HISO - เรื่องเล่าข่าวเด่น

  
   Follow us      
  
หนังสือพิมพ์เดลินิวส์ [ วันที่ 13/03/2555 ]
รับรองพันธุ์ข้าวเหนียวดำพันธุ์ลืมผัว คุณค่าทางโภชนาการสูง และมีกลิ่นหอม

ข้าวเป็นอาหารหลักของคนไทยและยังเป็นสินค้าส่งออกที่สร้างรายได้และชื่อเสียงให้กับประเทศไทยมาอย่างยาวนาน ซึ่งข้าวที่เกษตรกรปลูกมีอยู่ด้วยกันหลายสายพันธุ์ โดยเฉพาะปัจจุบัน กรมการข้าว ได้วิจัยและปรับปรุงพัฒนาสายพันธุ์ข้าวให้มีความเหมาะสมกับสภาพแวดล้อมและเป็นที่ต้องการของตลาดมากขึ้น
          นายชัยฤทธิ์ ดำรงเกียรติ อธิบดีกรมการข้าว กล่าวว่า กรมการข้าวให้ความสำคัญกับเรื่องการปรับปรุงพันธุ์ข้าวและรับรองพันธุ์ข้าวอย่างมาก ซึ่งล่าสุดมีพันธุ์ข้าวที่กรมฯ ได้ปรับปรุงพันธุ์มาเป็นอย่างดีและสามารถรับรองพันธุ์เพื่อขยายผลสู่เกษตรกร ได้แก่ ข้าวเหนียวดำพันธุ์ลืมผัว เป็นพันธุ์ข้าวที่มีความโดดเด่นและคุณลักษณะที่น่าสนใจอย่างมาก
          สำหรับ ข้าวเหนียวดำพันธุ์ลืมผัวนั้น มีคนสนใจมาได้ระยะหนึ่งแล้วโดยเฉพาะชื่อที่โดดเด่น ซึ่งเป็นพันธุ์ข้าวที่ปลูกโดยกลุ่มชาติพันธุ์ชาวม้ง ด้วยลักษณะเด่นของข้าวกล้องเมื่อหุงสุกจะมีกลิ่นหอม สัมผัสเมื่อแรกเคี้ยวจะกรุบ หนึบ ภายในนุ่มเหนียวนนุมเหนยวเมื่อภรรยาชาวม้งหุงจึงรับประทานหมดเพราะอร่อยมากจนลืมเหลือไว้ให้สามี จึงเป็นที่มาของชื่อข้าวพันธุ์ลืมผัวนั่นเอง ทั้งนี้ ศูนย์วิจัยข้าวพิษณุโลก ได้ทำการเก็บข้าวพันธุ์นี้มาทำพันธุ์บริสุทธิ์ครั้งแรกตั้งแต่ปี 2533 และมีการศึกษาวิจัยและปรับปรุงพันธุ์มาอย่างต่อเนื่องจนกระทั่งปีนี้กรมการข้าวมีมติให้เป็นพันธุ์รับรอง เนื่องจากมีคุณลักษณะเด่น โดยเฉพาะคุณค่าทางโภชนาการสูง ทั้ง โอเมกา 3,6,9 แอนโทไซยานิน แกมมา โอไรซานอล วิตามินอี ธาตุเหล็ก แคลเซียม แมงกานีส ที่สำคัญคือเป็นข้าวเหนียวดำพันธุ์เดียวที่มีความหอม ทำให้เป็นที่สนใจของเกษตรกรและผู้ประกอบการจำนวนมาก
          เมื่อประกาศรับรองพันธุ์แล้ว กรมการข้าวได้เตรียมผลิตเมล็ดพันธุ์เพื่อส่งเสริมให้เกษตรกรปลูกในฤดูกาลต่อไปได้ทันที สำหรับพื้นที่ที่เหมาะสมในการปลูกข้าวพันธุ์ลืมผัวนั้น จะอยู่ในพื้นที่ระดับสูงประมาณ 400-800 เมตร จากระดับน้ำทะเล ในปีนี้มีเป้าหมายส่งเสริมในพื้นที่สูง ได้แก่ จังหวัดเชียงราย เพชรบูรณ์ แพร่ และ เลย รวมพื้นที่ 2,000 กว่าไร่ เนื่องจากข้าวพันธุ์นี้มีข้อจำกัดคือเหมาะสมกับพื้นที่สูง และมีความอ่อนแอต่อโรคื่ไหม้ โรคขอบใบแห้ง เพลี้ยกระโดดสีน้ำตาล ดังนั้น จำเป็นต้องคัดเลือกพื้นที่ที่มีความเหมาะสมในการส่งเสริมการปลูกข้าวพันธุ์นี้ เพื่อลดความเสี่ยงที่อาจจะเกิดขึ้นกับผลผลิตของเกษตรกร แต่ก็จะทำการทดลองปลูกในพื้นที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลางไปจนถึงภาคใต้ ควบคู่กันไปเพื่อเปรียบเทียบหาข้อพิสูจน์ว่ามีความแตกต่างกันหรือไม่กับการปลูกพื้นที่สูง โดยเฉพาะคุณค่าทางโภชนาการ
          พร้อมกันนี้ กรมการข้าว จะเดินหน้าในการศึกษาวิจัยเรื่องคุณค่าของข้าวพันธุ์ลืมผัวในการเป็นยารักษาโรค ไม่ว่าจะเป็นสารต่อต้านอนุมูลอิสระหรือโรคต่าง ๆ ให้ชัดเจนยิ่งขึ้น ซึ่งในอนาคตอาจจะบริโภคข้าวพันธุ์นี้เพื่อเป็นยา เพิ่มขึ้นจากการบริโภคเป็นอาหารก็ได้ อย่างไรก็ตาม นอกจากการปรับปรุงและรับรองพันธุ์ข้าวแล้ว กรมฯ ยังมุ่งเน้นที่จะเพิ่มมูลค่าให้กับข้าว โดยส่งเสริมการแปรรูปเป็นผลิตภัณฑ์ต่าง ๆ เพื่อเพิ่มช่องทางการตลาด เช่น ข้าวหนุกงา ซูชิ ข้าวเหนียวมูน ซาลาเปา ชาข้าวคั่ว เครื่องดื่มจากน้ำข้าวกล้องลืมผัว เป็นต้น
          .ด้วยคุณค่าทางโภชนาการที่สูงมาก และเป็นข้าวเหนียวดำที่มีความหอม สีข้าวกล้องเป็นสีม่วงดำ ประกอบกับราคาจำหน่ายที่เกษตรกรขายได้ในขณะนี้ ถ้าเป็นข้าวเปลือกจะอยู่ที่ประมาณ 60 บาทต่อกิโลกรัม ส่วนข้าวกล้องจะอยู่ที่ 60-150 บาทต่อกิโลกรัม (ขึ้นอยู่กับความบริสุทธิ์ของข้าว) จึงเป็นที่สนใจของเกษตรกรและเป็นที่ต้องการของตลาดมากขึ้น.ข้าวเป็นอาหารหลักของคนไทยและยังเป็นสินค้าส่งออกที่สร้างรายได้และชื่อเสียงให้กับประเทศไทยมาอย่างยาวนาน ซึ่งข้าวที่เกษตรกรปลูกมีอยู่ด้วยกันหลายสายพันธุ์ โดยเฉพาะปัจจุบัน กรมการข้าว ได้วิจัยและปรับปรุงพัฒนาสายพันธุ์ข้าวให้มีความเหมาะสมกับสภาพแวดล้อมและเป็นที่ต้องการของตลาดมากขึ้น
          นายชัยฤทธิ์ ดำรงเกียรติ อธิบดีกรมการข้าว กล่าวว่า กรมการข้าวให้ความสำคัญกับเรื่องการปรับปรุงพันธุ์ข้าวและรับรองพันธุ์ข้าวอย่างมาก ซึ่งล่าสุดมีพันธุ์ข้าวที่กรมฯ ได้ปรับปรุงพันธุ์มาเป็นอย่างดีและสามารถรับรองพันธุ์เพื่อขยายผลสู่เกษตรกร ได้แก่ ข้าวเหนียวดำพันธุ์ลืมผัว เป็นพันธุ์ข้าวที่มีความโดดเด่นและคุณลักษณะที่น่าสนใจอย่างมาก
          สำหรับ ข้าวเหนียวดำพันธุ์ลืมผัวนั้น มีคนสนใจมาได้ระยะหนึ่งแล้วโดยเฉพาะชื่อที่โดดเด่น ซึ่งเป็นพันธุ์ข้าวที่ปลูกโดยกลุ่มชาติพันธุ์ชาวม้ง ด้วยลักษณะเด่นของข้าวกล้องเมื่อหุงสุกจะมีกลิ่นหอม สัมผัสเมื่อแรกเคี้ยวจะกรุบ หนึบ ภายในนุ่มเหนียวนนุมเหนยวเมื่อภรรยาชาวม้งหุงจึงรับประทานหมดเพราะอร่อยมากจนลืมเหลือไว้ให้สามี จึงเป็นที่มาของชื่อข้าวพันธุ์ลืมผัวนั่นเอง ทั้งนี้ ศูนย์วิจัยข้าวพิษณุโลก ได้ทำการเก็บข้าวพันธุ์นี้มาทำพันธุ์บริสุทธิ์ครั้งแรกตั้งแต่ปี 2533 และมีการศึกษาวิจัยและปรับปรุงพันธุ์มาอย่างต่อเนื่องจนกระทั่งปีนี้กรมการข้าวมีมติให้เป็นพันธุ์รับรอง เนื่องจากมีคุณลักษณะเด่น โดยเฉพาะคุณค่าทางโภชนาการสูง ทั้ง โอเมกา 3,6,9 แอนโทไซยานิน แกมมา โอไรซานอล วิตามินอี ธาตุเหล็ก แคลเซียม แมงกานีส ที่สำคัญคือเป็นข้าวเหนียวดำพันธุ์เดียวที่มีความหอม ทำให้เป็นที่สนใจของเกษตรกรและผู้ประกอบการจำนวนมาก
          เมื่อประกาศรับรองพันธุ์แล้ว กรมการข้าวได้เตรียมผลิตเมล็ดพันธุ์เพื่อส่งเสริมให้เกษตรกรปลูกในฤดูกาลต่อไปได้ทันที สำหรับพื้นที่ที่เหมาะสมในการปลูกข้าวพันธุ์ลืมผัวนั้น จะอยู่ในพื้นที่ระดับสูงประมาณ 400-800 เมตร จากระดับน้ำทะเล ในปีนี้มีเป้าหมายส่งเสริมในพื้นที่สูง ได้แก่ จังหวัดเชียงราย เพชรบูรณ์ แพร่ และ เลย รวมพื้นที่ 2,000 กว่าไร่ เนื่องจากข้าวพันธุ์นี้มีข้อจำกัดคือเหมาะสมกับพื้นที่สูง และมีความอ่อนแอต่อโรคื่ไหม้ โรคขอบใบแห้ง เพลี้ยกระโดดสีน้ำตาล ดังนั้น จำเป็นต้องคัดเลือกพื้นที่ที่มีความเหมาะสมในการส่งเสริมการปลูกข้าวพันธุ์นี้ เพื่อลดความเสี่ยงที่อาจจะเกิดขึ้นกับผลผลิตของเกษตรกร แต่ก็จะทำการทดลองปลูกในพื้นที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลางไปจนถึงภาคใต้ ควบคู่กันไปเพื่อเปรียบเทียบหาข้อพิสูจน์ว่ามีความแตกต่างกันหรือไม่กับการปลูกพื้นที่สูง โดยเฉพาะคุณค่าทางโภชนาการ
          พร้อมกันนี้ กรมการข้าว จะเดินหน้าในการศึกษาวิจัยเรื่องคุณค่าของข้าวพันธุ์ลืมผัวในการเป็นยารักษาโรค ไม่ว่าจะเป็นสารต่อต้านอนุมูลอิสระหรือโรคต่าง ๆ ให้ชัดเจนยิ่งขึ้น ซึ่งในอนาคตอาจจะบริโภคข้าวพันธุ์นี้เพื่อเป็นยา เพิ่มขึ้นจากการบริโภคเป็นอาหารก็ได้ อย่างไรก็ตาม นอกจากการปรับปรุงและรับรองพันธุ์ข้าวแล้ว กรมฯ ยังมุ่งเน้นที่จะเพิ่มมูลค่าให้กับข้าว โดยส่งเสริมการแปรรูปเป็นผลิตภัณฑ์ต่าง ๆ เพื่อเพิ่มช่องทางการตลาด เช่น ข้าวหนุกงา ซูชิ ข้าวเหนียวมูน ซาลาเปา ชาข้าวคั่ว เครื่องดื่มจากน้ำข้าวกล้องลืมผัว เป็นต้น
          ด้วยคุณค่าทางโภชนาการที่สูงมาก และเป็นข้าวเหนียวดำที่มีความหอม สีข้าวกล้องเป็นสีม่วงดำ ประกอบกับราคาจำหน่ายที่เกษตรกรขายได้ในขณะนี้ ถ้าเป็นข้าวเปลือกจะอยู่ที่ประมาณ 60 บาทต่อกิโลกรัม ส่วนข้าวกล้องจะอยู่ที่ 60-150 บาทต่อกิโลกรัม (ขึ้นอยู่กับความบริสุทธิ์ของข้าว) จึงเป็นที่สนใจของเกษตรกรและเป็นที่ต้องการของตลาดมากขึ้น.


pageview  1205119    
สำนักงานพัฒนาระบบข้อมูลข่าวสารสุขภาพ Health Information System Development Office (HISO)
ห้อง A3 ชั้น 3 อาคาร 4Plus Buiding เลขที่ 56/22-24 ซอยงามวงศ์วาน 4 ต.บางเขน อ.เมือง จ.นนทบุรี 11000
Tel : 02-5892490-2 Fax : 02-5892493 www.healthinfo.in.th
 
© Health Information System Development Office (HISO) . All Rights Reserved