นพ.สุวรรณชัย วัฒนายิ่งเจริญชัย อธิบดีกรมควบคุมโรค กล่าวว่า จากการเฝ้าระวังสถานการณ์โรคไข้หูดับตั้งแต่วันที่ 1 ม.ค.-17 ส.ค.2562 มีรายงานผู้ป่วยทั่วประเทศ 265 รายเสียชีวิต 23 ราย มีจำนวนผู้ป่วยเพิ่มขึ้น 16 รายจากปีที่ผ่านมา ในปีนี้พบผู้ป่วยโรคไข้หูดับ 60 เหตุการณ์เสียชีวิต 20 เหตุการณ์ส่วนใหญ่อายุมากกว่า 65 ปี จังหวัดที่พบผู้ป่วยมากที่สุดคือ อุตรดิตถ์ นครสวรรค์ แพร่ ตามลำดับ และพบในกลุ่มอาชีพรับจ้างมากที่สุด รองลงมากลุ่มเกษตรกรปัจจัยเสี่ยงคือ รับประทานลาบหมูดิบหรือลาบที่มีส่วนผสมของเลือดดิบ รองลงมาการชำแหละหมูสดโดยไม่ใช้อุปกรณ์ป้องกัน
          อธิบดีกรมควบคุมโรคกล่าวอีกว่า ผู้ที่มีความเสี่ยงติดเชื้อโรคไข้หูดับ ได้แก่ ผู้ที่สัมผัสหมูที่ติดโรคโดยตรง เช่น คนเลี้ยง คนทำงานในโรงฆ่าสัตว์และคนที่รับประทานเนื้อหมูดิบ เป็นต้น ส่วนกลุ่มที่เสี่ยงจะมีอาการป่วยรุนแรงหากติดเชื้อ ได้แก่ ผู้ป่วยพิษสุราเรื้อรัง ผู้มีโรคประจำตัว  เช่น เบาหวาน ไต มะเร็ง หัวใจ ฯลฯ วิธีป้องกันโรค คือกินหมูสุกเท่านั้น ควรเลือกซื้อเนื้อหมูที่ไม่มีกลิ่นคาว สีคล้ำ ผู้ที่สัมผัสกับหมูที่ติดโรค ควรสวมรองเท้าบูตยาง สวมถุงมือหากมีบาดแผลต้องปิดแผลให้มิดชิดและล้างมือหลังสัมผัสกับหมูทุกครั้ง หากมีอาการไข้สูง ปวดศีรษะรุนแรง วิงเวียนศีรษะ ทรงตัวไม่ได้ อาเจียน คอแข็ง หูหนวก ท้องเสีย ปวดเมื่อยกล้ามเนื้อ ควรรีบไปพบแพทย์เป็นการด่วน.