นักวิชาการจุฬาฯออกโรงเตือนไทยยังเสี่ยงภัยแผ่นดินไหวและคลื่นยักษ์สึนามิถล่มระลอกใหม่ หลังตรวจสอบพบความผิดปกติของจุดที่เกิดแผ่นดินไหวครั้งล่าสุดของเกาะชวา เพราะเกิดห่างจากจุดที่สร้างมหันตภัยสึนามิปี 47 แค่ 8 ปีเท่านั้น หวั่นซ้ำรอยธรณีพิโรธที่ญี่ปุ่นเมื่อเดือน มี.ค.54 ย้ำต้องเฝ้าระวังต่ออีก 1-2 วัน โดยเฉพาะพื้นที่ จ.ระนอง ขณะที่ภาคการท่องเที่ยว 6 จังหวัดอันดามัน กระทบจั๋งหนับ นักท่องเที่ยวชาวไทยแห่ยกเลิกจองที่พักเกือบหมด ขณะที่นักท่องเที่ยวต่างชาติไม่กลัวแห่เที่ยวคึกคักสาดน้ำกันชุ่มฉ่ำ ด้านรัฐบาลและฝ่ายค้านยังฟัดกันนัว เรื่องระบบตรวจสอบและเตือนภัยสึนามิ ขณะที่ทั่วโลกยังจับตาใกล้ชิด เหตุแผ่นดินไหวแดนอิเหนาเมื่อ 11 เม.ย. หลังเกิดอาฟเตอร์ช็อกกว่า 40 ครั้งขนาดตั้งแต่ 4.6-8.2 ริกเตอร์ คร่าชีวิตคนอินโดฯ ไป 5 ศพ ล่าสุดเกิดแผ่นดินไหวในอีกซีกโลกที่เม็กซิโกและสหรัฐฯ แต่ไม่รุนแรง
          ทั่วโลกยังคงเฝ้าจับตาเหตุการณ์แผ่นดินไหว ขนาด 8.6 ริกเตอร์ บริเวณชายฝั่งจังหวัดอาเจะห์ เกาะสุมาตรา ประเทศอินโดนีเซีย เมื่อวันที่ 11 เม.ย.ที่ผ่านมา โดยเฉพาะกลุ่มประเทศที่มีพื้นที่ตั้งอยู่ในคาบมหาสมุทรอินเดีย รวมทั้ง 6 จังหวัดชายฝั่งทะเลอันดามันของไทย ซึ่งเคยได้รับผลกระทบอย่างรุนแรงจากเหตุแผ่นดินไหวหัวเกาะสุมาตราประเทศอินโดนีเซีย เมื่อช่วงเช้าวันที่ 26 ธ.ค. 2547 แม้ว่าจะมีการประกาศยกเลิกการเตือนภัยคลื่นยักษ์สึนามิ และคำสั่งอพยพในคืนวันเดียวกันแล้วก็ตาม เนื่องจากยังคงมี “อาฟเตอร์ช็อก” เกิดขึ้นเป็นระยะๆ
          “อาฟเตอร์ช็อก” ขย่มอิเหนา 40 ครั้ง
          ความคืบหน้าเมื่อวันที่ 12 เม.ย. สำนักข่าวต่างประเทศรายงานสถานการณ์เพิ่มเติมหลังเกิดแผ่นดินไหวขนาด 8.6 ริกเตอร์ ที่เกาะสุมาตราของอินโดนีเซีย เมื่อ 11 เม.ย.ที่ผ่านมาโดยระบุว่าเกิดอาฟเตอร์ช็อกตามมาอีกราว 40 ครั้ง ตลอดทั้งวันที่ 12 เม.ย. บริเวณเกาะสุมาตราและพื้นที่ทางตอนเหนือของมหาสมุทรอินเดีย ขณะที่แรงสั่นสะเทือนจากอาฟเตอร์ช็อกแต่ละครั้งอยู่ระหว่าง 4.6-8.2 ริกเตอร์ ทั้งยังมีรายงานการเกิดแผ่นดินไหวขนาด 6.5 และ 6.9 ริกเตอร์ ในประเทศเม็กซิโก รวมถึงแผ่นดินไหวขนาด 4.2 ริกเตอร์ ทางตอนใต้ของรัฐอลาสกาในสหรัฐอเมริกาอีกด้วย แต่ไม่มีการประกาศสัญญาณเตือนภัยสึนามิแต่อย่างใด
          อินโดฯสังเวยธรณีพิโรธ 5 ศพเจ็บ 1
          ด้านสำนักงานจัดการภัยพิบัติแห่งชาติอินโดนีเซียเปิดเผยรายละเอียดผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บจากเหตุแผ่นดินไหวบนเกาะสุมาตรา ทางตะวันตกเฉียงเหนือของอินโดฯ ระบุว่าผู้เสียชีวิต 5 ราย อยู่ในจังหวัดอาเจะห์ โดย 2 รายเสียชีวิตเพราะหัวใจวาย แต่อีก 3 รายยังระบุสาเหตุไม่ได้ ส่วนผู้บาดเจ็บสาหัสมี 1 ราย เป็นเด็กผู้ชายซึ่งหล่นลงจากต้นไม้ศีรษะกระแทกพื้นขณะเกิดแผ่นดินไหว และอีก 6 รายบาดเจ็บเพียงเล็กน้อย ส่วนผลสำรวจความเสียหายที่มีต่ออาคารบ้านเรือนและระบบสาธารณูปโภคต่างๆยังไม่อาจประเมินได้
          ปธน.คุยสอบผ่านระบบเตือนภัย
          ประธานาธิบดีสุสิโล บัมบัง ยูโดโยโน ผู้นำของอินโดนีเซียระบุว่าแผ่นดินไหวที่เกิดขึ้นถือเป็นการทดสอบความพร้อมของมาตรการรับมือภัยพิบัติของรัฐบาล หลังติดตั้งศูนย์เตือนภัยสึนามิมูลค่ากว่า 300 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ตั้งแต่เดือน พ.ย.2551 เป็นต้นมา และถือว่าอินโดนีเซียสอบผ่าน เพราะระบบตรวจวัดแรงสั่นสะเทือนประเภทต่างๆ ที่ติดตั้งไว้รอบชายฝั่งทะเลติดกับมหาสมุทรอินเดียสามารถทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ ช่วยให้การประเมินผลเพื่อประกาศสัญญาณเตือนภัยแก่ประชาชนในพื้นที่ทำได้อย่างทันท่วงที ขณะที่ประชาชนต่างให้ความร่วมมือกับเจ้าหน้าที่ในท้องถิ่นด้วยการอพยพไปยังพื้นที่สูงทันทีที่ได้ยินสัญญาณหรือคำประกาศเตือนภัย
          เกิดธรณีพิโรธที่ “เม็กซิโก-สหรัฐฯ”
          ขณะเดียวกัน สำนักงานสำรวจทางธรณีวิทยาแห่งชาติสหรัฐอเมริกา (ยูเอสจีเอส) ได้รายงานการเกิดแผ่นดินไหว 2 ครั้งไล่เลี่ยกันที่ประเทศเม็กซิโก โดยแผ่นดินไหวครั้งแรกมีขนาด 6.5 ริกเตอร์ เกิดขึ้นเมื่อเวลา 22.55 น. ตามเวลาท้องถิ่นวันที่ 11 เม.ย.ที่รัฐมิโชอากัน ทางตะวันออกของเม็กซิโก ก่อนจะเกิดแผ่นดินไหวขนาด 6.9 ริกเตอร์ตามมาอีกครั้งเมื่อเวลา 07.15 น. ของวันที่ 12 เม.ย. โดยมีจุดศูนย์กลางการเกิดแผ่นดินไหวที่ความลึกใต้ดินประมาณ 10.3 กิโลเมตร ในอ่าวแคลิฟอร์เนีย รัฐแคลิฟอร์เนีย ทางตะวันตกของเม็กซิโกเช่นกัน แรงสั่นสะเทือนสามารถรับรู้ได้ถึงกรุงเม็กซิโกซิตี้ เมืองหลวงของเม็กซิโก แต่โฆษกรัฐบาลยืนยันว่าไม่มีรายงานผู้เสียชีวิตหรือความเสียหายที่ร้ายแรง นอกจากนี้ ยังมีเหตุแผ่นดินไหวขนาด 4.2 ริกเตอร์ ทางใต้ของรัฐอลาสกาในสหรัฐอเมริกา เมื่อเวลา 07.14 น. ตามเวลาท้องถิ่นวันที่ 12 เม.ย. แต่ไม่มีรายงานผู้เสียชีวิตหรือบาดเจ็บ เพราะพื้นที่ดังกล่าวอยู่ห่างไกลจากย่านชุมชน
          “ยิ่งลักษณ์” ชี้สึนามิไม่กระทบท่องเที่ยว
          ในส่วนของปฏิกิริยาของไทยเกี่ยวกับเหตุการณ์แผ่นดินไหวเมื่อวันที่ 11 เม.ย. น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี กล่าวถึงการเตรียมความพร้อมของรัฐบาลว่า ภาพรวมการเตรียมพร้อมดีอยู่ในระดับหนึ่ง ระบบเตือนภัยมีขั้นตอนในการเตือนภัย จากเหตุการณ์ที่ผ่านมา เราพยายามปรับปรุงให้ดีขึ้นเรื่อยๆ ทั้งนี้จะติดตามข้อมูลข่าวสารเรื่องภัยธรรมชาติเป็นระยะๆ อย่างต่อเนื่อง ผู้สื่อข่าวถามว่า ขณะนี้กลับเข้าสู่ภาวะปกติแล้วหรือไม่ น.ส.ยิ่งลักษณ์ตอบว่า สถานการณ์คลี่คลายลงแล้ว และยังไม่มีคำเตือน เราติดตามสถานการณ์อยู่ เรื่องนี้ไม่มีผลกระทบกับนักท่องเที่ยว มีเพียงได้รับบาดเจ็บขณะวิ่ง แต่ไม่มีใครได้รับบาดเจ็บจากภัยธรรมชาติ เมื่อถามว่า จะมีผลกระทบเรื่องทัวร์ที่จะมีนักท่องเที่ยวเข้าไปในช่วง 1-2 วันนี้หรือไม่ น.ส.ยิ่งลักษณ์ตอบว่า น่าจะไม่มีผลกระทบมาก เพราะสนามบินภูเก็ตที่ปิดไป บางสายการบินก็ย้ายไปลงสนามบินหาดใหญ่ เราพยายามจะเรียกความเชื่อมั่นกลับมา อาจจะมีผลกระทบบ้าง แต่อย่างไรก็เชื่อว่าภายใน 1-2 วันก็น่าจะกลับมา
          “มาร์ค” แนะปรับวิธีเตือนสึนามิ
          ด้านนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณีการเตรียมพร้อมรับมือสถานการณ์แจ้งเตือนภัยอพยพคนจากสึนามิของรัฐบาลให้ประชาชนใน 6 จังหวัดชายฝั่งอันดามันวานนี้ (11 เม.ย.) หลังเกิดเหตุแผ่นดินไหวบริเวณเหนือเกาะสุมาตรา ประเทศอินโดนีเซียว่า เหตุการณ์วานนี้ (11 เม.ย.) ถือว่าโชคดีที่ไม่ได้เกิดสึนามิในระดับที่ทำให้เกิดความเสียหายกับทรัพย์สินและชีวิตของประชาชน แต่มันเป็นเครื่องเตือนใจว่า ภัยธรรมชาติที่เกิดขึ้นจะต้องมีระบบการเตือนภัยและประชาชนต้องตื่นตัวรับฟังข่าวสารอยู่ตลอด เมื่อวานนี้เราจะเห็นเฉพาะประกาศการเตือนภัยพิบัติที่คาดการณ์ว่าคลื่นจะมาถึงพื้นที่ต่างๆในเวลาเท่าไหร่ ซึ่งเป็นการคำนวณคร่าวๆจากการเกิดเหตุครั้งแรก แต่พอเกิดอาฟเตอร์ช็อกครั้งที่ 2 ก็ไม่มีความชัดเจนว่าพื้นที่ตรงนั้นจะมีผลหรือไม่ การแถลงผ่านโทรทัศน์รวมการเฉพาะกิจของ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกฯ ยังใช้วิธีการบันทึกเทปในการสื่อสารกับประชาชนและเมื่อมีการนำเทปมาออกอากาศก็ทำให้ล่าช้ากว่าสถานการณ์ที่เกิดขึ้น ตนไม่อยากให้ไปผูกติดกับการที่จะต้องรอให้นายกฯ หรือรัฐมนตรีเป็นคนแจ้ง จะเป็นใครก็ได้ เช่น ข้าราชการที่ทำงานภายในศูนย์ เตือนภัยพิบัติแห่งชาติออกมาแถลงการณ์ มันก็จะตรงและรวดเร็วมากกว่า
          “อนุดิษฐ์” เข้ารายงานสถานการณ์
          เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 12 เม.ย. ที่ทำเนียบรัฐบาล น.อ.อนุดิษฐ์ นาครทรรพ รมว.เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร (ไอซีที) เดินทางมารายงานผลการติดตามสถานการณ์หลังเกิดเหตุแผ่นดินไหวที่ประเทศอินโดนีเซียเมื่อวันที่ 11 เม.ย.ที่ผ่านมา ต่อนายนิวัฒน์ธำรง บุญทรงไพศาล รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ที่ได้นายกรัฐมนตรีมอบหมายให้ติดตามความคืบหน้า โดยนายอนุดิษฐ์ให้สัมภาษณ์ถึงภาพรวมการเตือนภัยสึนามิหลังเหตุแผ่นดินไหวว่า เราฟังข้อมูลทั้งของนักวิชาการ และตรวจสอบข้อมูลจากเครื่องมือทั้งภายในและเชื่อมโยงเครือข่ายจากต่างประเทศ มาประเมินผลให้ตรงกันที่สุด ก่อนที่จะมีการแจ้งเตือน ดังนั้น ต้องขอบคุณภาครัฐและเอกชนในการแจ้งข่าวให้ประชาชนรับทราบข่าว ทำให้ การปฏิบัติออกมาอย่างราบรื่น ส่วนภาพใหญ่หลังจากที่นายกฯรับทราบสถานการณ์ ก็ได้สั่งหัวหน้าส่วนราชการต่างๆผ่านรัฐมนตรีแต่ละกระทรวงที่จะให้ทุกหน่วยเตรียมพร้อม ไล่ตั้งแต่กระทรวงกลาโหมในเรื่องกำลัง กระทรวงสาธารณสุขเรื่องความพร้อมโรงพยาบาล กระทรวงมหาดไทยในเรื่องท้องถิ่นที่จะเป็นผู้แจ้งเตือนภัยรับมือสถานการณ์ ถือว่าโชคดีว่าไม่มีเหตุการณ์อะไรเกิดขึ้นที่ประเทศไทย แต่หากเกิดอะไรขึ้นก็ถือว่าสิ่งที่นายกฯสั่งการไว้นั้นเป็นระบบและมีการเตรียมพร้อมของทุกหน่วยอยู่แล้ว
          โต้ “มาร์ค” ฉะระบบเตือนภัยล่าช้า
          เมื่อถามว่านายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หน.พรรคฝ่ายค้านออกมาติติงรัฐบาลเรื่องการเตือนภัยล่าช้า น.อ.อนุดิษฐ์กล่าวว่า ต้องถามกลับไปว่าล่าช้าตรงไหน เพราะการประกาศแจ้งเตือนภัยของไทยถือว่าเป็นอันดับต้นๆของภูมิภาค หอกระจายข่าว หอเตือนภัยได้ทำหน้าที่ส่วนการส่งข้อมูลไปยังหน่วยงานที่เกี่ยวข้องก็ไปอย่างรวดเร็ว จะเห็นได้ว่าทันทีที่ศูนย์เตือนภัยได้ผ่านช่องทางต่างๆ สื่อมวลได้รับข่าวก็มีการแจ้งเตือนกันถือว่าการดำเนินการต่างๆทั้งการอพยพประชาชนได้เวลาพอสมควร หลังการประกาศยกเลิกสถานการณ์ พื้นที่ท่องเที่ยวช่วง 22.00 น. เช่น หาดป่าตอง จ.ภูเก็ต กลับเข้าสู่สถานการณ์ปกติ ส่วนกรณีที่เครือข่ายโทรศัพท์มีปัญหานั้นต้องเข้าใจว่ามีการใช้โทรศัพท์เป็นจำนวนมากในเวลาเดียวกัน แต่ส่วนใหญ่สื่อสารกันได้ อาจมีจำนวนน้อยที่เกิดปัญหา ทั้งนี้จะพยายามเพิ่มเครือข่ายให้มีการรองรับให้ได้มากที่สุด อีกทั้งยังหาช่องทางการสื่อสารอื่นควบคู่กันไปทั้งวิทยุภาคประชาชนและเอสเอ็มเอส ส่วนที่ระบุว่าระบบการเตือนภัยมีปัญหานั้น จากผล สำเร็จที่เกิดขึ้นภาพรวมทุกอย่างเกิดขึ้นเป็นอย่างดี อย่างไรก็ตาม หากมีอะไรขัดข้องต้องนำมาทบทวนปรับปรุงหาวิธีการที่ดีขึ้น
          “ทักษิณ” โทรเช็กเหตุแผ่นดินไหว
          นายปลอดประสพ สุรัสวดี รมว.วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี กล่าวถึงเหตุแผ่นดินไหวที่เกาะสุมาตราว่า เป็นดวงของประเทศไทยและเอเชียที่เกิดแผ่นดินไหว ขนาด 8.6 ริกเตอร์ และอาฟเตอร์ช็อก 8.2 ริกเตอร์ซ้อนสองครั้งในเวลาไม่ห่างกัน แต่ก่อให้เกิดคลื่นสึนามิขนาดเล็กแค่ 30-50 ซม.ซึ่งตามสถิติมีโอกาสที่เราจะโชคดีไม่เจอสึนามิแค่ 1 ใน 1 หมื่นครั้ง สำหรับระบบเตือนภัยของไทยหลังเกิดเหตุประเมินว่าสมบูรณ์แบบมาก รวมถึงระบบสื่อสารท้องถิ่น แต่ที่ใช้ไม่ได้คือ ระบบทวนข่าวของพื้นที่เพราะสั่งการแล้วไม่รายงานผลปฏิบัติหรือมีความล่าช้า ซึ่งต้องมาดูใหม่ทั้งหมด การเกิดสึนามิปี 2547 และครั้งล่าสุดเมื่อวันที่ 11 เม.ย. ที่ห่างกันเพียง 8 ปี สะท้อนให้เห็นว่า แผ่นดินเปลือกโลกอินเดีย-ยูเรเชียนไม่เสถียร ซึ่งน่าเป็นห่วงมาก ทั้งนี้วิธีรับมือที่ดีที่สุดคือ ต้องเฝ้าระวังทุกวัน มีการซักซ้อมรับเหตุสม่ำเสมอ เชื่อฟังการเตือนภัย และต้องปรับวิธีคิดเรื่องวิศวกรรมสถานในแถบอันดามันใหม่ อย่างไรก็ตาม หลังเกิดเหตุแผ่นดินไหว พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ได้โทรศัพท์มาสอบถามสถานการณ์และความพร้อมการเตือนภัยการดูแลประชาชน แต่ไม่ได้สั่งการอะไรเป็นพิเศษ
          นักวิชาการเตือนไทยระวัง 1–2 วันนี้
          เมื่อวันที่ 12 เม.ย.ที่คณะวิทยาศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ศ.ดร.ธนวัฒน์ จารุพงษ์สกุล หัวหน้าหน่วยศึกษาพิบัติภัยและข้อสนเทศเชิงพื้นที่ คณะวิทยาศาสตร์ จุฬาฯ และนายมิชิโอะ อาชิซึเมะ ผู้เชี่ยวชาญแผ่นดินจากประเทศญี่ปุ่น ร่วมกันแถลง “วิเคราะห์สถานการณ์แผ่นดินไหวที่อินโดนีเซีย” โดย ศ.ดร.ธนวัฒน์กล่าวว่า เหตุการณ์แผ่นดินไหวที่เกิดขึ้นที่ จ.อาเจะห์ ประเทศอินโดนีเซีย อยู่ใกล้กับจุดที่เคยเกิดเมื่อปี 2547 ประมาณ 100 กม. เป็นการเคลื่อนไหวแบบรอยเลื่อนซ้าย-ขวาอยู่ในเปลือกโลกเปลือกเดียวกันที่อยู่ในทะเล จุดศูนย์กลางห่างไป 500 กม. จากเกาะสุมาตรา ซึ่งการเกิดแผ่นดินไหวครั้งนี้ อยู่ในระดับความลึกที่ 22 กิโลเมตร ถือว่าเกิดในชั้นเนื้อโลกไม่ใช่เปลือกโลก คือ อยู่ในชั้นแมนเทิล (mantle) ซึ่งเป็นชั้นโครงสร้างของโลกที่อยู่ระหว่างเปลือกโลกกับแก่นโลกซึ่งถือว่ามีความผิดปกติอย่างมาก เนื่องจากโดยปกติแล้วแผ่นดินไหวจะเกิดในที่เดิมต้องใช้เวลา 200-600 ปี ในการขยับของจุดโลก แต่แผ่นดินไหวครั้งนี้เกิดขึ้นห่างจากการเกิดเหตุการณ์สึนามิเพียง 8 ปี ดังนั้นจากความรู้ที่มีอยู่คาดว่าอย่างแย่ที่สุดจะเกิดสึนามิขนาดใหญ่ แต่ไม่รู้ว่าจะเกิดในช่วงเวลาใด ดังนั้น ประชาชนอย่าตื่นตระหนก และให้ติดตามดูสถานการณ์อีก 1-2 วัน อย่าไว้วางใจเพราะยังมีอาฟเตอร์ช็อกตามมาอีกหลายครั้ง
          หวั่นซ้ำรอย “สึนามิญี่ปุ่น” มี.ค.54
          ศ.ดร.ธนวัฒน์กล่าวต่อว่า ที่สำคัญที่ไม่น่าไว้วางใจและไม่ควรประมาท เพราะที่ผ่านมาการเกิดเหตุการณ์ในประเทศญี่ปุ่นเมื่อวันที่ 11 มี.ค.54 ขนาด 11 ริกเตอร์นั้น ก่อนหน้านั้น 2 วัน คือในวันที่ 9 มี.ค. เกิดแผ่นดินไหวขนาด 7.3 ริกเตอร์ ซึ่งถือว่ามีขนาดใหญ่และไม่มีใครคิดว่าจะเกิดแผ่นดินไหวขนาดใหญ่ตามมาคือในวันที่ 11 มี.ค. จนเป็นโศกนาฏกรรม ดังนั้น เหตุการณ์แผ่นดินไหวที่เกิดขึ้นที่ จ.อาเจะห์ ประเทศอินโดนีเซีย และใกล้กับประเทศไทย จึงยังไว้วางใจไม่ได้ เนื่องจากการเกิดแผ่นดินไหวเมื่อวันที่ 11 เม.ย.ที่ผ่านมา อาจจะไปกระตุ้นให้เกิดการ สั่นไหวรุนแรงในพื้นที่อื่นๆ บริเวณใกล้เคียง และอาจจะตามมาด้วยแผ่นดินไหวขนาดใหญ่ (Main-Shock) และอาฟเตอร์ช็อก ซึ่งจุดที่เสี่ยงและจะสร้างความเสียหายให้กับประเทศไทย ได้แก่บริเวณทางเหนือเกาะนิโคบา ซึ่งเป็นจุดเดิมที่เป็นต้นเหตุของคลื่นยักษ์สึนามิเมื่อปี 2547 และอีกแนวหนึ่งคือรอยเลื่อนทางภาคเหนือของไทย ถ้าแผ่นดินไหวที่เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 11 เม.ย. คือการเตือน ก็อาจจะต้องเฝ้าระวังใน 6 จังหวัดอันดามันต่ออีกระยะหนึ่งโดยเฉพาะ จ.ระนอง เพราะหากเกิดขึ้นจริง สึนามิจะใช้เวลาเดินทาง เพียงครึ่งชั่วโมงเท่านั้น และจะสร้างความเสียหายอย่างใหญ่หลวงให้กับประเทศไทย ดังนั้น สิ่งที่หน่วย– งานที่เกี่ยวข้องควรเร่งดำเนินการคือการสื่อสารกับประชาชนให้เข้าใจ รวดเร็วและชัดเจนที่สุด
          ผวจ.ภูเก็ตรับมีข้อบกพร่องต้องแก้
          ส่วนความคืบหน้าของพื้นที่ 6 จังหวัดฝั่งทะเล อันดามันที่มีประกาศเตือนภัยสึนามิและอพยพไปอยู่ที่สูง จนเกิดความวุ่นวายและเกรงว่าอาจจะกระทบถึงการท่องเที่ยวในช่วงวันหยุดสงกรานต์นั้น เมื่อเวลา 09.00 น. วันที่ 12 เม.ย. นายตรี อัครเดชา ผวจ.ภูเก็ต กล่าวถึงเหตุการณ์แผ่นดินไหวที่หมู่เกาะ สุมาตรา ประเทศอินโดนีเซีย เมื่อช่วงเย็นวันที่ 11 เม.ย. ที่ผ่านมาว่า หลังเกิดแผ่นดินไหวก็มีการประกาศเตือนภัยคลื่นยักษ์สึนามิที่จะมาถึงยัง จ.ภูเก็ต และจังหวัดตามแนวชายฝั่งอันดามัน ตามเวลาที่ศูนย์เตือนภัยพิบัติแห่งชาติคำนวณ ก่อนที่จะมีการแจ้งไปยังพื้นที่ เพื่อส่งสัญญาณเสียงไซเรนไปยังหอเตือนภัยต่างๆ รอบเกาะภูเก็ต เพื่ออพยพตามขั้นตอน แต่ทั้งนี้ การจัดรถประชาสัมพันธ์เพื่อแจ้งเตือนภัยของท้องถิ่นต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นเทศบาล-อบต.ยังมีค่อนข้าง น้อย ทำให้ประชาชนบางส่วนไม่ได้รับทราบข้อมูลข่าวสารที่ชัดเจนหรือแท้จริง จากนั้นจะเป็นปัญหาการจราจรตามแหล่งท่องเที่ยวสำคัญๆ เนื่องจากหลังมีการแจ้งเตือนภัย ต่างคนต่างนำรถยนต์ รถกระบะ รถ จยย.ออกจากบ้านเรือนอย่างเร่งรีบ หวาดกลัว หรือกลัวจะหนีไม่ทัน ส่งผลให้การจราจรติดขัด โดยเฉพาะพื้นที่ที่อยู่บนเนินเขาหรือที่สูง นอกจากนี้ ยังมีปัญหาเรื่องการสื่อสาร เนื่องจากระบบโทรศัพท์ไม่สามารถติดต่อสื่อสารสั่งการ ได้ต้องอาศัยวิทยุเครื่องแดงหรือวิทยุสมัครเล่น ซึ่งมีการสร้างเครือข่ายมาช่วยเหลือ โดยจะได้นำเสนอปัญหาดังกล่าวไปยังหน่วยเหนือ เพื่อหาทางแก้ปัญหาต่อไป อย่างไรก็ตาม ยังไม่พบความเสียหายและผู้เสียชีวิตหรือบาดเจ็บจากเหตุการณ์ดังกล่าว
          ป่าตองคนยังแน่น-ฝรั่งมั่นใจไทย
          ต่อมาเวลา 13.30 น. ผู้สื่อข่าวรายงานบรรยากาศการท่องเที่ยวบริเวณชายหาดป่าตอง อ.กะทู้ จ.ภูเก็ต แหล่งท่องเที่ยวชื่อดังของ จ.ภูเก็ตว่า ชายหาดป่าตองที่มีความยาวกว่า 3.3 กม. มีนักท่องเที่ยวกลับมาพักผ่อน นอนอาบแดด ลงเล่นน้ำกันอย่างสนุกสนาน บางคนเช่าเจ็ตสกีออกไปขี่เล่นรอบอ่าวป่าตอง โดยไม่มีความหวั่นวิตกหรือกลัวกับการเกิดแผ่นดินไหวที่เกาะสุมาตรา ประเทศอินโดนีเซีย หรืออาฟเตอร์ช็อกแต่อย่างใด โดยเฉพาะร้านค้าเลียบ ถนนทวีวงศ์ ต.ป่าตอง ซึ่งเป็นถนนเลียบชายหาดป่าตองต่างเปิดขายสินค้าต่างๆกันอย่างคึกคัก นายเซฟเตอร์ มาส นักท่องเที่ยวชาวอังกฤษ กล่าวว่า ขณะเกิดแผ่นดินไหวเมื่อวันที่ 11 เม.ย.ที่ผ่านมา ตนอยู่กับครอบครัวบนชั้น 10 ของคอนโดมิเนียมแห่งหนึ่งใกล้ชายหาดป่าตอง รู้สึกแผ่นดินไหวได้อย่างชัดเจน จากนั้นได้พาครอบครัวลงมาจากคอนโดฯแล้วออกไปนั่งรอด้านนอก จนกระทั่งมีเจ้าหน้าที่มาบอกว่าสถานการณ์กลับสู่ปกติ ซึ่งไม่ได้หวั่นกลัวหรือวิตกกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นแต่อย่างใด และได้พาครอบครัวมานอนอาบแดดและลงเล่นน้ำที่หาดป่าตองตามปกติ ซึ่งหาดป่าตองยังคงมีความสวยงามเหมือนเดิม และยังคงพักผ่อนที่ จ.ภูเก็ต ต่อไปอีก 1 สัปดาห์ โดยยังคงเชื่อมั่นเรื่องความปลอดภัยและระบบเตือนภัยของ จ.ภูเก็ต ก่อนที่จะกลับประเทศอังกฤษเพื่อไปทำงานต่อ
          ไม่สนสึนามิ-สาดน้ำสงกรานต์ฉ่ำ
          ขณะที่บริเวณซอยบางลา ถ.ทวีวงศ์ ต.ป่าตอง อ.กะทู้ จ.ภูเก็ต ซึ่งเป็นพื้นที่ที่มีสถานบันเทิง เช่น ผับบาร์เบียร์เป็นจำนวนมาก โดยเทศบาลเมืองป่าตองได้จัดให้เป็นถนนคนเดินในแต่ละวันตั้งแต่เวลา 17.00 น.เป็นต้นไปเต็มไปด้วยนักท่องเที่ยวต่างชาติและคนไทยที่รวมตัวกันไปเล่นน้ำในช่วงเทศกาลสงกรานต์กันอย่างสนุกสนานท่ามกลางแสงแดดที่ร้อนระอุกว่า 39 องศาเซลเซียส โดยไม่หวั่นเรื่องภัยคลื่นยักษ์สึนามิ ต่างซื้อหาปืนฉีดน้ำหลากสีมาฉีดน้ำใส่กัน ซึ่งร้านขายปืนฉีดน้ำต่างเปิดกลยุทธ์ในการขายด้วยการแถมน้ำประปาเติมฟรี ส่วนสนนราคาของปืนฉีดน้ำมีตั้งแต่กระบอกละ 150 บาทไปจนถึง 1,500 บาทท่ามกลางเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.กะทู้คอยดูแลความปลอดภัย เพื่อสร้างความมั่นใจให้กับนักท่องเที่ยว ทั้งด้านภัยพิบัติและการก่อการร้าย
          สนามบินภูเก็ตเปิดปกติตกค้างพันคน
          ด้านนายประเทือง ศรขำ ผู้อำนวยการท่าอากาศยานภูเก็ต กล่าวว่า หลังจากเกิดแผ่นดินไหวและมีการประกาศเตือนภัยสึนามิ เมื่อวันที่ 11 เม.ย. ทำให้ต้องประกาศยกเลิกเที่ยวบินรวมทั้งสิ้น 25 เที่ยวบิน แบ่งเป็นเที่ยวบินภายในประเทศ 12 เที่ยวบิน และเที่ยวบินระหว่างประเทศ 13 เที่ยวบิน อพยพผู้โดยสารทั้งชาวไทยและต่างประเทศที่มารอขึ้นเครื่องซึ่งขณะนั้นมีจำนวนมากกว่า 1,000 คน ไปยังจุดอพยพที่อาคารครัวการบินไทย โดยทางการท่าฯ ได้มีการจัดรถบริการ รวมทั้งอาหารและเครื่องดื่มเพื่อบรรเทาความเดือดร้อนในเบื้องต้น แต่หลังจากที่มีการประกาศยกเลิกเตือนภัยสึนามิก็ได้มีการประกาศเปิดให้บริการเช่นเดิม แต่เนื่องจากได้มีการนำเครื่องบินออกไปจากสนามบินแล้ว และกว่าที่จะกลับเข้ามาต้องใช้เวลาพอสมควร ทำให้นักท่องเที่ยวไม่สามารถที่จะเดินทางได้ในทันที ต้องรอเครื่องบินมารับซึ่งจะต้องใช้เวลาพอสมควร โดยผู้โดยสารกลุ่มสุดท้ายที่ตกค้างเดินทางออกจากประเทศไทยไปเมื่อช่วงเที่ยงวันที่ 12 เม.ย.
          รร.กระบี่อ่วมยกเลิกจองร้อยละ 20
          ด้านนายเอกวิทย์ ภิญโญธรรมโนทัย นายกสมาคมโรงแรมจังหวัดกระบี่ กล่าวว่า จากเหตุแผ่นดินไหวที่อินโดนีเซียเมื่อเย็นวานนี้ และทำให้หลายพื้นที่ได้เฝ้าระวังคลื่นยักษ์สึนามิที่อาจจะเกิดขึ้นตามมา ซึ่งในส่วนของจังหวัดกระบี่ จากการสอบถามไปยังผู้ประกอบการหลายรายทั้งเกาะลันตา เกาะพีพี อ่าวนาง หนองทะเล พบว่าหลังเกิดเหตุนักท่องเที่ยวขึ้นไปอยู่ในจุดปลอดภัยและหลังมีการแจ้งยกเลิกประมาณ 3 ทุ่มก็มีการเดินทางกลับที่พักตามปกติ ส่วนที่เกาะลันตา เกาะพีพีและอ่าวนาง พบว่ามีนักท่องเที่ยวชาวไทยยกเลิกการเดินทางเข้ามาแล้วประมาณ 15-20 เปอร์เซ็นต์ ถือว่าเป็นที่น่าเสียดายอย่างมาก ส่วนโรงแรมของตนมียกเลิกไปแล้วประมาณ 20 เปอร์เซ็นต์ ถือว่าเป็นอัตราที่ค่อนข้างสูงมาก
          ประมงตรังยังผวาไม่กล้าออกทะเล
          ผู้สื่อข่าวรายงานจาก จ.ตรัง เมื่อเวลา 09.30 น.วันที่ 12 เม.ย.นายเสนีย์ จิตตเกษม ผวจ.ตรังได้เรียกประชุมนายอำเภอกันตัง อ.ปะเหลียน อ.หาดสำราญ และ อ.สิเกา ซึ่งเป็นอำเภอที่อยู่ติดชายฝั่งทะเลและเกาะต่างๆ ให้เร่งทำความเข้าใจกับนักท่องเที่ยว รวมถึงประชาชนในพื้นที่เพื่อให้คลายความหวาดวิตกและสามารถออกไปประกอบอาชีพทำการประมงได้ตามปกติแล้ว ส่วนข่าวการเตือนให้เฝ้าระวังการเกิดคลื่นสึนามิ ต่อไปอีก 1-2 วันนี้ ยังเป็นการเตือนต่อเนื่อง แต่ไม่ส่งผลกระทบต่ออาชีพชาวประมงพื้นบ้าน เพียงแต่ให้คอยติดตามฟังข่าวและสัญญาณเตือนภัยประจำหมู่บ้าน พร้อมอพยพขึ้นสู่พื้นที่สูงทันทีหากเกิดเหตุ ขณะที่ชาวประมงพื้นบ้านน้ำราบและบ้านมดตะนอย ต.เกาะลิบง อ.กันตัง ยังไม่กล้าออกเรือหาปลาเนื่องจากยังมีการเตือนให้เฝ้าระวังการเกิดคลื่นสึนามิในอีก 1-2 วันนี้ ทำให้เรือประมงนับร้อยลำต้องจอดหลบคลื่นลมอยู่ในคลองภายในหมู่บ้าน ผู้สื่อข่าวรายด้วยว่า กรุ๊ปทัวร์และนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและต่างชาติที่สั่งจองห้องพักและรีสอร์ตต่างๆ ใน อ.กันตัง อ.ปะเหลียน และ อ.สิเกา ได้สั่งยกเลิกไปเกือบ 100% ส่งผลกระทบต่อการท่องเที่ยวในช่วงเทศกาลสงกรานต์เป็นอย่างมาก เช่นเดียวกับที่ จ.สตูล ก็มีรายงานว่ากลุ่มนักท่องเที่ยวโดยเฉพาะชาวไทย ยกเลิกการจองที่พักถึงร้อยละ 40 ขณะที่นักท่องเที่ยวต่างชาติกลับเชื่อมั่นและไม่ยกเลิกการจองที่พักแต่อย่างใด
          ฮาร์เล่ย์บุกภูเก็ต 
          ขณะเดียวกันที่ด่านตรวจภูเก็ต ต.ไม้ขาว อ.ถลาง จ.ภูเก็ต มีนักท่องเที่ยวจากประเทศมาเลเซียและสิงคโปร์ ส่วนหนึ่งใช้รถจักรยานยนต์ฮาร์เล่ย์เดวิดสัน กว่า 200 คัน เป็นพาหนะขับเป็นขบวนเข้ามา นอกจากนั้นยังมีกลุ่มที่นั่งรถบัสอีก 2 คัน ตามมาเที่ยวสงกรานต์ จ.ภูเก็ต พ.ต.อ.วีรวัฒน์ จันทรวิจิตร ผกก.สภ.ท่าฉัตรไชย และชมรมภูเก็ตไรเดอร์คลับกล่าวต้อนรับ
          นายไมเคิล เวนย์ ชาวมาเลเซีย หนึ่งในกลุ่มนักท่องเที่ยวกล่าวว่า ตนและครอบครัวชอบความสวยงามของ จ.ภูเก็ตมาก ก่อนหน้านี้เคยขับรถยนต์มาเที่ยวแล้ว แต่การมาครั้งนี้เป็นการร่วมคณะกับผู้รักการขี่ฮาร์เล่ย์ เดวิดสัน จากประเทศมาเลเซียผ่าน จ.สงขลา และเข้าสู่ จ.ภูเก็ต เพื่อร่วมฉลองเทศกาลวงกรานต์หรือปีใหมของประเทศไทย ซึ่งได้รับการต้อนรับจากชาวภูเก็ตอย่างอบอุ่น เกิดความรู้สึกที่ดี 
          ด้านนายวิทยา สิงฆ์ฬะ ผู้ประสานงานมาเลย์-สิงคโปร์ และภูเก็ตไบค์วีก 2012 กล่าวว่าคณะผู้รักการขี่รถฮาร์เล่ย์ เดวิดสัน กว่า 200 คัน และผู้ติดตามกว่า 200 คน ได้แจ้งความประสงค์ที่จะเข้ามาเที่ยว จ.ภูเก็ต ในช่วงเทศกาลสงกรานต์ระหว่างวันที่ 12-14 เม.ย. โดยจะพักโรงแรมย่านหาดป่าตอง อ.กะทู้ เล่นสงกรานต์ที่ซอยบางลา ซึ่งชมรมภูเก็ตไรเดอร์คลับจะจัดงานเลี้ยงต้อนรับทั้งนี้ จากการพูดคุยเกี่ยวกับเหตุการณ์แผ่นดินไหว และมีการเตือนภัยคลื่นยักษ์สึนามิก่อนที่คณะจะเดินทางมายัง จ.ภูเก็ต เพียงวันเดียว ปรากฏว่าไม่มีผู้ใดหวาดกลัวหรือยกเลิกโปรแกรมการท่องเที่ยวแต่อย่างใด โดยมั่นใจในระบบเตือนภัยของไทยการมาครั้งนี้นำรายได้มาสู่ประเทศไทยโดยคาใช้จ่ายแต่ละคนจะอยู่ที่ประมาณ 10,000 บาทต่อวัน.