นพ.สมศักดิ์ อรรฆศิลป์ อธิบดีกรมการแพทย์ เปิดเผยว่า อาหารเสริมและวิตามินสำหรับเส้นผมและผิวหนังเป็นที่นิยมใช้กันมากในปัจจุบัน แต่ส่วนใหญ่ไม่ได้มีหลักฐานทางวิชาการทางคลินิกว่าสามารถช่วยทำให้ผมบางดีขึ้นได้ หรืออาจมีเพียงการทดสอบในสัตว์ทดลองเท่านั้น ไม่ได้มีหลักฐานทางประสิทธิผลและความปลอดภัยในคน ตัวอย่างเช่น วิตามินเอ ยังไม่พบว่ามีหลักฐานทางการศึกษาใดแสดงถึงการรักษาโรคผมร่วงได้ ส่วนวิตามินซีมีส่วนช่วยในด้านสุขภาพและการเจริญของเส้นผมในสัตว์ทดลองแต่ยังไม่มีหลักฐานทางการศึกษาในคน
          ด้าน พญ.มิ่งขวัญ วิชัยดิษฐ ผู้อำนวยการสถาบันโรคผิวหนัง กรมการแพทย์กล่าวว่า การมีวิตามินดีต่ำเป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้ผมร่วงมากขึ้น เช่น โรคผมผลัด,ผมร่วงเป็นหย่อม และโรคผมบางจากกรรมพันธุ์ในเพศหญิง ผู้ป่วยที่มีภาวะผมร่วงและมีระดับวิตามินดีในเลือดต่ำควรรับประทานวิตามินดีเสริม ส่วนผู้ที่รับประทานวิตามินอีมีผมขึ้นมากกว่าผู้ที่ไม่รับประทานแต่ไม่มีความแตกต่างกันในเรื่องน้ำหนักของเส้นผม อย่างไรก็ตาม ควรรอผลการศึกษาที่เก็บรวบรวมข้อมูลมากกว่านี้ ในส่วนของไบโอติน(Biotin) ยังไม่พบรายงานการศึกษาที่แสดงถึงว่าช่วยทำให้ผมขึ้นยกเว้นในผู้ป่วยที่มีภาวะขาดไบโอติน เช่น หญิงตั้งครรภ์ หรือมีภาวะการดูดซึมอาหารผิดปกติ สังกะสีช่วยให้เส้นผมหนามากขึ้น แต่จากการประเมินโดยผู้ป่วย พบว่า ไม่มีความแตกต่างทางคลินิกและภาวะการขาดธาตุเหล็กเป็นสาเหตุของอาการผมร่วงที่พบได้บ่อยที่สุดในผู้หญิง โดยเฉพาะในผู้ที่รับประทานอาหารมังสวิรัติหรือในหญิงที่มีประจำเดือนมาก.