HISO - เรื่องเล่าข่าวเด่น

  
   Follow us      
  
ไทยโพสต์ [ วันที่ 27/08/2555 ]
องค์กร PETA ชวนกินผักการรณรงค์ที่ถูกตั้งคำถาม

 หลายครั้งหลายคราที่สายตาของผู้คนในสังคม ต้องเผชิญกับไอเดียสุดแย่ของพีตา(PETA) องค์กรอิสระรณรงค์เพื่อต่อต้านการทารุณสัตว์เพราะแม้สิ่งที่พีตาทำจะเป็นเรื่องดีแต่แคมเปญในการออกโฆษณาแต่ละครั้งนี่สิ ทำให้หลายคนถึงกับตั้ง
          คำถามว่า การนำเอาหญิงสาวเปลือยบ้าง นุ่งน้อยห่มน้อยบ้าง มา
          รณรงค์เรียกร้องเป็นการละเมิดสิทธิของผู้หญิงหรือไม่?!?? ยิ่ง
          เฉพาะโฆษณาชิ้นล่าสุดที่ใช้หญิงสาวแต่งบิกินีมาแสดง
          ท่าทางยวนยั่วให้ผู้คนหันมากินผัก จนประเทศเสรีอย่างอเมริกายังสั่งแบนเพราะล่อแหลมเกินไป!!
          แม้จะโดนยี้โดนแบน แต่ ลินด์เซย์ ราจท์ รองผู้อำนวยการแคมเปญฉาวดังกล่าวของพีตากลับไม่ยี่หระ
          แถมยังบอกโอเค ถ้าคนจะมองว่ามันน่ารังเกียจ และ
          โกรธขึ้งว่าเป็นการละเมิดสิทธิผู้หญิง เพราะแม้จะไม่
          งามแต่ก็มีคนจำนวนไม่น้อยบริจาคเงินให้องค์กร
          เพราะได้ดูโฆษณาชิ้นนี้
          อย่างไรก็ตาม มีการตั้งข้อสังเกตจากทางพีตาด้วยว่า จริงๆ แล้วการฆ่าสัตว์เพื่อ
          กินเนื้อนั้น เปรียบได้กับฆาตกรที่เลวร้าย
          ยิ่งกว่าการพาผู้หญิงเปลือยหรือเกือบ
          ล่อนจ้อน มาถ่ายโฆษณารณรงค์เสีย
          อีก และการออกมาต่อต้านโฆษณา
          ชวนคนกินมังสวิรัติในครั้งนี้ น่าจะ
          มาจากกลุ่มอุตสาหกรรมเนื้อสัตว์
          สุดสกปรก ที่ต้องการรักษาฐาน
          ลูกค้าไว้
          และเพื่อความเป็นธรรม จึงมีการตั้งโต๊ะเปิด
          โอกาสให้พีตาได้ชี้แจงแถลงไขถึงกลยุทธ์ที่พวกเขาใช้ ว่า "มันเข้าข่ายและตั้งใจอนาจารจริงหรือ???"
          ราจท์ เริ่มต้นอธิบายว่า ความขัดแย้งพื้นฐานต่างๆ ในสังคมเป็นเหตุผลที่ทำให้องค์กรพีตาถือกำเนิดขึ้น และเรายินดีทำงานหนักขึ้นเล็กน้อยกับเนื้อหาที่ดึงดูดความสนใจ เพื่อให้ข้อความที่เราต้องการสื่อสารผ่านงานโฆษณาเป็นที่จดจำของผู้คน นั่นเพราะเราไม่ได้มีเงินมากมายพอที่จะจ่ายเพื่อจัดจ้างการทำโฆษณาชั้นดีซึ่งถ้าโฆษณาของเราเป็นที่สนใจ มันก็จะถูกส่งต่อและพูดถึงแบบฟรีๆ
          "เราเรียนรู้ว่าแคมเปญโฆษณาที่ขัดแย้งกับสังคม และก่อให้เกิดการโต้เถียง มีแนวโน้มที่จะได้รับการกล่าวถึงมากขึ้น อย่าลืมว่าทุกวันนี้มีสารจำนวนมากที่ต้องการให้คนรับรู้ และเราก็เป็นหนึ่งที่ต้องการให้พวกเขาจดจำ"รองผู้อำนวยการแคมเปญกินผักดีกว่ามีเซ็กซ์จากพีตา ระบุเพิ่ม
          ราจท์ ยังกล่าวต่อด้วยว่า ฉะนั้นแคมเปญของพีตาแทบทุกอันจึงเป็นอะไรที่ทำให้สังคมตกตะลึง และหยุดพูดคุยถึงสิ่งที่พวกเขาได้เห็น เพียงแต่ผู้คนมักจะได้ยินข่าวลือว่าโฆษณาของพีตานั้นบ้า และหลายคนเชื่อในคำกล่าวอ้างนั้นจนกลายเป็นอคติ ก่อนที่จะได้ดูและวิเคราะห์ว่าข้อเท็จจริงแล้วเนื้อหาสื่อในเชิงบวกด้วยซ้ำ
          "ผมคิดว่าแคมเปญโฆษณาที่เราส่งออกไปหลายๆ อัน มีประสิทธิภาพในการให้คนตระหนักและรับรู้มาก โดยล่าสุดกับ Boyfriend Went Vegan ที่ภายในวันแรกก็มีชื่อตั้งต้นในเว็บเสิร์ชเอนจิ้นถึง2,500 เว็บไซต์ ที่ผู้คนจะคลิกเข้าไปดูรายละเอียดเกี่ยวกับการกินมังสวิรัติ" เจ้าหน้าที่คนเดิมจากองค์กรต่อต้านการทารุณสัตว์ ชี้ให้เห็นถึงอิทธิพลของการโฆษณาแบบพีตา และกล่าวต่อถึงวิธีการทำงานหลังจากปล่อยโฆษณาสุดฉาวนี้แล้ว
          "เราเพียงแต่จุดชนวนให้ผู้คนสงสัยและตั้งข้อสังเกต จากนั้นเราก็จะนำเสนอข้อมูลด้านอื่นๆที่มีอยู่มาประกอบตามไปด้วย นี่คือกลยุทธ์ของเรา และแม้ว่าเราจะถูกประณาม แต่เราก็เชื่อว่าวิธีสร้างความเป็นธรรมในสังคมที่ทำอยู่นั้นมีคุณค่า และพีตาไม่ได้ต้องการอะไรมากไปกว่าการให้ทุกคนเข้าถึงสารที่เราต้องการสื่อในแบบมากที่สุดเท่าที่จะมากได้"
          แล้วทำไมต้องใช้เรือนร่างสตรีมาเป็นตัวจุดชนวน??? ราจท์ กล่าวเกี่ยวกับเรื่องนี้ว่าเชื่อไหมว่าประธานพีตาและผู้ร่วมก่อตั้งองค์กรของเราเป็นผู้หญิง และทุกคนก็เป็นนักเรียกร้องสิทธิสตรี เพียงแต่ผู้หญิงที่ปรากฏในโฆษณาของพีตาเป็นอาสาสมัครที่มาด้วยใจ ไม่มีใครบังคับ และพวกเธอต้องการใช้ร่างกาย ปากกา เฟซบุ๊ก และทวิตเตอร์ของตัวเอง ช่วยส่งเสียงร้องขอให้สังคมภายนอกเลิกทารุณสัตว์เสียที!
          "แต่ก็น่าแปลกใจว่า หลายครั้งที่พีตาใช้ผู้ชายและเรือนร่างของผู้ชายเข้ามาเป็นหนึ่งองค์ประกอบในการโฆษณา แต่ก็ไม่มีใครออกมาติติงในเรื่องนี้หรือไม่ก็บางครั้งที่ใช้ทั้งผู้หญิงและผู้ชายในการโฆษณา แต่ก็มีมือดีลบภาพผู้ชายออกเหลือไว้แต่ผู้หญิงก่อนโพสต์ลงในอินเทอร์เน็ต แล้วก็มานั่งประณามกันว่าเราไม่ดี"
          ท้ายนี้ ตัวแทนจากพีตา กล่าวด้วยน้ำเสียงขมขื่นด้วยว่า สังคมไม่เคยตระหนักถึงสิ่งดีๆ ด้านอื่นที่พีตาทำมา นอกเหนือจากการออกโฆษณาด้วยภาพหญิงเปลือย ซึ่งที่จริงพีตามีคลินิกเพศในเวอร์จิเนีย ที่คนยากจนสามารถมาขอความช่วยเหลือได้ฟรี นอกจากนี้เรายังทำงานแบบปิดทองหลังพระมากเกินไป และไม่จำเป็นเลยที่พวกเราต้องมาสาธยายถึงเรื่องพวกนี้.
          เราเพียงแต่จุดชนวนให้ผู้คนสงสัยและตั้งข้อสังเกต จากนั้นเราก็จะนำเสนอข้อมูลด้านอื่นๆที่มีอยู่มาประกอบตามไปด้วย นี่คือกลยุทธ์ของเรา และแม้ว่าเราจะถูกประณาม แต่เราก็เชื่อว่าวิธีสร้างความเป็นธรรมในสังคมที่ทำอยู่นั้นมีคุณค่า และพีตาไม่ได้ต้องการอะไรมากไปกว่าการให้ทุกคนเข้าถึงสารที่เราต้องการสื่อในแบบมากที่สุดเท่าที่จะมากได้


pageview  1206116    
สำนักงานพัฒนาระบบข้อมูลข่าวสารสุขภาพ Health Information System Development Office (HISO)
ห้อง A3 ชั้น 3 อาคาร 4Plus Buiding เลขที่ 56/22-24 ซอยงามวงศ์วาน 4 ต.บางเขน อ.เมือง จ.นนทบุรี 11000
Tel : 02-5892490-2 Fax : 02-5892493 www.healthinfo.in.th
 
© Health Information System Development Office (HISO) . All Rights Reserved