HISO - เรื่องเล่าข่าวเด่น

  
   Follow us      
  
ไทยโพสต์ [ วันที่ 18/10/2555 ]
ชวนหญิงไทยตรวจมะเร็งเต้านมก่อนสาย สาวออฟฟิศ-อายุต่ำกว่า30เสี่ยงเป็นสูง

ผงะ! พบหญิงไทยเป็นมะเร็งเต้านมอายุน้อยลงไม่ถึง 30 ปี ป่วยถึงตาย ส่วนกลุ่มอายุ 20-30 ปีพบก้อนซีสต์มากขึ้น และอาจพัฒนาการเป็นเซลล์มะเร็งได้ในอนาคต รพ.สมิติเวช เตือนเมื่อหน้าอกโตเต็มวัยควรรีบมาตรวจที่สถาบันการแพทย์เพื่อความแม่นยำร่วมกับการตรวจคลำด้วยตัวเองระบุเพิ่มกลุ่มที่มีประจำเดือนเร็วและหมดช้า หรือกลุ่มที่ไม่ผ่านการตั้งครรภ์ ไม่เลี้ยงลูกด้วยนมแม่ รวมถึงกลุ่มที่ต้องรับฮอร์โมนวัยทอง เสี่ยงเป็นมะเร็งเต้านมสูง
          เมื่อ"มะเร็งเต้านม" กลายเป็นภัยร้ายอันดับหนึ่งคุกคามผู้หญิงทั่วโลกแทนที่มะเร็งปากมดลูก แม้แต่ผู้หญิงไทยเองก็เสียชีวิตจากโรคดังกล่าวมากขึ้น ขณะที่อายุของผู้เป็นโรคกลับน้อยลง บางรายตรวจพบในระยะร้ายแรงด้วยอายุเพียง 27 ปี ส่งผลให้กิจกรรมรณรงค์ป้องกันมะเร็งเต้านม หรือ Pink Ribbon ประจำเดือนตุลาคมของทุกปีถูกจัดขึ้นอย่างต่อเนื่องไม่เว้นแม้แต่ที่โรงพยาบาลสมิติเวช สุขุมวิท ที่คิดแคมเปญ "October Go Pink" และดำเนินการมาเป็นปีที่ 3 เพื่อให้ทุกคนได้ตระหนักและพร้อมใจป้องกันโรคร้าย
          โดยในปีนี้ นอกจากการให้ความรู้เรื่องการตรวจมะเร็งเต้านมด้วยตนเองสำหรับผู้หญิง พร้อมคำแนะนำสำหรับผู้ป่วยที่ประสบกับโรคมะเร็งเต้านมแล้ว ทางโรงพยาบาลยังมีกิจกรรมเพื่อสังคมทั้งการรับบริจาคเส้นผมเพื่อผลิตเป็นวิกผมก่อนนำไปมอบให้กับสถาบันมะเร็งแห่งชาติ การถักหมวกจากเส้นไหมจีนธรรมชาติไม่ก่อให้เกิดเอฟเฟ็กต์ เพื่อมอบให้แก่ผู้ป่วยที่เกิดผลข้างเคียงหลังจากรักษาด้วยเคมีบำบัดที่เริ่มเป็นปีแรก
          พญ.สมสิริ สกลสัตยาทร กรรมการผู้จัดการและเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท สมิติเวช จำกัด (มหาชน) ในฐานะประธานเปิดงาน เผยว่า กว่า 2 ปีที่มะเร็งเต้านมกลายเป็นโรคร้ายแรงอันดับหนึ่งสำหรับผู้หญิงแทนที่มะเร็งปากมดลูก น่าตกใจว่าผู้หญิงไทยที่ป่วยเป็นโรคนี้แล้วเสียชีวิตมีอายุน้อยลงเรื่อยๆจากเดิม 40 ปีถึงตรวจพบ แต่ปัจจุบันนี้ไม่ถึง 30 ปีก็ป่วยและเสียชีวิตด้วยโรคมะเร็งเต้านม และยังพบด้วยว่าผู้หญิงที่มีอายุตั้งแต่ 20 ปีขึ้นไปมีซีสต์ที่เต้านมมาก ในเบื้องต้นอาจเป็นแค่ก้อนแคลเซียมธรรมดา แต่ในระยะยาวมีสิทธิ์พัฒนาการเป็นมะเร็งได้จากปัจจัยเสี่ยงในชีวิตประจำวัน ที่น่าตกใจยิ่งกว่า ในกลุ่มสาวออฟฟิศมีสิทธิ์เป็นมะเร็งเต้านมมากกว่าชาวบ้าน ทว่าในกลุ่มนักโทษหญิงพบว่าป่วยเป็นมะเร็งทั้งสองโรค
          "ขอแนะนำให้ผู้หญิงที่มีเต้านมโตเต็มวัย หรือมีอายุประมาณ 20 ปีขึ้นไป เข้ารับการตรวจหามะเร็งเต้านมกับสถาบันการแพทย์ ควบคู่ไปกับการตรวจด้วยตัวเอง เพราะบางครั้งการตรวจหาด้วยตัวเองอาจไม่แม่นยำพอ ซึ่งที่สมิติเวช สุขุมวิท เรามีเครื่องแมมโมแกรมตรวจมะเร็งเต้านมแบบ 3 มิติ หรือ Digital Breast Tomosynthesis ที่มีความละเอียดสูงยิ่งขึ้นกว่าเดิม และได้รับการรับรองทางการแพทย์จากสหรัฐอเมริกา" กรรมการผู้จัดการ บ.สมิติเวชกล่าว
          พญ.สมสิริอธิบายต่อด้วยว่า การตรวจหามะเร็งเต้านมด้วยแมมโมแกรมแบบ 3 มิติ เป็นการตรวจที่มีความสามารถสูงในการหามะเร็งเต้านมที่ยังมีขนาดเล็กและไม่มีอาการ โดยเครื่องจะรายงานภาพแบบซอยละเอียดทุก 1 เซนติเมตรไปในแนวเดียวกัน จนเห็นภาพแยกตามตำแหน่งจริงไม่ซ้อนกัน ต่างจากการตรวจแมมโมแกรมแบบธรรมดาที่ภาพมักซ้อนกัน ทำให้การรักษาได้ผลดี ผู้ป่วยมีโอกาสอยู่รอดมากขึ้นและนานขึ้น
          ด้าน นพ.วิชัย วาสนสิริ กล่าวถึงสาเหตุของการเกิดมะเร็งเต้านม พร้อมแนะนำวิธีการหลีกเลี่ยงการเกิดโรคไว้ดังนี้ว่า สาเหตุการเกิดมะเร็งเต้านมที่แท้จริงทางการแพทย์ยังไม่ทราบว่าเกิดจากสาเหตุใดกันแน่ เราจึงมาดูในเรื่องปัจจัยเสี่ยงที่ทำให้เซลล์เกิดการเปลี่ยนแปลงแทนอย่างไรก็ดีเมื่อวิเคราะห์ตามหลักกายวิภาคแล้วมะเร็งเต้านมมักจะเกิดในสองส่วนด้วยกันคือ ท่อน้ำนมและกระเปาะสร้างน้ำนมที่มีเซลล์เยื่อบุอยู่ข้างใน หากเซลล์ที่ว่ามีการพัฒนาตัวเองแต่ไม่ออกนอกผนังท่อหรือผนังกระเปาะ เราเรียกว่าระยะศูนย์ แต่เมื่อไรที่ลุกลามออกข้างนอกเราจึงจะเรียกมะเร็ง
          แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านศัลยกรรมจากสมิติเวช สุขุมวิท กล่าวต่อว่า ปัจจัยเสี่ยงที่ทำให้ผู้หญิงเสี่ยงเป็นมะเร็งเต้านม มีทั้งที่เปลี่ยนแปลงได้และเปลี่ยนแปลงไม่ได้ ปัจจัยที่เปลี่ยนแปลงไม่ได้ได้แก่ 1.อายุมาก 2.กรรมพันธุ์ 3.ผู้ที่ประจำเดือนมาเร็วก่อนอายุ 12 ปี และผู้ที่ประจำเดือนหมดช้าหลังอายุ 55 ปี และ 4.กลุ่มที่ต้องให้ฮอร์โมนวัยทอง โดย 2 ประการหลังเป็นเพราะผู้หญิงสัมผัสกับฮอร์โมนเอสโตรเจนมากเกินควร
          "ส่วนปัจจัยที่สามารถเปลี่ยนแปลงได้ก็คือ 1.การเลี้ยงลูกด้วยนมแม่ จะช่วยให้เต้านมผลิตฮอร์ โมนโปรแลคตินมาแทนที่ฮอร์โมนเพศหญิง เอสโตรเจน 2.มีบุตรคนแรกก่อนอายุ 30 ปี เพราะระหว่างตั้งครรภ์ร่างกายผู้หญิงไม่ต้องผลิตฮอร์โมนเอสโตรเจน 3.ไลฟ์สไตล์ที่ดี กินอาหารที่มีประโยชน์ 4.งดดื่มแอลกอฮอล์และ 5.ฟิตแอนด์เฟิร์มด้วยการออก กำลังกาย เนื่องจากฮอร์โมนเอสโตรเจนมาจากไขมัน"นพ.วิชัยให้ความรู้ทิ้งทาย
          ขณะที่ช่างผมไฮโซฝีมือดี มาร์ค ธาวิน ฝากถึงผู้ที่ต้องการบริจาคเส้นผมเพื่อช่วยผู้ป่วยผมร่วงหลังจากได้รับคีโมว่า ความยาวที่เหมาะแก่การบริจาคผมต้องยาวตั้งแต่ 7-8 นิ้วขึ้นไป และต้องเป็นผมบริสุทธิ์ ไม่ผ่านการทำสี ดัด หรือแม้แต่ทำทรีตเมนต์ภายใน 6 เดือนก่อนการบริจาค เพราะอาจทำให้เกิดเอฟเฟ็กต์ต่อผู้ป่วยได้ นอกจากนี้ยังต้องเป็นเส้นผมที่มีสุขภาพดีไม่แห้งกระด้างแตกปลาย เนื่องจากเวลานำไปทำวิกแล้วจะไม่มีน้ำมันเคลือบผมตามธรรมชาติไปหล่อเลี้ยง ถ้าเป็นสภาพผมแย่จะทำให้เหมือนวิกปลอมและมีอายุการใช้งานไม่นาน
          "แม้ว่าโครงการ October Go Pink จะจบลงช่วงปลายเดือนตุลาคม แต่ทางร้านมาร์ค ธาวิน : แฮร์ คัล เลอร์ แอนด์ เทคนิคเชียล เซ็นเตอร์ ทุกสาขา ยังรับบริจาคเส้นผมตลอดเพื่อไว้ใช้ในปีหน้าเพราะทางนิวราวัณบอกว่าผมบริจาค 4 คน จัดทำวิกผมแท้ได้เพียง 1 อัน ซึ่งผู้ที่ต้องการบริจาคสามารถเดินเข้าร้านทุกสาขาและแจ้งความประสงค์ได้ทันที และไม่เสียค่าบริการตัดครับ" มาร์คระบุ
          ผ่านไปแล้วครึ่งทางสำหรับโครงการ October Go Pink ปี 3 ซึ่งได้หมวกไหมแท้พร้อมบริจาค 200 ใบ จากการตั้งเป้าที่ 280 ใบ ส่วนวิกผมนั้นได้ประมาณ 100 อัน จากที่ตั้งเป้าไว้ 200 อัน ทางผู้จัดงานจึงขอเชิญชวนให้ผู้มีจิตศรัทธาร่วมบริจาคผม หรือช่วยถักหมวกไหมแท้เพื่อผู้ป่วยมะเร็งเต้านมโดยสามารถนำมาบริจาคได้ที่ รพ.สมิติเวช จนถึงวันที่ 31 ต.ค. 2555.

 


pageview  1205849    
สำนักงานพัฒนาระบบข้อมูลข่าวสารสุขภาพ Health Information System Development Office (HISO)
ห้อง A3 ชั้น 3 อาคาร 4Plus Buiding เลขที่ 56/22-24 ซอยงามวงศ์วาน 4 ต.บางเขน อ.เมือง จ.นนทบุรี 11000
Tel : 02-5892490-2 Fax : 02-5892493 www.healthinfo.in.th
 
© Health Information System Development Office (HISO) . All Rights Reserved