HISO - เรื่องเล่าข่าวเด่น

  
   Follow us      
  
หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ [ วันที่ 23/08/2555 ]
ดูแลป่วยจิต6แสนหวั่นซ้ำแม่หั่นลูก!

 "สุรวิทย์" รุดเยี่ยมแม่โรคจิตคลังฆ่าหั่นศพลูกน้อย 2 ศพ พบว่าอาการดีขึ้นแล้ว พูดคุยรู้เรื่อง แต่แพทย์นังต้องดูแลอย่างใกล้ชิด เผยมีคนไทยทั่วประเทศป่วยเป็นโรค "จิตเภท" แล้วร่วม 6 แสนคน ในจำนวนนี้นอนรักษาตัวอยุ่ในโรงพยาบาล ถึง 3 แสนคน สั่งเร่งสำรวจทุกชุมชนเพื่อนำผู้ป่วยเข้ารับยา ป้องกันคนบ้าอาละวาดทำร้ายคนดี
         คดีนางไหม จะกู่ อายุ 26 ปี ชาวเขาเผ่ามูเซอ อยู่บ้านเลขที่ 338 หมู่ 10 ต.บ้านหลวง อ.แม่อาย จ.เชียงใหม่ ซึ่งมีอาการป่วยทางจิต ก่อเหตุสยองใช้มีดหั่นศพลูกสาววัย 5 ขวบกับ 2 ขวบ รวม 2 ศพ แล้วนำชิ้นส่วนมากองรวมกัน โดยหลังเกิดเหตุตำรวจควบคุมตัวนางนาไหมส่งไปตรวจและบำบัดอาการที่โรงพยาบาลสวนปรุง(กรมสุขภาพจิต) อ.เมืองเชียงใหม่ แล้วนั้น
          ความคืบหน้าเมื่อเวลา 15.00 น. วันที่ 21 นพ.สุรวิทย์ คนสมบูรณ์ รมช.สาธารณสุข พร้อมนายเกียรติภูมิ วงศ์จิต เดินทางไปที่โรงพยาบาลสวนปรุง อ.เมืองเชียงใหม่ เพื่อติดตามตรวจเยี่ยมอาการของนางนาไหม โดย นพ.สุรวิทย์ให้สัมภาษณ์ในเวลาต่อมา เบื้องต้นได้รับรายงานจาก นพ.สุวัฒน์ มหัตนิรันดร์กุล ผู้อำนวยการโรงพยาบาลสวนปรุง ว่าได้รับผู้ป่วยรายนี้ เมื่อวันที่ 15 ส.ค. 2555 ตามคำสั่งศาลเพื่อตรวจวินิจฉัยว่าเป็นผู้ป่วยทางจิตเวชหรือไม่ โดยผู้ป่วยเคยมีประวัติการรักษาและรับยาที่โรงพยาบาลฝางแต่ขาดการรักษามาระยะหนึ่ง อาการล่าสุด ผู้ป่วยอาการสงบ ให้ความร่วมมือในการตรวจรักษาพูดคุยรู้เรื่อง ดูแลตัวเองในการทำกิจวัตรประจำวันต่างๆ ได้ตามปกติ และทราบเรื่องที่เกิดขึ้นแล้ว เข้าใจว่าน่าจะเป็นประสาทหลอนว่าบิดาซึ่งเสียชีวิตไปแล้วสั่งให้ทำร้ายลูกตัวเอง
          นพ.สุรวิทย์กล่าวอีกว่า ขณะนี้โรงพยาบาลสวนปรุง ได้ให้การดูแลผู้ป่วยตามมาตรฐานการตรวจวินิจฉัย มีการตรวจทางจิตวิทยา การสังเกตอาการ การตรวจทางห้องปฏิบัติการ เช่นการตรวจคลื่นสมอง การหาสารเสพติด เป็นต้น คาดว่าจะสรุปผลว่าผู้ป่วยเป็นโรคททางจิตเวชหรือไม่ประมาณ 2-4 สัปดาห์ เพื่อส่งข้อมูลให้ศาลประกอบการพิจารณาคดีต่อไป ในการนี้จะปรึกษาหารือกันในเรื่องการป้องกันอันตรายของประชาชนในชุมชนจากผู้ป่วยทางจิตเวชได้รับการรักษาและเข้าถึงยา ขณะนี้กรมสุขภาพจิตได้เพิ่มคลินิกให้คำปรึกษาด้านจิตเวชได้รับการรักษาและเข้าถึงยา ขณะนี้กรมสุขภาพจิตได้เพิ่มคลินิกให้คำปรึกษาด้านจิตเวชในทุกโรงพยาบาลกว่า 800 แห่งทั่วประเทศ และเตรียมขยายไปยังโรงพยาบาลกว่า 800 แห่งทั่วประเทศและเตรียมขยายไปยังโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบล 9,750 แห่งทั่วประเทศ เฝ้าติดตามผู้ป่วยจิตเวชทุกคนไม่ให้คนไข้ขาดยา
          "คนไข้รายนี้มีอาการขาดยาร่วม 2 เดือน ทำให้มีอาการกำเริบและมีอาการประสาทหลอนที่น่าเป็นห่วง ขณะนี้พบว่าในประเทศไทย มีคนไทยที่ป่วยเป็นโรค "จิตเภท" แบบคนไข้รายนี้มีอยู่ทั่วประเทศไทย มีคนไทยที่ป่วยเป็นโรค "จิตเภท" แบบคนไข้รายนี้มีอยู่ทั่วประเทศ อยู่เกือบ 6 แสนคน ในจำนวนนี้มีทั้งคนที่แสดงอาการและไม่แสดงอาการ รวมทั้งคนเร่ร่อน จรจัด อีกด้วย และในจำนวนนี้มีผู้ป่วยนอนรักษาตัวในโรงพยาบาลถึง 3 แสนคน หลังจากนี้กระทรวงจะต้องออกไปสำรวจ และให้ความช่วยเหลือคนกลุ่มนี้ให้เข้ามาสู่ระบบ การรักษาอาการทางจิตเวชต่อไป" นพ.สุริวิทย์กล่าว
          ด้าน นพ.เกียรติภูมิ วงศ์รจิต รองอธิบดีกรมสุขภาพจิต กล่าวว่า ผู้ป่วยรายนี้เป็นคนไข้เก่าของโรงพยาบาลสวนปรุง แต่ขาดยาจนทำให้มีอาการหลงผิดชั่วครู่ เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นคนป่วยคิดว่าลูกเป็นหมู ซึ่งเมื่อทำการรักษาอาการหลงผิดจะดีขึ้น ผู้ป่วยอาจจำได้ว่าได้ฆ่าลูกและอาจจะส่งผลให้มีอาการซึมเศร้าตามมา ในการรักษาผู้ป่วยที่มีอาการหลงผิดจะดำเนินการเหมือนผู้ป่วยจิตเวชอื่นๆ แต่จะเพิ่มการประเมินอันตรายสต่อคนรอบข้างเพื่อต้องกลับเข้าสู่สังคม ผู้ป่วยรายนี้อาจจะต้องอยู่พักรักษาตัวในโรงพยาบาลนานเป็นพิเศษ แต่ไม่สามารถระบุได้ว่าจะใช้เวลานานเท่าใด ปัญหาคือผู้ป่วยรายนี้น่าจะมีอาการกำเริบมาอย่างน้อยไม่ต่ำกว่า 1 สัปดาห์ แต่ญาติไม่ได้สนใจ หรือระยะทางจากบ้านไปโรงพยาบาลไกลเกิน จึงไม่ได้เข้ารับการรักษา อาหารของผู้ป่วยถือว่ารุนแรงเพราะไม่รู้สึกตัวว่าได้ทำอะไรผิดปกติ หรือผิดธรรมชาติไปบ้าง
          นพ.เกียรติภูมิกล่าวอีกว่า ผู้ป่วยนิติจิตเวชคิดเป็น 50% ของผู้ป่วยจิตเวชทั้งประเทศ ส่วนผู้ป่วยที่มีอาการทางจิตทั่วไปที่อยู่ในโรงพยาบาล มีประมาณ 6 แสนราย ทั้งนี้ บุคคลทั่วไปสามารถสังเกตอาการผู้ที่มีอาการทางจิตได้ โดยมักจะเป็นคนร่อนเร่พเนจรแต่งกายสกปรก ชอบพูดคนเดียว นอนไม่หลับ ทำกิจวัตรผิดแปลก เช่น จากนอนตอนกลางคืนเป็นนอนกลางวัน หวาดระแวงไม่สามารถทำหน้าที่ของตนเองได้ ในการรักษาต้องได้รับยาอย่างต่อเนื่อง เพราะ 90% ของผู้ที่มีอาการรุนแรงเกิดจากการขาดยา.


pageview  1206120    
สำนักงานพัฒนาระบบข้อมูลข่าวสารสุขภาพ Health Information System Development Office (HISO)
ห้อง A3 ชั้น 3 อาคาร 4Plus Buiding เลขที่ 56/22-24 ซอยงามวงศ์วาน 4 ต.บางเขน อ.เมือง จ.นนทบุรี 11000
Tel : 02-5892490-2 Fax : 02-5892493 www.healthinfo.in.th
 
© Health Information System Development Office (HISO) . All Rights Reserved