เริ่มต้นศักราชใหม่ ทพ.วีระวัฒน์ สัตยานุรักษ์ จากโรงพยาบาลพญาไท ขอเชิญชวนทุกท่านเริ่มดูแลสุขภาพให้ดี โดยเฉพาะเรื่องของสุขภาพช่องปากและฟันไม่ควรละเลย เพราะเป็นสุขภาพที่สำคัญอย่างหนึ่ง ฟันเปรียบเสมือนเป็นประตูแห่งสุขภาพ ที่จะทำให้คนเรามีสุขภาพร่างกายแข็งแรงสมบูรณ์ ดังนั้นจึงควรรู้จักป้องกันและดูแลสุขภาพในช่องปากของตนเองตลอดจนคนในครอบครัวให้ดี
          คุณหมอระบุว่า การดูแลฟันควรเริ่มกันตั้งแต่วัยเด็กเลย ผู้ปกครองควรพาบุตรหลานของท่านมาพบทันตแพทย์เพื่อรับการตรวจสุขภาพฟัน ตลอดจนคำแนะนำในการดูแลได้ตั้งแต่อายุ 6 เดือน 1 หนึ่งปี หากพบความผิดปกติและถ้าหากผู้ปกครองดูแลสุขภาพให้บุตรหลานได้ดี ก็อาจจะพามาพบทันตแพทย์ในช่วงที่เด็กมีอายุประมาณ 2-3 ขวบก็ได้ ทันตแพทย์จะเริ่มทำงานง่าย เช่น การตรวจช่องปาก สอนแปรงฟัน ขัดฟัน เคลือบฟลูออไรด์ ใช้เวลาสั้นๆ รวดเร็ว ทำให้เด็กมีประสบการณ์ที่ดี เกิดความคุ้นเคย และไม่กลัวการทำฟัน หากผู้ปกครองปลูกฝังการดูแลสุขภาพช่องปากได้ดี ปัญหาทางทันตกรรมที่เด็กจะเผชิญเมื่อเติบโตขึ้นก็แทบจะไม่มีหรือมีก็น้อยมากและเป็นเรื่องเล็กน้อย
          เมื่อย่างเข้าสู่วัยรุ่นบุตรหลานบางคนอาจต้องการการจัดฟัน เพื่อแก้ไขภาวะฟันซ้อนฟันเก ในวัยรุ่นปัญหาที่พบบ่อยคือ โรคฟันผุ เนื่องจากอาหารและขนมขบเขี้ยวที่มีรสหวาน ประกอบกับถ้าดูแลทำความสะอาดฟันไม่ดี จะทำให้ฟันผุง่าย การมาพบทันตแพทย์ทุกๆ 6 เดือน สามารถตรวจพบความผิดปกติได้แต่ต้น และสามารถแก้ไขได้ทันท่วงทีก่อนที่จะสายเกินไป ทั้งนี้การส่งเสริมบุตรหลานฟันดีควรเริ่มจากการรับประทานอาหารที่มีประโยชน์ เสริมสร้างความแข็งแรงให้ฟัน เช่น ทานอาหารครบ 5 หมู่ อาทิ โปรตีนจากเนื้อสัตว์ต่างๆ วิตามินและแร่ธาตุต่างๆ จากผักใบเขียว ถั่วต่างๆ ควรรับประทานผลไม้เป็นประจำ ควรดื่มน้ำให้มากๆ สิ่งที่ควรหลีกเลี่ยง ไม่ควรรับประทานมากเกินความจำเป็น ได้แก่ อาหารจำพวกแป้งและน้ำตาล ขนมหวาน ลูกอม หรือน้ำอัดลมที่มีน้ำตาลผสม อาหารเหล่านี้จะเป็นที่สะสมของเชื้อแบคทีเรียในช่องปาก หากดูแลเรื่องการแปรงฟันไม่สะอาดจะทำให้เชื้อโรคหมักหมมและทำให้เกิดฟันผุได้ง่าย
          ในวัยผู้ใหญ่ นอกจากโรคฟันผุแล้ว โรคเหงือกอักเสบยังเป็นปัจจัยที่สำคัญ ควรมารับการขูดหินน้ำลาย เพื่อป้องกันการสะสมของคราบหินปูน ซึ่งเป็นตัวการทำลายกระดูกรองรับรากฟัน และทำให้เหงือกอักเสบ เวลาแปรงฟันจะสังเกตว่ามีเลือดออกตามไรฟันได้ง่ายกว่าปกติ การขูดหินปูนเป็นประจำไม่ได้ทำให้ฟันอ่อนแอแต่อย่างใด กลับทำให้สุขภาพของเหงือกดีขึ้น และทำให้ไม่มีกลิ่นปากอีกด้วย
          คุณหมอตอกย้ำว่า อยากให้ระลึกเสมอว่าปัญหาสุขภาพในช่องปากก็คือหนึ่งในปัญหาสุขภาพของร่างกาย ทุกคนมักจะไปตรวจสุขภาพ เช่น การตรวจตา ตรวจเลือด เช็กน้ำตาล ไขมันเป็นประจำ แต่ละเลยที่จะมาตรวจสุขภาพฟัน ซึ่งเป็นประตูแห่งสุขภาพดังที่ได้กล่าวมาในข้างต้น "ดังนั้นในปีใหม่นี้จึงอยากให้ทุกท่านหันมาเอาใจใส่ต่อการดูแลสุขภาพทางช่องปากและฟัน ทันตแพทย์ทุกท่านยินดีให้คำปรึกษา แนะนำการแปรงฟัน และแก้ไขความผิดปกติต่างๆ ของสุขภาพปากและฟันได้เสมอ เพื่อให้ปีใหม่ที่จะถึงนี้เป็นปีแห่งการเริ่มต้นของการมีสุขภาพในช่องปากและฟันที่ดีตลอดไป" ทพ.วีระวัฒน์ สัตยานุรักษ์ กล่าวสรุป.