HISO - เรื่องเล่าข่าวเด่น

  
   Follow us      
  
ไทยโพสต์ [ วันที่ 09/07/2562 ]
กรมวิทย์ฯ เตือนประชาชนระวังใช้ผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร

หลังตรวจพบยาลดความอ้วน "ลอร์คาเซริน" ปนปลอมเป็นครั้งแรกในประเทศไทย
          กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ กระทรวงสาธารณสุข เตือนระวังอันตรายยา "ลอร์คาเซริน" (Lorcaserin) พบมีแนวโน้มนำมาใช้ในทางที่ผิดเป็นยาควบคุมน้ำหนักซึ่งไม่เคยพบมาก่อนในประเทศไทย ยาชนิดนี้ออกฤทธิ์ต่อระบบประสาทมีผลทำให้ลดความอยากอาหารได้ แต่มีผลข้างเคียงได้แก่ ปวดศีรษะ เวียนศีรษะ มีผลต่อจิตและประสาท และหัวใจ ห้ามใช้ในหญิงตั้งครรภ์ หรือผู้ที่มีภาวะบกพร่องของตับและไต ในต่างประเทศจัดเป็นยาควบคุมและการใช้ยาต้องอยู่ภายใต้การดูแลของแพทย์
          นายแพทย์โอภาส การย์กวินพงศ์ อธิบดีกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ กล่าวว่า กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ โดยสำนักยาและวัตถุเสพติด ได้รับตัวอย่างผลิตภัณฑ์เสริมอาหารจากสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) ลักษณะแคปซูลสีขาวในแผงอลูมิเนียมพลาสติก จำนวน 180 แคปซูลและตัวอย่างจากกองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับการคุ้มครองผู้บริโภค (บก.ปคบ.) ลักษณะผงสีน้ำตาล สีขาว และสีดำ บรรจุขวด จำนวนมาก น้ำหนักรวม 70 กิโลกรัม ส่งมาตรวจพิสูจน์เพื่อหาไซบูทรามีน ยา และวัตถุออกฤทธิ์ จากการตรวจพิสูจน์ ในห้องปฏิบัติการ ไม่พบไซบูทรามีน แต่ตรวจพบ ลอร์คาเซริน ซึ่งเป็นยาควบคุมน้ำหนักที่ยังไม่มีจำหน่ายและไม่เคยพบ มาก่อนในประเทศไทย ออกฤทธิ์ควบคุมความอยากอาหารผ่านระบบประสาทส่วนกลาง แต่มีฤทธิ์ทำให้เกิดอาการไม่พึงประสงค์ เช่น ปวดศีรษะ เวียนศีรษะมีผลต่อหัวใจ และภาวะทางจิตและประสาท เนื่องจาก ลอร์คาเซริน มีข้อบ่งใช้ที่ต้องระวังสำหรับผู้ที่มีภาวะอ้วน น้ำหนักเกินหรือมีโรคอื่นร่วมด้วย เช่น เบาหวาน ความดันโลหิตสูง ดังนั้นการใช้ลอร์คาเซริน จะต้องอยู่ภายใต้การควบคุมของแพทย์เท่านั้น ไม่ใช้ร่วมกับยาควบคุมน้ำหนักชนิดอื่นๆ และเมื่อใช้แล้วพบอาการข้างเคียง ต้องหยุดใช้ยาและรีบมาพบแพทย์ทันที เนื่องจากยานี้เมื่อรับประทานจะถูกดูดซึมได้ดีผ่านตับและขับออกทางปัสสาวะ จึงต้องระมัดระวังการใช้ในผู้ที่ภาวะบกพร่องทางตับและไต ห้ามใช้ในหญิงตั้งครรภ์ เนื่องจากมีผลต่อทารกในครรภ์ การปนปลอมในผลิตภัณฑ์เสริมอาหารจึงอาจก่อให้เกิดอันตรายอย่างมาก เมื่อรับประทานในขนาดยาที่สูง จนเกิดผลข้างเคียงต่อจิตและประสาท หรือในหญิงตั้งครรภ์ หรือผู้มีภาวะหลอดเลือดและหัวใจ หรือผู้ที่มีภาวะบกพร่องของตับและไต
          ลอร์คาเซริน ยังไม่มีการควบคุมในประเทศไทย ในสหรัฐอเมริกาจัดเป็นสารควบคุมในกลุ่ม Schedule IV drugs คือ สามารถใช้ในทางการแพทย์ แต่มีแนวโน้มการนำมาใช้ในทางที่ผิดเช่นเดียวกับเฟนเตอมีน รวมทั้งยาควบคุมน้ำหนักอื่นๆ เช่น อีเฟดรีน แอมฟีพราโมน นอร์ซูโดอีเฟดรีน และมาซินดอล เป็นวัตถุออกฤทธิ์ประเภท 2 เนื่องจากมีการใช้ในทางการแพทย์ แต่  มีแนวโน้มการนำมาใช้ในทางที่ผิดสูง
          "ลอร์คาเซริน ที่พบการปนปลอมในผลิตภัณฑ์เสริมอาหารในประเทศไทย คาดว่านำมาใช้ทดแทนไซบูทรามีน เพื่อหลีกเลี่ยงข้อกฎหมาย ซึ่งไซบูทรามีน จัดเป็นวัตถุออกฤทธิ์ประเภท 1 ดังนั้นจึงมีแนวโน้ม
          การนำลอร์คาเซรินมาใช้ในทางที่ผิดสูง ทั้งนี้กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ ได้นำเสนอข้อมูลให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องทราบ เพื่อใช้ในการพิจารณาควบคุมทางกฎหมาย เฝ้าระวังการแพร่ระบาดต่อไป" อธิบดีกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ กล่าว


pageview  1205104    
สำนักงานพัฒนาระบบข้อมูลข่าวสารสุขภาพ Health Information System Development Office (HISO)
ห้อง A3 ชั้น 3 อาคาร 4Plus Buiding เลขที่ 56/22-24 ซอยงามวงศ์วาน 4 ต.บางเขน อ.เมือง จ.นนทบุรี 11000
Tel : 02-5892490-2 Fax : 02-5892493 www.healthinfo.in.th
 
© Health Information System Development Office (HISO) . All Rights Reserved