ผู้หญิงจะยอมทนเจ็บได้แค่ไหนเพื่อความสวยความเจ็บที่ว่าไม่ใช่เจ็บด้วยมีดหมอศัลยกรรมเสริมความงาม หรือทนเจ็บเพื่อแฟชั่นประหลาดหลุดโลกอย่างการปลูกบั้นท้าย หรือการฉีดหน้าผากให้นูนเหมือนโดนัทเบเกิลแบบวัยรุ่นญี่ปุ่นเพียงเท่านั้น แต่ยังมีความเจ็บอีกอย่างจากการสัก ไม่ใช่สักธรรมดา แต่เป็น "สักเหงือก"
          การสักเหงือกไม่ใช่แฟชั่น แต่เป็นประเพณีนิยมเก่าแก่ของสาวๆ ชาวเซเนกัล ประเทศที่ตั้งอยู่แถบแอฟริกาตะวันตกที่เหล่าสตรีหน้าคมผิวดำขำ แต่เธอคิดว่ายังไม่พอ เพราะพวกเธอยังไม่วายอยากมีเหงือกสีดำไปด้วย นัยว่าเพื่อขับสีขาวของฟันให้กระจ่างใสปิ๊งๆๆ
          คลิปวิดีโอที่มีผู้นำมาโพสต์ในเว็บไซต์ยูทูบตั้งแต่ปลายปีที่แล้ว ได้รับความนิยมอย่างรวดเร็วมาตั้งแต่ต้นปีนี้ จนเรื่องถึงสื่อและก่อกระแสฮือฮาว่าค่านิยมความงามแบบนี้...ก็มีด้วย
          กระบวนการสักเหงือกทรมานใช่เล่น กระทั่ง "มาคีเม" สาวต้นเรื่องที่โชว์ความกล้าในทีแรกยังยอมแพ้ วิธีการสักใช้เพียงแค่เข็มและน้ำมันเผาผสมเนยถั่วเชีย จิ้มๆ ลงไปที่เหงือกซ้ำกัน 7 ชั้นเพื่อรับประกันความดำ แต่มาคีเมทนสักได้แค่ 4 ชั้น บอกว่าทนเจ็บไม่ไหว และไม่แนะนำให้ใครมาทรมานแบบนี้
          ปัจจุบันสาวๆ เซเนกัลหลายคนยังยอมสักเหงือกดำ เพราะเชื่อว่ารอยยิ้มจะเย้ายวนชายหนุ่มได้มากขึ้น แม้คนที่เชื่อเช่นนี้จะเหลือน้อยลง พวกที่สักเหงือกยังอ้างด้วยว่า วิธีนี้ช่วยให้เหงือกแข็งแรงและลดกลิ่นปากได้ด้วย แถมราคาค่าบริการก็ไม่แพง คิดเป็นเงินไทยก็แค่ 40 บาทเท่านั้น.
          เซเนกัลหลายคนยังยอมสักเหงือกดำ เพราะเชื่อว่ารอยยิ้มจะเย้ายวนชายหนุ่มได้มากขึ้น แม้คนที่เชื่อเช่นนี้จะเหลือน้อยลง พวกที่สักเหงือกยังอ้างด้วยว่า วิธีนี้ช่วยให้เหงือกแข็งแรงและลดกลิ่นปากได้ด้วย แถมราคาค่าบริการก็ไม่แพง คิดเป็นเงินไทยก็แค่ 40 บาทเท่านั้น