ผศ.ดร.สมภพ เบญจฤทธิ์“ฟัน” เป็นอวัยวะส่วนหนึ่งในร่างกายที่ทุกคนรู้ว่าสำคัญ แต่มักเป็นสิ่งสุดท้ายที่เราให้การดูแล เพื่อกระตุ้นให้คนทั่วไปใส่ใจในสุขภาพฟัน ลองได้ฟังคำแนะนำจาก ผศ.ดร.ทพ. สมภพ เบญจฤทธิ์ ผู้เชี่ยวชาญจากเซ็นโซดายน์ และอาจารย์คณะทันตแพทย์ มหาวิทยาลัยนอร์ท แคโรไลนา แอทแชเพิลฮิลล์ สหรัฐอเมริกา ซึ่งรับเชิญจาก บริษัท แกล็กโซสมิทไคลน์ (ประเทศไทย) จำกัด มาให้ความรู้ โดยคุณหมอบอกว่า คนไทยส่วนใหญ่มักมาพบหมอฟัน
          เมื่อสาย คือ เมื่อมีปัญหาด้านสุขภาพในช่องปากและฟันที่หนักแล้ว อย่างฟันผุ ฟันแตกหรือร้าว หรือสูญเสียฟัน โรคในช่องปากและฟันสามารถป้องกันได้ เริ่มจากเคลือบฟันที่เป็นชั้นบางๆ ให้คอยปกป้องฟันของเรา ส่วนปัญหาด้านสุขภาพฟันที่พบบ่อยๆ คือ อาการเสียวฟันดร.สมภพ บอกต่อว่า การรับประทานอาหาร รวมทั้งการใช้สารขัดฟอก หรือยาสีฟันฟอกฟันขาว รวมทั้งการทำเลเซอร์ฟันขาว ซึ่งได้รับความนิยมสูงขึ้นในปัจจุบัน ล้วนเป็นสาเหตุทำให้เคลือบฟันถูกกัดกร่อนถูกทำ ลาย เกิดเป็นรูพรุนขนาดเล็กในเนื้อฟัน หากดื่มของเย็นจัด เปรี้ยวจัด หรือร้อนจัด ก็จะกระตุ้นของ เหลวในท่อฟัน ไปกระตุ้นปลายประสาทฟัน ทำให้เกิดอาการเสียวแปล๊บ จี๊ดๆ เฉียบพลัน ก่อให้เกิดอาการเสียวฟัน ซึ่งมักพบมากกับคนที่อายุ 20 ปีขึ้นไป และเป็นสัญญาณเตือนภัยให้เราต้องรีบดูแลรักษาสุขภาพฟันให้ดี มิฉะนั้นหากมีอาการเสียวฟันต่อเนื่อง ก็จะทำให้เคลือบฟันสึก ลุกลามเป็นโรคเหงือก อาจเป็นสาเหตุของฟันหลุดได้ในที่สุด สำหรับคนที่มีอาการเสียวฟัน สังเกตง่ายๆคือ เวลาดื่มน้ำเย็นจัดๆ หรือรับประทานอาหารที่เปรี้ยวจี๊ด แล้วรู้สึกเสียวแปล๊บๆ วิธีการลดอาการเสียวฟันสามารถทำได้ด้วยตัวเองและง่ายถูกจุดที่สุดคือ การเปลี่ยนยาสีฟัน เป็นยาสีฟันลดอาการเสียวฟัน เพราะมีสารช่วยอุดโพรงประสาทฟันให้เล็กลง และยังให้คุณประโยชน์หลักๆ ที่มีในยาสีฟันทั่วไปด้วย ทั้งให้ความสดชื่น ป้องกันฟันผุ แต่หากใช้แล้วยังมีอาการเสียวฟัน หรือเป็นโรคฟัน ต้องรีบไปปรึกษาทันตแพทย์ทันทีอย่านิ่งนอนใจ ถ้าอยากให้สุขภาพฟันดีตลอดชีวิต ก็ต้องหมั่นดูแลตั้งแต่ตอนนี้ อย่าละเลย แต่ถ้าจะให้ดีที่สุดควรดูแลรักษาสุขภาพฟันตั้งแต่ยังเด็กๆเลย.