เมื่อเร็ว ๆ นี้ นพ.วิวรรธน์ ก่อวิริยกมล นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดเลย เปิดเผยว่า ช่วงนี้มะขามหวานที่ จ.เลย เริ่มออกมาสู่ตลาดมากเป็นพิเศษราคาค่อนข้างถูก ทุกกลุ่มอายุนิยมบริโภค โดยเฉพาะผู้สูงวัย สิ่งที่น่าเป็นห่วงมากคือผู้สูงวัยที่ป่วยเป็นโรคเบาหวาน หรือกลุ่มผู้ป่วยเบาหวานทุกวัย ที่นิยมนำมะขามหวานมารับประทานกับข้าวเหนียว ยิ่งจะเป็นการเพิ่มน้ำตาลในเลือดให้สูงมากขึ้น จึงขอเตือนให้ประชาชนรับประทานมะขามหวานไม่ควรเกิน 1-2 ฝักต่อวัน โดยมะขามหวาน 2 ฝัก จะให้พลังงาน 60 กิโลแคลอรี คาร์โบไฮเดรต 15 กรัม
          ทั้งนี้อาหารที่เหมาะสมกับผู้ป่วยเบาหวานคือ อาหารทั่วไปไม่แตกต่างจากอาหารที่รับประทานปกติ แต่เป็นอาหารที่ไม่หวานจัด โดยต้องคำนึงถึงปริมาณ และชนิดของแป้ง และไขมันเป็นสิ่งสำคัญ เพื่อควบคุมระดับน้ำตาล และไขมันในเลือด รวมถึงการรักษาน้ำหนักตัวให้อยู่ในเกณฑ์ปกติ นอกจากนี้ควรรับประทานอาหารให้เป็นเวลาทุกวัน และรับประทานอาหารในปริมาณใกล้เคียงกันในแต่ละวัน โดยเฉพาะปริมาณคาร์โบไฮเดรตโดยรวม ไม่งดอาหารมื้อใดมื้อหนึ่ง ถ้าต้องการลดน้ำหนักให้ลดปริมาณอาหาร แต่ไม่ควรงดอาหาร เพราะจะหิวและรับประทานมื้อถัดไปมาก ส่งผลให้ระดับน้ำตาลในเลือดขึ้น ๆ ลง ๆ หากต้องการลดน้ำหนักให้ปรึกษาแพทย์ที่ดูแล เพราะอาจจะต้องปรับยาเบาหวานด้วย ที่สำคัญควรออกกำลังกายเป็นประจำทุกวันหรือตามที่เจ้าหน้าที่แนะนำ และต้องพบแพทย์หรือเจ้าหน้าที่ตามนัดทุกครั้ง  อย่างไรก็ตามปัจจุบันมีประชาชนเข้ารับการรักษาที่สถานพยาบาลของรัฐเพิ่มมากขึ้น โดยเฉพาะโรคที่สามารถป้องกันได้ด้วยตัวเอง ซึ่งโรคต่าง ๆ ถ้ามีการดูแลเรื่องอาหาร ดูแลสุขภาพโดยการออกกำลังกายเป็นประจำ โอกาสที่จะเกิดโรคก็ยากหรืออาจจะไม่มีเลย สำหรับการป้องกันก็ไม่ยากหากตั้งใจ โดยเฉพาะการปฏิบัติตามหลักสุขบัญญัติแห่งชาติ 10 ประการ เริ่มปลูกฝังเด็กตั้งแต่อยู่ในวัยเรียน เพื่อให้เด็กมีความรู้ ความเข้าใจ และปฏิบัติตนได้อย่างถูกต้อง เหมาะสม ตามวัยเพื่อจะได้เติบโตเป็นผู้ใหญ่ที่มีสุขภาพดี แข็งแรงสมบูรณ์ ถือเป็นการสร้างสุขภาพที่ใช้งบลงทุนน้อย แต่ส่งผลในระยะยาว ดังนั้นจึงเชิญชวนประชาชนได้ปฏิบัติตามหลักสุขบัญญัติแห่งชาติ 10 ประการ ดังนี้ 1. ดูแลรักษาร่างกาย และของใช้ให้สะอาด 2. รักษาฟันให้แข็งแรง และแปรงฟันทุกวันอย่างถูกต้อง 3. ล้างมือให้สะอาดก่อนกินอาหาร และหลังขับถ่าย 4. กินอาหารสุก สะอาด ปราศจากสารอันตราย และหลีกเลี่ยงอาหารรสจัด สีฉูดฉาด 5. งดสูบบุหรี่ สุรา สารเสพติด การพนัน และการสำส่อนทางเพศ
          6. สร้างความสัมพันธ์ในครอบครัวให้อบอุ่น 7. ป้องกันอุบัติภัยด้วยการไม่ประมาท 8. ออกกำลังกายสม่ำเสมอ และตรวจสุขภาพประจำปี  9. ทำจิตใจให้ร่าเริงแจ่มใสอยู่เสมอ  และ 10. มีสำนึกต่อส่วนรวมร่วมสร้างสรรค์สังคม แต่ที่น่าตกใจคือปัจจุบันเจ้าหน้าที่สาธารณสุขทำงานหนัก ไม่ค่อยได้ออกกำลังกาย ทำให้ผลการตรวจสุขภาพประจำปีของเจ้าหน้าที่มีผลคอเลสเตอรอลในเลือดสูงกว่าเกณฑ์ที่กำหนด และมีภาวะอ้วนลงพุงเพิ่มมากขึ้น ดังนั้นจึงมีการส่งเสริมให้เจ้าหน้าที่ได้ออกกำลังกายเพื่อเป็นแบบอย่างให้กับประชาชน และเพื่อสุขภาพของเจ้าหน้าที่เอง โดยจัดกิจกรรมการเต้นแอโรบิก และกีฬาต่าง ๆ ในสถานที่ทำงานให้เจ้าหน้าที่ได้ออกกำลังกายทุกเย็น หากท่านใดสนใจอยากร่วมออกกำลังกายกับเจ้าหน้าที่สาธารณสุขขอเชิญได้ที่สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดเลย ทุกวันราชการ เวลาตั้งแต่ 16.00 น. เป็นต้นไป.