HISO - เรื่องเล่าข่าวเด่น

  
   Follow us      
  
ไทยโพสต์ [ วันที่ 17/05/2555 ]
เรียนรู้วิธีดูแล'ช่วงชีวิตทุก 10 ปี'ให้มีคุณภาพ

ปัจจุบันคนส่วนใหญ่เลือกที่จะป้องกันและดูแลสุขภาพของตนเองก่อนที่จะเจ็บป่วย และพยายามอัพเดตเทรนด์ในการดูแลสุขภาพใหม่ๆ เพื่อให้เหมาะกับตนเองไม่ว่าจะเป็นการออกกำลังกาย ทานอาหารที่เน้นผักผลไม้เป็นหลัก ทานมังสวิรัติ บ้างก็กินวิตามิน/อาหารเสริม และมีอีกไม่น้อยที่ชื่นชอบการนวดกดจุด ฝังเข็ม ดีท็อกซ์ พลังงานบำบัด ฯลฯ
          ถึงอย่างนั้นก็ใช่ว่าวิธีการดูแลที่เลือกเฟ้นมาอย่างดี จะเหมาะสมกับร่างกายดั่งที่คิดไว้จริง เกี่ยวกับเรื่องนี้นพ.พลวิช กล้าหาญ ผู้เชี่ยวชาญจาก ALIVE Wellness Solutions บอกว่า "แต่ไลฟ์สไตล์การใช้ชีวิตของแต่ละช่วงวัยมีความแตกต่างกัน การดูแลสุขภาพจึงย่อมต้องแตกต่างกันตามไปด้วย ฉะนั้นแต่ละคนควรปรับเปลี่ยนการดูแลสุขภาพให้เหมาะกับตนเอง
          โดยในช่วงวัย 10 ปี+... จะมีไลฟ์สไตล์ชอบเรียนรู้สิ่งใหม่ๆ เวลาส่วนใหญ่จะใช้ไปกับการเรียน ต้องการสารอาหารที่มีประโยชน์ เพราะเป็นวัยที่กำลังเจริญเติบโตด้านร่างกายและสมองหลักการดูแลสุขภาพ จึงจำเป็นต้องเติมพลังงานให้กับสมองด้วยการทานอาหารประเภทโปรตีน เสริมด้วยวิตามินบีรวม วิตามินซีสูง และแร่ธาตุอย่างแคลเซียมและเหล็ก เพื่อการเจริญเติบโตที่สมบูรณ์ นอกจากนี้ควรออกกำลังกายประเภทใช้อุปกรณ์ เช่น แบดมินตัน ปิงปอง เทนนิส ฟุตบอล แชร์บอล เพื่อพัฒนาการประสานงานของร่างกายและประสาทสั่งการ
          วัย 20 ปี+... เป็นช่วงวัยของการเริ่มต้นการทำงาน ด้านร่างกายยังมีระบบการเผาผลาญพลังงานที่ดีอยู่ ไลฟ์สไตล์เริ่มทานอาหารนอกบ้าน อาหารจานด่วน และต้องรับภาระหนักจากงาน ทั้งประชุม เคลียร์งาน จนอาจลืมทานอาหาร ร่างกายรับสารอาหารไม่เพียงพอต่อวัน ทำให้สมองอ่อนล้าและอ่อนเพลีย
          "หลักในการดูแลสุขภาพของกลุ่มช่วงวัยนี้ประเภทอาหารเสริมอาจยังไม่จำเป็น แต่ควรทานอาหารเพิ่มพลังสมองและความจำ ผ่านปลาแซลมอน ทูน่า ปลาทู ที่อุดมด้วยโอเมกา-3 และ DHA ผักใบเขียวเข้มที่เป็นแหล่งของวิตามินอีและโฟเลตอย่างผักคะน้าและผักโขม ผลไม้ตระกูลเบอรี่ที่มีวิตามินซีและไฟโตนิวเทรียนต์ รวมถึงเมล็ดธัญพืชที่อุดมไปด้วยไฟเบอร์ วิตามินบี 1 และเน้นการออกกำลังกายให้เป็นกิจวัตรประจำวัน หรืออย่างน้อยสัปดาห์ละ 3 ครั้ง ครั้งละ 20-30 นาที"
          นพ.พลวิชกล่าวต่อว่า ขณะที่ในช่วงวัย 30 ปี+... เป็นช่วงวัยกำลังสร้างครอบครัว หน้าที่การงานเริ่มมั่นคง และไลฟ์สไตล์ยังเร่งรีบเหมือนเดิม แถมมีความรับผิดชอบค่อนข้างเยอะ ทำให้ไม่ค่อยมีเวลาว่าง หลายคนมักเป็นโรคออฟฟิศซินโดรม ขณะที่อายุเพิ่มมากขึ้นแต่ฮอร์โมนเริ่มทำงานลดลง ความเครียดรุมเร้า นอนน้อย และมีพฤติกรรมดื่มสุราสูบบุหรี่ จนร่างกายเสื่อมโทรมและเกิดการสะสมสารพิษ
          การดูแลสุขภาพสำหรับวัยนี้ ต้องการอาหารที่มีคุณค่าทางโภชนาการสูงและให้แคลอรีที่ต่ำด้วย และเน้นอาหารที่ต้านอนุมูลอิสระ ช่วยให้ร่างกายฟื้นตัวเร็ว สร้างภูมิคุ้มกันที่แข็งแรง จึงจำเป็นต้องทานผักและผลไม้ และอาหารเสริมที่มีสารต้านอนุมูลอิสระสูง นอกจากนี้ควรหาเวลาไปดีท็อกซ์ร่างกายเดือนละครั้ง บำรุงผิวเป็นประจำ ออกกำลังกายแบบใช้ออกซิเจน เช่น การวิ่ง ว่ายน้ำ เพื่อเพิ่มออกซิเจนและสร้างความยืดหยุ่นให้กับร่างกาย ทรวดทรงก็จะดูกระชับสมวัยไปในตัว หรือเลือกทางลัดการดูแลสุขภาพด้วยการนวดกดจุดฝังเข็ม สำหรับผู้มีปัญหาเรื่องปวดหลังและปวดเมื่อยตามตัว
          วัย 40 ปี+...มีไลฟ์สไตล์เป็นวัยที่มีความรับผิดชอบสูงทั้งงานและสังคม มีภาระการเงิน ใช้สมองมากขึ้น มีความเครียดวิตกกังวล แต่ออกกำลังกายน้อยลงจนเกิดไขมันทดแทน ร่างกายเสื่อมลงตามวัยมีการเปลี่ยนแปลงทางร่างกายและจิตใจ เช่น หลอดเลือดต่างๆ แข็งตัว มีไขมันในกระแสเลือด ความจำน้อยลง มวลกระดูกลดลง ไตทำงานน้อยลง สายตาเริ่มยาว นอนหลับยาก อ่อนเพลียง่าย ประจำเดือนมาน้อยลง เรียกได้ว่าเป็นวัยที่มีการเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมนอย่างเห็นชัดเจน โดยเฉพาะฮอร์โมนการเติบโตหลั่งน้อย จนสมองไม่ฉับไว ไม่กระฉับกระเฉง
          การดูแลสุขภาพจำเป็นต้องทานอาหารจำพวกไฟเบอร์มากขึ้น แต่ให้ลดกลุ่มคาร์โบไฮเดรตและไขมันลง เช่น กินผักผลไม้สด ธัญพืชไม่ปรุงแต่ง ลดเนื้อสัตว์เนื้อแดงและผลิตภัณฑ์นม เพราะร่างกายสะสมไขมันง่ายขึ้น ควรออกกำลังกาย เช่น ว่ายน้ำ ถีบจักรยาน กายบริหาร วิ่งเหยาะๆ หรือไม่ก็เล่นโยคะ เพื่อเน้นการทำงานของหัวใจ เพิ่มความแข็งแรงกล้ามเนื้อกระดูก การยืดหยุ่นข้อต่อ เพื่อชะลอความชราพร้อมทานวิตามินประเภทที่ช่วยปรับสมดุลร่างกาย เช่น รักษาระดับฮอร์โมนด้วย G-Cap หรือวิตามินอี กรณีต้องการอารมณ์ดีผ่อนคลาย สามารถเข้าสปาช่วยผ่อนคลายร่างกายจิตใจเพิ่มขึ้น ที่สำคัญอย่าลืมตรวจสุขภาพเป็นประจำทุกปี
          "ส่วน วัย 50 ปี+... ร่างกายมีความเสื่อมถอยในทุกด้านอย่างชัดเจน ปริมาณไขมันสูงขึ้นแทนที่กล้ามเนื้อ
          ร่างกายเผาผลาญน้อยลง แต่ความต้องการวิตามิน
          และแร่ธาตุคงเดิม ทำให้ร่างกายสะสมพลังงาน
          ส่วนเกินในรูปไขมันไว้มาก ขณะเดียวกันอารมณ์ก็หงุดหงิดง่ายเพราะเริ่มเข้าสู่ในช่วงวัยทอง ระบบการทำงานของอวัยวะต่างๆ เสื่อมสภาพตามวัย เช่น กระดูกและฟันไม่ค่อยดี
          ระบบขับถ่ายไม่ทำงาน เป็นต้น" ผู้เชี่ยวชาญ
          จาก ALIVE Wellness Solutions อธิบาย
          เพิ่ม และแนะนำวิธีการดูแลสุขภาพเพิ่มเติมด้วยว่า
          หลักการดูแลสุขภาพของช่วงอายุวัยนี้ควรทานอาหารที่มีแคลอรีต่ำ เสริมวิตามินและแร่ธาตุรวม ช่วยให้ร่างกาย
          และจิตใจดีขึ้น ทานวิตามินเอในรูปเบต้าแคโรทีนเพื่อต้านอนุมูลอิสระเสริมแคลเซียมป้องกันภาวะกระดูกบาง ทานมัลติเอนไซม์เพื่อช่วยย่อยเนื่องจากกระเพาะอาหารลำไส้ผลิตน้ำย่อยที่น้อยลง และการเคี้ยวอาหารไม่ละเอียดเหตุฟันไม่อำนวย  นอกจากนี้ร่างกายจะอ่อนแอลง ความสามารถของข้อต่อ กระดูก กล้ามเนื้อเริ่มลดลง ควรออกกำลังกายที่ช่วยกระตุ้นให้ระบบไหลเวียนทำงานดีขึ้น ปรับทรวดทรงและฟื้นฟูรักษาสภาพร่างกาย อาทิ เล่นกีฬาเพื่อสุขภาพที่ไม่มีการปะทะหรือออกแรงมาก และมีการเคลื่อนไหวช้าๆอย่าง รำไทเก๊ก โยคะ ชี่กง ฤาษีดัดตน เป็นต้น
          สำหรับผู้ที่สนใจรายละเอียดการดูแลสุขภาพ ALIVE Wellness Solutions ขอชวนมาร่วมอัพเดตวิธีดูแลสุขภาพในหัวข้อ "เทรนด์ใหม่ในการเลือกวิธีดูแลสุขภาพด้วยตนเอง" เพื่อหาวิธีดูแลสุขภาพไลฟ์สไตล์คนเมืองที่ดีและเหมาะสมกับตัวเองมากที่สุด พร้อมพบกับ 4 กูรูด้านสุขภาพจะมาตอบทุกคำถามที่คุณอยากรู้ ในวันเสาร์ที่ 26 พ.ค.นี้ เวลา 10.30-12.00 น. ณ ห้องประชุม ชั้น 4 อาคารคิวเฮ้าส์ ลุมพินี (LH Bank) สอบถามรายละเอียดและสำรองที่นั่งล่วงหน้าได้ฟรี (จำนวนจำกัด) ที่โทร. 08-9228-8766.
 


pageview  1205432    
สำนักงานพัฒนาระบบข้อมูลข่าวสารสุขภาพ Health Information System Development Office (HISO)
ห้อง A3 ชั้น 3 อาคาร 4Plus Buiding เลขที่ 56/22-24 ซอยงามวงศ์วาน 4 ต.บางเขน อ.เมือง จ.นนทบุรี 11000
Tel : 02-5892490-2 Fax : 02-5892493 www.healthinfo.in.th
 
© Health Information System Development Office (HISO) . All Rights Reserved