การเปลี่ยนแปลงของธรรมชาติย่อมก่อให้เกิดสภาพอากาศที่ผิดปกติขึ้นทุกขณะ ส่งผลให้เกิดการเจ็บป่วยทั้งจากโรคภัยปัจจุบันและโรคภัยที่เกิดจากเชื้อโรคสายพันธุ์ใหม่ อาทิ เชื้อไวรัสโรต้า ที่เป็นเหตุให้เกิดโรคอุจจาระร่วงรุนแรงโดยเฉพาะในเด็กแรกเกิดถึง 5 ขวบ หากเกิดขึ้นบ่อยครั้งจะส่งผลต่อชีวิตได้ เล็งเห็นว่าปัญหาดังกล่าวเป็นเรื่องสำคัญ และคุณพ่อคุณแม่ที่มีลูกในช่วงวัยที่เสี่ยงต่อการเกิดโรคคงมีคำถามในใจเกิดขึ้นมากมาย รพ.สมิติเวช ศรีนครินทร์ โดย พญ.สุรางคนา เตชะไพฑูรย์ รอง ผอ.รพ.สมิติเวช ศรีนครินทร์ จึงไขข้อข้องใจด้วยการจัดงาน "เออร์ลี่ โพรเทคชั่น" เพื่อให้คุณพ่อคุณแม่สามารถรับมือและปกป้องลูกน้อยให้ห่างไกลจากไวรัสตัวร้ายได้ทันเวลา โดยเชิญ พญ.หทัยทิพย์ ภารดีวิสุทธิ์ กุมารแพทย์ผู้เชี่ยวชาญสาขาทารกแรกเกิดและปริกำเนิด รพ.สมิติเวช ศรีนครินทร์ มาให้ความรู้เกี่ยวกับไวรัสโรต้า เมื่อเร็ว ๆ นี้  ที่ห้องบอลรูม โรงแรมโฟร์ซีซันส์

          พญ.หทัยทิพย์ ภารดีวิสุทธิ์ กล่าวว่า ในแต่ละปีมีเด็กที่ติดเชื้อไวรัสโรต้ากว่า 100 ล้านคนทั่วโลก และเสียชีวิตกว่า 2 แสนคน ส่วนในประเทศไทยมีสถิติติดเชื้อไวรัสกว่า 6 แสนคนต่อปี ซึ่งเชื้อไวรัสโรต้านั้นแม้เป็นเชื้อโรค เล็ก ๆ แต่เป็นภัยอันตรายต่อเด็กเล็กตั้งแต่แรกเกิดถึง 5 ขวบ โดยเฉพาะเด็กอายุ 6 เดือนถึง 2 ขวบ ที่จะเกิดความเสี่ยงต่อการติดเชื้อไวรัสโรต้าสูงมาก เพราะเป็นช่วงวัยของการเรียนรู้ที่อาจหยิบจับของเล่นหรือสิ่งของต่าง ๆ ซึ่งเป็นแหล่งเพาะเชื้อโรคที่จะก่อให้เกิดเป็นไวรัสโรต้าเข้าภายในปากได้ตลอดเวลา

          "อาการของเด็กที่ได้รับเชื้อไวรัสโรต้าสังเกตได้ว่ามีอาการถ่ายเหลวและอาเจียนอย่างหนัก มีไข้ เกิดภาวะการขาดน้ำ ไม่สามารถกินอาหารได้ อาจทำให้ช็อกและเสียชีวิตได้ ถ้าเป็นซ้ำ ๆ อาจเกิดการขาดสารอาหารส่งผลต่อพัฒนาการทางสมอง หรือไอคิวต่ำกว่าเด็กวัยเดียวกันถึง 10 จุด ตลอดจนสภาพร่างกายที่จะทำให้รูปร่างเล็ก มีความสูงต่ำกว่าเด็กทั่วไปถึง 8.2 ซม. ดังนั้นจึงควรมีการป้องกันสร้างภูมิคุ้มกันตั้งแต่แรกเกิดด้วยการให้ลูกดื่มนมแม่ให้ได้มากที่สุด จากนั้นควรให้ลูกน้อยได้รับการหยอดวัคซีนป้องกันไวรัสโรต้า ซึ่งถือเป็นวิธีป้องกันที่ดีที่สุดในปัจจุบัน เพื่อป้องกันและลดความรุนแรงของโรค รวมทั้งควรรักษาสุขอนามัยให้สะอาด" พญ.หทัยทิพย์กล่าว

          ในงานเดียวกันมีคุณแม่มือใหม่ร่วมพูดคุยถึงการเลี้ยงลูก เริ่มที่คุณแม่สาวสวย โอ๋-อภิชญา ไกรฤกษ์ เผยว่า ตอนตั้งท้องน้องทีคนที รู้สึกเครียดกับการเลี้ยงลูกมาก เพราะเป็นลูกคนแรก ดังนั้นความปลอดภัยจึงเป็นสิ่งสำคัญ จึงมีการปรึกษาคุณหมอมาโดยตลอด และพาลูกไปรับวัคซีนตามคำแนะนำ เพื่อให้ลูกได้เรียนรู้สิ่งแวดล้อมรอบข้างได้เต็มที่ นอกจากการดูแลใส่ใจแล้วต้องมีความรักความอบอุ่นจากพ่อแม่ด้วย ลูกน้อยจะได้เติบโตแข็งแรงและมีพัฒนาการอย่างสมบูรณ์

          ส่วน้ำผึ้ง-จารุวรรณ โชติเทวัญ ชีวเกษมสุข  คุณแม่ของน้องญารา-ณัฐภัค ปัจจุบันอายุ 1 ขวบ 9 เดือน ซึ่งได้ส่งให้ไปโรงเรียนแล้ว แต่เป็นระบบที่คุณพ่อหรือคุณแม่ต้องร่วมเรียนด้วย ทำให้ลูกต้องเจอและเล่นกับกลุ่มเพื่อน ๆ ทั้งวัน ส่วนตัวไม่สามารถดูแลได้ตลอดเวลา จึงคิดว่าต้องปลูกฝังวินัยเรื่องสุขลักษณะให้กลายเป็นนิสัย โดยพ่อแม่ต้องทำให้เห็นเป็นตัวอย่าง พร้อมกับสอนลูกในเวลาเดียวกัน อาทิ ก่อนกินข้าวต้องล้างมือ หรือก่อนออกนอกบ้านต้องสวมใส่รองเท้า เป็นต้น.