|
|
|
ไทยโพสต์ [ วันที่ 03/07/2562 ] |
|
|
|
|
รู้จัก โรคภาวะน้ำตาเอ่อ ก่อนจุดเล็กกลายเป็นใหญ่ |
|
|
|
|
หากมีอาการน้ำตาไหลบ่อย ขี้ตาคล้ายๆ เมือกเหนียวสีขุ่นขาวหรือมีสีเหลือง อักเสบ บวมแดง มีหนอง ควรพบจักษุแพทย์ทันที เพราะอาจเป็นโรคภาวะน้ำตาเอ่อ
นพ.มานัส โพธาภรณ์ รองอธิบดีกรมการแพทย์ กล่าวว่า โรคภาวะน้ำตาเอ่อ คือ เกิดจากการอุดตันที่ปลายท่อน้ำตา ทำให้น้ำตาไหลลงไม่ได้ เกิดอาการตาแฉะ น้ำตาไหลบ่อย มีอาการน้ำตาเอ่อท้น มีขี้ตามาก สามารถเกิดได้จากหลายสาเหตุ ได้แก่ ท่อน้ำตาอุดตันจากเยื่อบางๆ ปิดอยู่ที่ปลายท่อน้ำตาในเด็กแรกเกิด ทำให้น้ำตาไหลลงมาไม่ได้ การฉีกขาดของหนังตาจากอุบัติเหตุ การติดเชื้อ ตาแห้ง หรือหลังจากการผ่าตัดหรือฉายรังสีที่โพรงจมูก โรคดังกล่าวสามารถเกิดขึ้นได้ตั้งแต่เด็กแรกเกิดจนถึงผู้ใหญ่ คนสูงอายุและในผู้ป่วยที่เป็นโรคภูมิแพ้ ซึ่งหากมีอาการน้ำตาไหลบ่อย ขี้ตาคล้ายๆ เมือกเหนียวสีขุ่นขาวหรือสีเหลือง อักเสบ บวมแดง มีหนองแตกออกมาจากหนังตาล่างไปทางหัวตา ควรรีบพบจักษุแพทย์ทันที
แพทย์หญิงสายจินต์ อิสีประดิฐ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลเมตตาประชารักษ์ (วัดไร่ขิง) กล่าวเพิ่มเติมว่า ธรรมชาติของดวงตา ต่อมน้ำตามีการสร้างน้ำตาเพื่อหล่อเลี้ยง และทำให้กระจกตาชุ่มชื้นอยู่ตลอดเวลา เมื่อกะพริบตาน้ำตาจะถูกหลั่งออกมาเคลือบพื้นผิวของดวงตา และระบายออกลงไปที่ท่อน้ำตาบริเวณหัวตาซึ่งมีปลายเปิดในจมูก โดยมีบางส่วนระเหยไปในอากาศ โดยปกติต่อมน้ำตาจะผลิตน้ำตาวันละประมาณ 280 ซีซี หรือ 113 ลิตรต่อปี เพราะฉะนั้นหากเกิดความผิดปกติของการสร้างหรือระบายน้ำตา ก็จะเกิดอาการน้ำตาคลอเบ้าหรือน้ำตาไหล โดยเรียกอาการเช่นนี้ว่า โรคภาวะน้ำตาเอ่อ หรือน้ำตาไหล
โรคดังกล่าวสามารถพบได้บ่อยและพบได้ตลอดทุกช่วงอายุ โดยเกิดได้จากหลายปัจจัย ซึ่งจากสถิติของผู้มารับการรักษาด้วยโรคภาวะน้ำตาเอ่อตั้งแต่ปี 2560-2561 ที่ผ่านมามีผู้มารับการรักษาโดยประมาณ 1,734 ราย อาการที่แสดงว่ามีการอุดกั้นของทางระบายน้ำตาคือ การมีน้ำตาไหลเอ่อท้น สำหรับการรักษาสามารถรักษาได้ด้วยการแยงท่อน้ำตาเพื่อเปิดทางระบายน้ำตา การให้ยาหากมีภาวะน้ำตาเอ่อจากการที่มีตาแห้ง แต่หากมีการอักเสบติดเชื้อในตาจากภาวะหนังตาม้วนเข้าหรือม้วนออกในผู้สูงอายุ อาจต้องผ่าตัดเพื่อแก้ไข อนึ่ง การใช้คอนแทคเลนส์ การขยี้ตา ไม่มีผลทำให้เกิดท่อน้ำตาอุดตัน แต่การใส่คอนแทคเลนส์ในขณะที่มีอาการภาวะน้ำตาเอ่อหรือท่อน้ำตาอุดกั้น อาจทำให้เกิดแผลที่กระจกตาได้ง่าย เนื่องจากคอนแทคเลนส์มีรูพรุนเป็นที่เกาะสะสมของเชื้อแบคทีเรียได้ วิธีการป้องกันตนเองที่ดีที่สุดคือ เมื่อมีอาการผิดปกติกับดวงตาให้รีบพบจักษุแพทย์ทันทีเพื่อป้องกันการลุกลามของโรค.
"ธรรมชาติของดวงตา ต่อมน้ำตามีการสร้างน้ำตาเพื่อหล่อเลี้ยง และทำให้กระจกตาชุ่มชื้นอยู่ตลอดเวลา เมื่อกะพริบตาน้ำตาจะถูกหลั่งออกมาเคลือบพื้นผิวของดวงตา และระบายออกลงไปที่ท่อน้ำตาบริเวณหัวตาซึ่งมีปลายเปิดในจมูก โดยมีบางส่วนระเหยไปในอากาศ โดยปกติต่อมน้ำตาจะผลิตน้ำตาวันละประมาณ 280 ซีซี หรือ 113 ลิตรต่อปี เพราะฉะนั้นหากเกิดความผิดปกติของการสร้างหรือระบายน้ำตา ก็จะเกิดอาการน้ำตาคลอเบ้าหรือน้ำตาไหล โดยเรียกอาการเช่นนี้ว่า โรคภาวะน้ำตาเอ่อ หรือน้ำตาไหล" |
| | |
|
| |
|
pageview 1204424 |
สำนักงานพัฒนาระบบข้อมูลข่าวสารสุขภาพ Health Information System Development Office (HISO) ห้อง A3 ชั้น 3 อาคาร 4Plus Buiding เลขที่ 56/22-24 ซอยงามวงศ์วาน 4 ต.บางเขน อ.เมือง จ.นนทบุรี 11000 Tel : 02-5892490-2 Fax : 02-5892493 www.healthinfo.in.th | | |
© Health Information System Development Office (HISO) . All Rights Reserved
|
| |