาพร่างกายของตนเองมากขึ้น และส่วนหนึ่งนิยมหาซื้อวิตามินรับประทานเอง เหตุเพราะโฆษณาชวนเชื่อทั้งหลายที่ออกมาโหมกระหน่ำให้คนซื้อวิตามินและเกลือแร่กินบำรุงร่างกาย โดยผู้บริโภคไม่ได้ปรึกษาแพทย์ว่าขาดวิตามินตัวใด แถมยังนิยมซื้อแบบรวมมิตรเม็ดเดียวได้ครบสรรพ ซึ่งส่งผลให้ร่างกายสะสมวิตามินหรือเกลือแร่บางตัวเกินความจำเป็น และส่งผลเสียต่อสุขภาพได้
          นพ.ไพศิษฐ์ ตระกูลก้องสมุท อาจารย์ประจำภาควิชาเวชศาสตร์ชะลอวัยและฟื้นฟูสุขภาพ ม.แม่ฟ้าหลวง กรุงเทพฯ ในฐานะแพทย์ประจำแผนก Life center รพ.สมิติเวชสุขุมวิท จึงให้ความรู้เกี่ยวกับการเลือกทานวิตามินแบบคร่าวๆ ให้เหมาะสมกับช่วงวัยอย่างปลอดภัยต่อสุขภาพ หากเป็นวัยรุ่นตอนปลายและวัยเริ่มทำงาน คุณหมอบอกว่า ฮอร์โมนหนุ่มสาวยังไม่ตก แต่เริ่มมีความเสื่อมระดับเซลล์ อาจเสริมน้ำมันปลาให้สมอง และเสริมวิตามินซีไม่ให้ภูมิคุ้มกันเสื่อม และตบด้วยวิตามินบีรวมเมื่อรู้สึกอ่อนเพลียหรือดื่มแอลกอฮอล์หนัก
          สำหรับคนวัยทำงานถึงทำงานตอนปลาย สามารถรับประทานวิตามินรวมที่ผ่านการรับรองมาตรฐานการผลิตได้ ก่อนเสริมด้วยวิตามินกลุ่มสารต้านอนุมูลอิสระ เช่น วิตามินซี โคเอนไซม์คิวเท็น รวมถึงน้ำมันปลาที่มีคุณสมบัติช่วยลดการอักเสบซ่อนเร้นภายในร่างกาย อันเป็นสาเหตุหนึ่งที่ทำให้ผิวเกิดริ้วรอยก่อนวัย และไม่ควรลืมวิตามินและเกลือแร่กลุ่มสารต้านปฏิกิริยาไกลเคชั่น เช่น แอล-คาร์โนซีน ในคนที่ติดหวานหรือชอบทานแป้งมาก ในผู้ที่มีปัญหาอ่อนเพลียมาก อาจรับประทานวิตามินบีรวมเพิ่มเข้าไปด้วย
          "ปฏิเสธไม่ได้ว่าคนวัยทำงานมักต้องสังสรรค์ดื่มแอลกอฮอล์ และหากใครที่รู้ตัวว่าดื่มเหล้า-เบียร์บ่อย ให้หาวิตามินบีมาเสริม เพราะมีความเสี่ยงขาดวิตามินบีได้ง่าย ส่วนผู้ที่ทำงานหนักออกกำลังกายน้อยแต่ต้องการควบคุมน้ำหนัก แนะนำให้ทานสารสกัดจากถั่วขาวซึ่งมีคุณสมบัติยับยั้งเอนไซม์อัลฟ่าอะไมเลส ช่วยลดการดูดซึมของอาหารในกลุ่มคาร์โบไฮเดรต และซีแอลเอ หรือ Conjugated Linoleic Acid ซึ่งเป็นสารที่พบในนมและเนื้อสัตว์ จากการศึกษาพบว่า CLA ช่วยลดการสะสมของไขมันบริเวณหน้าท้องได้ครับ" นพ.ไพศิษฐ์ กล่าวส่วนวัยเข้าสู่วัยทองและวัยชรา ผู้เชี่ยวชาญด้านเวชศาสตร์ชะลอวัยและฟื้นฟูสุขภาพคนเดิมแนะนำว่า ควรรับประทานวิตามินรวมจากแหล่งผลิตที่เชื่อถือได้ เพราะในวัยนี้อาจมีปัญหาด้านการดูดซึมสารอาหาร และมีแนวโน้มจะขาดวิตามินบางตัวได้ง่าย โดยเฉพาะวิตามินบี 12 และวิตามินดี อีกทั้งควรให้ความสำคัญกับระบบหัวใจและระบบกระดูก ด้วยการรับประทานผลิตภัณฑ์เสริมอาหารที่ลดระดับคอเลสเตอรอลในเลือด คือ น้ำมันปลา สารสกัดจากกระเทียมบ่ม สารสกัดจากเรดยีสต์ไรซ์ และแพลนต์สเตอรอลในกรณีของหัวใจ ส่วนการดูแลระบบกระดูก อาจพิจารณาการรับประทานแคลเซียม วิตามินดี และแมกนีเซียมเสริม
          ส่วนผู้ที่มีปัญหาด้านการขับถ่าย อาจเลือกรับประทานผลิตภัณฑ์เสริมอาหารที่มีเส้นใยอาหารกลุ่มโพรไบโอติก ซึ่งเป็นจุลินทรีย์ที่ดีช่วยคืนความสมดุลให้กับลำไส้ และกลุ่มพรีไบโอติก ซึ่งเป็นแหล่งอาหารของจุลินทรีย์เหล่านั้นในกลุ่มผู้สูงอายุที่อ่อนเพลีย อาจรับประทานสารสกัดจากโสม แต่ต้องระวังในผู้ที่มีปัญหานอนไม่หลับ ความดันโลหิตสูง และผู้ที่มีปัญหาการแข็งตัวของเลือด.