คงปฏิเสธไม่ได้ว่าการทำงานด้านนวดและ   สปาในปัจจุบันนั้นได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก และที่สำคัญรายได้ดีมาก อาชีพนวดแผนไทยจึงเป็นอาชีพที่มาแรงและมีแนวโน้มความต้องการแรงงานที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง เป็นอาชีพที่หุ่นยนต์ไม่สามารถเข้ามาแทนที่ได้ด้วย ดังนั้นพนักงานนวดแผนไทยถ้ามีฝีมือดีและอยู่ในแหล่งที่มีนักท่องเที่ยวมาก สามารถทำเงินถึง 2,000 บาทต่อวันเลยทีเดียว มีผู้กล่าวว่าต้นกำเนิดของการนวดแผนไทยมาจากอินเดีย ไทยนำมาปรับให้เข้ากับวัฒนธรรมกลายเป็นการนวดจับเส้นตามแบบฉบับของไทยมาจนถึงทุกวันนี้
          นายธวัช เบญจาทิกุล อธิบดีกรมพัฒนาฝีมือแรงงาน (กพร.) กระทรวงแรงงาน เปิดเผยว่า หม่อมราชวงศ์จัตุมงคล โสณกุล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน ให้ความสำคัญต่อการพัฒนาทักษะฝีมือให้กับแรงงานไม่เพียงเฉพาะแรงงานที่อยู่ในประเทศไทยเท่านั้น ต้องดูแลแรงงานที่อยู่ในต่างประเทศด้วยเช่นกัน รวมถึงการขยายตลาดในต่างประเทศ เพื่อส่งแรงงานไทยเข้าไปทำงานอย่างถูกต้อง ให้ได้รับสวัสดิการที่เหมาะสมและได้รับการคุ้มครองดูแลอย่างปลอดภัย มีรายได้ส่งกลับประเทศเพื่อดูแลครอบครัวให้มีชีวิตความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น
          อธิบดี กพร. กล่าวต่อไปว่า จากประสบการณ์ที่เคยออกตรวจเยี่ยมแรงงานไทยที่ประกอบกิจการร้านอาหารและนวดสปาในบาห์เรนนั้น พบว่าแรงงานไทยมีความเป็นอยู่ที่ดี มีรายได้เดือนละ 30,000-40,000 บาท นอกจากธุรกิจร้านนวดไทยแล้ว คนไทยก็นิยมทำธุรกิจร้านอาหาร ซึ่งก็ได้รับความนิยมและเป็นช่องทางที่สามารถสร้างรายได้ให้แก่คนไทยในต่างประเทศได้ไม่น้อย แต่สิ่งที่ต้องเน้นย้ำกับแรงงานไทยที่ต้องการไปทำงานต่างประเทศ ไม่ว่าจะเป็นประเทศใดก็ตาม
          สิ่งที่แรงงานไทยควรหาความรู้หรืออบรมเพิ่มเติมนั่นคือทักษะด้านภาษา ซึ่งมีความสำคัญและจำเป็นอย่างยิ่งต่อการทำงานและการใช้ชีวิตในต่างแดน การสื่อสารที่ถูกต้องจะช่วยให้แรงงานไทยสามารถให้บริการได้อย่างมีประสิทธิภาพ ช่วยป้องกันอันตรายที่อาจเกิดขึ้น อาทิ พนักงานนวดไทยต้องสื่อสารให้ทราบอาการหรือโรคประจำตัวที่อาจเป็นข้อห้ามทำการนวด เช่น ห้ามนวดลูกค้าที่มีอาการเจ็บป่วย มีไข้ มีอาการร้อนบวมที่ข้อ กล้ามเนื้อ มีบาดแผล มีผื่นขึ้นตามตัว กล้ามเนื้อกระตุก กล้ามเนื้ออักเสบ เป็นต้น
          ในส่วนของกรมพัฒนาฝีมือแรงงาน กระทรวงแรงงาน ได้ดำเนินการพัฒนาทักษะให้กับแรงงาน ในสาขาพนักงานนวดแผนไทย และนักส่งเสริมสุขภาพแบบองค์รวม สปาตะวันตก (หัตถบำบัด) ได้จัดตั้งสถาบันพัฒนาทรัพยากรมนุษย์สำหรับอุตสาหกรรมบริการสุขภาพขึ้น ที่อำเภอสันกำแพง จังหวัดเชียงใหม่ ให้เป็นศูนย์ฝึกอบรมด้านนวดและสปาไทย เพื่อผลิตแรงงานป้อนภาคอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวและบริการ รวมถึงการออกไปประกอบอาชีพอิสระ เป็นผู้ประกอบการด้านนวดไทยหรือสปา
          นอกจากนี้ยังได้มอบหมายให้สถาบันพัฒนาฝีมือแรงงาน (สพร.) และสำนักงานพัฒนาฝีมือแรงงาน (สนพ.) ทั่วประเทศ ที่มีความพร้อมด้านสถานที่และวิทยากร ขออนุญาตดำเนินการฝึกต่อกรมส่งเสริมและสนับสนุนบริการสุขภาพ กระทรวงสาธารณสุข ซึ่งหน่วยงานดังกล่าวจะพิจารณาตั้งแต่หลักสูตรการฝึกอบรม คุณสมบัติของวิทยากร พร้อมเข้าตรวจประเมินความพร้อมของสถานที่ เพื่อรักษาระดับมาตรฐานของผู้ที่จะออกไปประกอบอาชีพด้านนวดไทยและสปา ให้อยู่ในเกณฑ์มาตรฐานที่กำหนด และกำกับดูแลผู้ประกอบการด้านนวดแผนไทยให้ปฏิบัติถูกต้องตามกฎหมาย อีกทั้งป้องกันการประกอบอาชีพจากบุคคลที่ไม่ผ่านการรับรองของกระทรวงสาธารณสุข และการค้าประเวณีโดยใช้สถานประกอบกิจการนวดหรือสปาบังหน้าอีกด้วย
          ปัจจุบันมีหน่วยงานของ กพร.ได้รับอนุญาตให้สามารถดำเนินการฝึกแล้ว 35 หน่วย ภาคกลาง อาทิ นนทบุรี ภาคเหนือ เช่น จังหวัดเพชรบูรณ์ นครสวรรค์ พิษณุโลก ลำพูน ลำปาง เชียงใหม่ เชียงรายและแม่ฮ่องสอน เป็นต้น ภาคอีสาน เช่น จังหวัดอุบลราชธานี อุดรธานี นครราชสีมา กาฬสินธุ์ บึงกาฬ มุกดาหาร ภาคใต้ เช่น จังหวัดตรัง กระบี่ ภูเก็ต สุราษฎร์ธานี เป็นต้น ซึ่งหน่วยงานต่างๆ ที่ดำเนินการจัดอบรม จะทำหน้าที่ในการทดสอบมาตรฐานฝีมือแรงงานแห่งชาติ สาขาพนักงานนวดไทยอีกด้วย ซึ่งผู้ที่ผ่านการทดสอบมาตรฐานฝีมือแรงงานแห่งชาติ ระดับ 1 ในสาขาดังกล่าว เมื่อทำงานในสถานประกอบกิจการ จะได้รับอัตราค่าจ้างตามมาตรฐานฝีมือไม่ต่ำกว่าวันละ 440 บาท ระดับ 2 ไม่ต่ำกว่าวันละ 580 บาท และถ้าผ่านระดับ 3 จะได้รับอัตราค่าจ้างไม่ต่ำกว่าวันละ 720 บาท
          นายทรรศนพล เอิ้งมล อายุ 45 ปี จบปริญญาตรีการแพทย์แผนไทย จากมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลอีสาน เล่าว่า เคยเป็นผู้รับการฝึกเตรียมเข้าทำงาน สาขานวดไทยและนวดเท้าเพื่อสุขภาพ 420 ชั่วโมง และ 449 ชั่วโมงจากสถาบันพัฒนาฝีมือแรงงาน 9 พิษณุโลก หลังจากนั้นก็เข้าฝึกอบรมยกระดับนวดไทยอีก 150 ชั่วโมง และนวดเท้า 60 ชั่วโมง ด้วยความใฝ่เรียนรู้และกระตือรือร้น บวกกับรักการสอน จึงสมัครเป็นวิทยากรกับ สพร. 9 พิษณุโลก และได้รับการคัดเลือกเป็นวิทยากรหลักของ สพร.9 พิษณุโลก ที่ได้รับอนุญาตจากกระทรวงสาธารณสุขด้วย
          อาจารย์พล เล่าอีกว่า ความต้องการพนักงานนวดแผนไทยยังมีอย่างต่อเนื่อง ยกตัวอย่างใกล้ๆ ตัว อย่างเช่น โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพประจำตำบล ซึ่งหลายแห่งเปิดให้บริการนวดแผนไทย จึงมีความต้องการพนักงานนวดแผนไทยเป็นจำนวนมาก นอกจากนี้ร้านนวดแผนไทยในจังหวัดพิษณุโลกมีเปิดให้บริการมากขึ้นเพราะมีนักท่องเที่ยวให้ความสนใจมากขึ้นด้วย รายได้ของพนักงานนวดไทยไม่แพ้อาชีพอื่น มีรายได้ตั้งแต่ 15,000-30,000 บาท อาจไม่จำเป็นต้องไปทำงานต่างประเทศอีกด้วย
          แต่สำหรับผู้ที่สนใจจะไปทำงานในต่างประเทศ ก็จะแนะนำให้เข้าไปทำงานอย่างถูกต้อง โดยติดต่อกรมการจัดหางาน เพื่อให้ได้รับการดูแลตามกฎหมาย ประเทศที่มีแรงงานไทยเข้าไปทำงานด้านนวดแผนไทย เช่น มาเลเซีย ออสเตรีย เยอรมนี บรูไน ดูไบ สวีเดน และสิงคโปร์ เป็นต้น มีรายได้ตั้งแต่ 50,000-100,000 บาท
          อย่างไรก็ตาม แรงงานไทยที่ไปทำงานในต่างประเทศ ต้องมีความอดทนสูง ต่อสู้กับปัญหาอุปสรรคและทนต่อสิ่งแวดล้อมของแต่ละประเทศนั้นให้ได้ การทำงานนวดแผนไทยมีความเสี่ยงต่อการค้าประเวณี จึงต้องระมัดระวังดูแลตนเองให้ดี ห้ามขายบริการโดยเด็ดขาด เพราะจะเกิดความเสียหายต่อประเทศไทยและปิดโอกาสการเข้าไปทำงานอย่างถูกต้องของแรงงานรายอื่นๆ.