จากการเสวนา “บทบาทสื่อในการยุติความรุนแรงต่อผู้หญิงและเด็ก” จัดโดยคณะกรรมาธิการการพัฒนาสังคมและกิจการเด็ก เยาวชนสตรี ผู้สูงอายุ คนพิการ และผู้ด้อยโอกาส วุฒิสภา นายอโณทัย ฤทธิปัญญาวงศ์ ประธานคณะกรรมาธิการการพัฒนาสังคมฯ  กล่าวว่า สาเหตุความรุนแรงมีต้นแหตุทั้งมาจากความสัมพันธ์เชิงอำนาจ ความเครียด กระแสสังคม พฤติกรรมเลียนแบบ รวมถึงการถูกสื่อนำเสนอละครที่สะท้อนอคติทางเพศ การผลิตซ้ำความรุนแรง จึงหวังว่าสื่อจะเป็นเครื่องมือที่แปรความรุนแรงเป็นพลังสร้างสรรค์ เปลี่ยนจากการสะท้อนสังคมเป็นสร้างสังคม เพื่อผลักดันสังคมไทยไปสู่ประเทศที่พัฒนาและยังประโยชน์ให้กับประเทศ เพราะสื่อมีบทบาทอย่างยิ่งในการยุติความรุนแรงหรือส่งเสริมความรุนแรง เห็นได้จากภาพตบตีในละครที่ยังคงเห็นอยู่เป็นประจำ
          พญ.พรรณพิมล วิปุลากร ผอ.สถาบันราชานุกูล กรมสุขภาพจิต กระทรวงสาธารณสุข กล่าวว่า เด็กไทยอยู่กับสื่อมากกว่า 3 ชั่วโมง ซึ่งน่ากังวลอย่างยิ่ง เพราะการเสพสื่อที่มีความถี่ของความรุนแรง จะกระตุ้นให้เกิดพฤติกรรมความรุนแรงได้ 
          ขณะที่นายประสงค์ เลิศรัตนวิสุทธิ์ ผอ.บริหารสถาบันอิศรา กล่าวว่า เราไม่เคยนำตัวจริงเสียงจริงเจ้าของสื่อทั้งภาพยนตร์ ละคร รายการต่างๆ โฆษณาที่สื่อถึงความรุนแรงมาพูดคุย หรือร่วมวงเสวนา เพื่อสอบถามถึงเหตุผลของการทำรายการที่ทำลายสังคม ไม่เช่นนั้นก็เหมือนกับการขี่ม้าเลียบค่าย ที่จัดสัมมนาที ก็ไม่เกิดผลอะไรขึ้นมา เพราะผู้มีอำนาจตัดสินใจไม่ได้รับรู้ และอยากเสนอให้ พม. ซึ่งมีหน้าที่ดูแลคุ้มครองเด็ก ทำเป็นตัวอย่างในการแจ้งความดำเนินคดีกับสื่อและผู้ที่นำเด็ก ซึ่งอาจจะตกเป็นผู้กระทำผิด หรือเป็นผู้ถูกกระทำมาใส่หมวกคลุมหน้าตาแล้วแถลงข่าวออกสื่อ ทั้งที่ละเมิดสิทธิเด็กและผิดกฎหมายตาม พ.ร.บ.คุ้มครองเด็กแห่งชาติ รวมถึง พ.ร.บ.ศาลเยาวชนและครอบครัวและวิธีพิจารณาคดีเยาวชนและครอบครัว พ.ศ.2553 
          นายพิริยะ ทองสอน เลขาธิการมูลนิธิสื่อเพื่อเยาวชน กล่าวว่า เกมออนไลน์ที่บ่มเพาะความรุนแรง โดยให้เด็กสะสมแต้มด้วยการทำลายถึงขั้นชีวิต กำลังเป็นปัญหาใหญ่และฝังสมอง ส่วนลึกให้เด็กเกิดพฤติกรรมเลียนแบบ หลายหน่วยงานไม่เฉพาะกระทรวงวัฒนธรรม ควรเข้ามาดูแลป้องกัน เพราะเด็กกำลังเสพเกมเหล่านี้มากขึ้น