HISO - เรื่องเล่าข่าวเด่น

  
   Follow us      
  
ไทยโพสต์ [ วันที่ 04/01/2556 ]
วันอันตรายไม่พอ ต้อง 365 วันหยุดตายด้วยวินัยจราจร-ดื่มไม่ขับ

   แม้จะสิ้นสุดช่วง 7 วันอันตรายเทศกาลปีใหม่ โดยศูนย์ปลอดภัยทางถนนสรุปช่วง 7 วัน สิ้นสุด ณ วันที่ 2 มกราคม 2556 ปรากฏว่ามียอดผู้เสียชีวิตทั้งหมด 365 ราย และมีผู้บาดเจ็บรวม 3,329 ราย ลงลึกในอุบัติเหตุ พบว่าจำนวนอุบัติเหตุรวม 7 วัน จำนวน 3,176 ครั้ง เพิ่มขึ้น 83 ครั้ง หรือร้อยละ 2.68 จากปีที่แล้ว ส่วนผู้เสียชีวิตเพิ่มขึ้น 29 ราย จากเดิม 336 ราย หรือร้อยละ 8.63 ส่วนผู้บาดเจ็บโดยรวมลดลง ร้อยละ 1.3 หลังจากนี้จะนำตัวเลขมาวิเคราะห์เพื่อหาทางลดสถิติต่อไป
          แต่การเกิดอุบัติเหตุบนท้องถนนไม่ได้หยุดอยู่แค่ 7 วันนั้น เพราะสถิติอัตราการเสียชีวิตของคนไทยจากอุบัติเหตุทางถนน มากกว่าการตายจากอาชญากรรมถึง 4 เท่า เป็นความจริงที่แสดงเห็นว่า ปัญหาอุบัติเหตุทางถนนบ้านเราต้องเร่งหาทางป้องกันและรับมือ เพื่อลดผลกระทบความสูญเสียที่จะตามมา โดยปัจจัยเสี่ยงสำคัญที่ก่อให้เกิดอุบัติเหตุทางถนนในอันดับต้นๆ มี 4 ปัจจัยที่กล่าวกันว่าคร่าชีวิตผู้ใช้รถใช้ถนนมากมายในแต่ละปี ประกอบด้วยผู้ขับขี่จักรยานยนต์ที่ไม่สวมหมวกนิรภัย การไม่คาดเข็มขัดนิรภัย การขับรถเร็วเกินกฎหมายกำหนด และการดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์แล้วขับ ซึ่งได้ชื่อว่าเป็นแชมป์ก่อเกิดอุบัติเหตุทางถนนสร้างความเสียหายในชีวิตและทรัพย์สิน โดยเฉพาะช่วงเทศกาล ทั้งปีใหม่ สงกรานต์ที่เมาฉลองจนเกิดการเจ็บตายอันน่าเศร้าใจ
          อย่างไรก็ตาม จากรายงานปัจจุบันมีผู้เสียชีวิตจากอุบัติเหตุทางถนนวันละ 25-30 คน หรือเฉลี่ยชั่วโมงละ 1 คน และทำให้มีผู้พิการรายใหม่ปีละกว่า 5 แสนราย ซึ่งเป็นตัวเลขที่สูงไม่น้อย คิดเป็นมูลค่าความสูญเสีย 2 แสนล้านบาทต่อปี หรือคิดเป็นร้อยละ 2.8 ของผลิตภัณฑ์มวลรวมประชาชาติ (จีดีพี)
          ด้วยสาเหตุดังกล่าว จึงมีการดำเนินโครงการที่เป็นรูปธรรมเพื่อลดการตายบนท้องถนนวันนี้สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) และสำนักงานตำรวจแห่งชาติ, กระทรวงสาธารณสุข, บริษัท กลางคุ้มครองผู้ประสบภัยจากรถ จับมือกันเดินหน้าสู่เป้าหมาย ทศวรรษแห่งความปลอดภัยทางถนน 2554-2563 ตั้งเป้าลดอุบัติเหตุลงครึ่งหนึ่งในทศวรรษนี้ ด้วยการจัดโครงการป้องกันและลดการตายจากอุบัติเหตุทางถนนแบบบูรณาการในพื้นที่นำร่อง โดยดำเนินการใน 15 จังหวัดนำร่อง ด้วยการสร้างสถานีผู้พิทักษ์ถนนปลอดภัย หวังว่าจะเป็นอีกโครงการช่วยผลักดันให้เกิดการป้องกันและลดสถิติอุบัติเหตุได้
          นพดล สันติภากรณ์ กรรมการผู้จัดการบริษัท กลางคุ้มครองผู้ประสบภัยจากรถ ซึ่งทางบริษัท กลางฯ มีส่วนร่วมสนับสนุนเรื่องความปลอดภัยทางถนนโดยรวบรวมข้อมูลสถิติการเกิดอุบัติเหตุไว้ในเว็บไซต์ Thairsc.com เพื่อเป็นประโยชน์ต่อหน่วยงานต่างๆในการนำข้อมูลอุบัติเหตุมาวิเคราะห์ วิจัย ตลอดจนได้สนับสนุนการสร้างและพัฒนาระบบโปรแกรมการบันทึกข้อมูลการเกิดอุบัติเหตุ ให้กับสถานีตำรวจที่เข้าร่วมโครงการป้องกันและลดการตายจากอุบัติเหตุทางถนนแบบบูรณาการในพื้นที่นำร่อง กล่าวว่าในช่วง 7 วันอันตราย ปฏิเสธไม่ได้ว่ามีการเดินทางบนท้องถนนมาก ทั้งเดินทางกลับบ้าน เดินทางไปท่องเที่ยวฉลองเทศกาลปีใหม่ ซึ่งรัฐบาลก็มีการตั้งเป้าลดตายและเจ็บในช่วงนี้อย่างเข้มข้นอยู่แล้ว แต่ในความเป็นจริงอุบัติเหตุเกิดทุกวันอยู่แล้ว เราคงปฏิเสธไม่ได้ว่า ทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องต้องการให้ประเทศเป็นสังคมปลอดภัยทางถนน เพื่อลดผลกระทบ
          "คนตายคนเจ็บจากอุบัติเหตุบนถนนมีทุกวัน ซึ่งในความเป็นจริงเราควรรักความปลอดภัยได้ทุกวัน แต่ยอมรับว่าช่วงเทศกาลมีความถี่ของการเกิดอุบัติเหตุ เพราะมีการเคลื่อนย้ายท่องเที่ยวของผู้คนจำนวนมหาศาลกว่าช่วงปกติ ฉลองปีใหม่ ฉลองสงกรานต์ เฮฮาปาร์ตี้จนเมา และเป็นหนึ่งในปัจจัยที่ก่อเกิดอุบัติเหตุบนท้องถนน ยิ่งไปกว่านั้นองค์การอนามัยโลก (WHO) รายงานว่าประเทศไทยมีจำนวนการเกิดอุบัติเหตุสูงสุดในเอเชียเมื่อเทียบต่อประชากรอย่าให้เราเข้าไปติดอันดับที่ 1 ในเรื่องแบบนี้เลยเราต้องกลับมาตั้งสติ พร้อมสร้างวัฒนธรรมความปลอดภัยทางถนน เคารพกฎหมาย กติกา วินัยจราจร ดื่มไม่ขับเพราะทุกชีวิตมีคุณค่า จะทำเช่นไรให้ตัวเลขลดลงและปลอดภัยมากยิ่งขึ้น" นพดลกล่าว
          ในช่วงปีที่ผ่านมา กรรมการผู้จัดการบริษัท กลางฯ ให้ข้อมูลว่า จากการดำเนินโครงการลดอุบัติเหตุต่างๆ เห็นผลที่น่าพอใจ โดยในปี พ.ศ. 2555 ในพื้นที่จังหวัดนำร่อง 15 จังหวัด สถิติการเกิดอุบัติเหตุลดลงเมื่อเทียบกับปีพ.ศ. 2554 ซึ่งจำนวนผู้เสียชีวิตบนถนนลดลง 5% ขณะที่ตัวเลขผู้บาดเจ็บได้ลดลง 10% ซึ่งในปี พ.ศ. 2556 หน่วยงานทั้งรัฐและเอกชน ภาคีเครือข่ายต่างๆ จะขับเคลื่อนต่อ
          โดยจะมีการประชุมเพื่อกำหนดเป้าหมายตั้งเป้าลดอุบัติเหตุกันในเร็วๆ นี้ ภายใต้แนวคิดหยุด 365 วันอันตราย และจะขยายผลให้ครอบคลุมจังหวัดอื่นให้ได้มากสุด ซึ่งปัจจุบันจังหวัดนำร่อง เช่น จังหวัดภูเก็ต จังหวัดนครศรีธรรมราช จังหวัดเชียงราย  จังหวัดน่านจังหวัดพระนครศรีอยุธยา กรุงเทพมหานคร มีการกวดขันวินัยจราจรและรณรงค์ให้ความรู้ความเข้าใจเรื่องความปลอดภัยบนท้องถนนกับประชาชนในจังหวัด
          ส่วนแนวทางการปฏิบัติของโครงการนี้คือ การยึดโรดแมพทศวรรษความปลอดภัยบนท้องถนน เพราะจากการศึกษาและวิเคราะห์แนวทางที่จะป้องกันและลดอุบัติเหตุนั้น นพดลได้บอกว่า มี 5 เสาหลัก ถือเป็นภารกิจสำคัญของทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้อง เสาแรก การบริหารจัดการความปลอดภัย เสาที่ 2 สภาพแวดล้อมและถนนปลอดภัย เสาถัดมา การบริหารจัดการตัวรถยนต์ พาหนะ นั่นหมายถึงสภาพรถยนต์ที่สมบูรณ์และมีประสิทธิภาพ
          เสาที่ 4 การบริหารจัดการคน มีส่วนสำคัญเพราะเกี่ยวกับพฤติกรรมของผู้ขับขี่ ต้องทำให้ตระหนักถึงความปลอดภัยบนท้องถนน หยุดพฤติกรรมเสี่ยง เสาสุดท้าย การบริหารจัดการดูแลเมื่อเกิดอุบัติเหตุขึ้นแล้วเป็นการช่วยเหลือและบรรเทา เตรียมพร้อมทุกขณะ เพราะอุบัติเหตุไม่สามารถป้องกันได้ 100% แน่นอนว่าสถานีผู้พิทักษ์ความปลอดภัยเป็นหนึ่งในกิจกรรมยกระดับการพัฒนาระบบข้อมูลอุบัติเหตุบนถนน ซึ่งได้ทำหน้าที่ส่งเสริมข้อมูลอุบัติเหตุที่เกิดขึ้น ใช้พัฒนาระบบป้องกันที่เหมาะสม
          กรรมการผู้จัดการบริษัท กลางฯ เน้นย้ำด้วยว่า รถไม่ใช่เพชรฆาต ถ้าประมาทเพชรฆาตก็คือรถ ซึ่งความประมาทมาจากหลายๆ สาเหตุ ขับรถเร็วเกินกฎหมายกำหนด ดื่มไม่สวมหมวก ส่วนรถจักรยานยนตร์มีสถิติเกิดอุบัติเหตุสูง พฤติกรรมของผู้ขับขี่ก็ต้องเน้นให้ความรู้กัน ทั้งขับขี่อย่างมีน้ำใจ ขับถึงทางร่วมทางแยกต้องชะลอรถ ถนนลื่นอย่าขับเร็วเห็นทางม้าลายจอดให้คนข้าม จนกระทั่งแนวทางปกป้องตัวเองจากอุบัติเหตุ เช่น คาดเข็มขัดนิรภัยทุกครั้งจะไกลหรือใกล้ ใส่หมวกกัน น็อก แล้วก็เมาไม่ขับ ถ้าคนไทยยึดแนวทางเหล่านี้ตัวเลขอุบัติเหตุจะดีขึ้น เห็นผลชัดเจน ก็จะไม่พบเรื่องสูญเสียคนรักหรือบุคคลที่เป็นกำลังหลักของครอบครัวจากอุบัติเหตุ แล้วยังไม่นับการประหยัดเงินที่จะไม่สูญเสียไปกับการรักษาพยาบาล ซึ่งคิดเป็นมูลค่าผลิตภัณฑ์มวลรวมประชาชาติมหาศาลอีกด้วย
          สำหรับศูนย์ข้อมูลทางอุบัติเหตุเพื่อเสริมสร้างวัฒนธรรมการขับขี่ปลอดภัยทางถนน หรือ  Thairsc นั้น ประชาชนสามารถเข้าไปดูข้อมูลอุบัติเหตุได้ มีรายงานอุบัติเหตุรายใหญ่ เช่น เมื่อวันที่1 มกราคมที่ผ่านมา มีเหตุเมาฉลองปีใหม่ ไล่ยิงคู่อริกลางถนนเอเชีย 41 กระบะย้อนศรชนรถทัวร์ดับ 5 ชีวิต บาดเจ็บ 6 ราย นอกจากนี้ยังมีรายงานอุบัติเหตุสะสมตลอดปี ซึ่งผู้ที่มีแผนเดินทางไปยังจังหวัดต่างๆ โดยเฉพาะจังหวัดนำร่องที่ดำเนินโครงการ สามารถเข้าไปดูอุบัติเหตุทางถนนในเส้นทางดังกล่าวเพื่อเตือนสติตัวเองก็เป็นอีกเครื่องมือที่พัฒนาขึ้นเพื่อป้องกันอุบัติเหตุอีกด้วยโดยในส่วนของข้อมูลที่รวบรวมไว้ทางหน่วยงานต่างๆ รวมถึงเจ้าหน้าที่ตำรวจยังจะนำมาวิเคราะห์ช่วยวางแผนป้องกันอุบัติเหตุระยะสั้น ระยะกลาง และระยะยาวอีกด้วย.
          "WHO รายงานว่าไทยมีจำนวนการเกิดอุบัติเหตุสูงสุดในเอเชียเมื่อเทียบต่อประชากร อย่าให้เราเข้าไปติดอันดับที่ 1 ในเรื่องแบบนี้เลย เราต้องกลับมาตั้งสติ พร้อมสร้างวัฒนธรรมความปลอดภัยทางถนน เคารพกฎหมาย กติกา วินัยจราจร ดื่มไม่ขับ เพราะทุกชีวิตมีคุณค่า จะทำเช่นไรให้ตัวเลขลดลงและปลอดภัยมากยิ่งขึ้น"


pageview  1205831    
สำนักงานพัฒนาระบบข้อมูลข่าวสารสุขภาพ Health Information System Development Office (HISO)
ห้อง A3 ชั้น 3 อาคาร 4Plus Buiding เลขที่ 56/22-24 ซอยงามวงศ์วาน 4 ต.บางเขน อ.เมือง จ.นนทบุรี 11000
Tel : 02-5892490-2 Fax : 02-5892493 www.healthinfo.in.th
 
© Health Information System Development Office (HISO) . All Rights Reserved