HISO - เรื่องเล่าข่าวเด่น

  
   Follow us      
  
หนังสือพิมพ์เดลินิวส์ [ วันที่ 05/02/2556 ]
ชวนดื่มน้ำเห็ด'หลินจือ'แก้มะเร็ง

เมื่อวันที่ 4 ก.พ. ที่โรงแรมรามาการ์เด้นส์ ถนนวิภาวดีฯ นพ.วิชัย เทียนถาวร ผู้ช่วย รมต.สาธารณสุข กล่าวเปิดงานวันมะเร็งโลก ว่า โรคมะเร็งเป็นปัญหาสาธารณสุขที่สำคัญของทุกประเทศทั่วโลก ก่อให้เกิดความเสียหายทั้งด้านเศรษฐกิจ สังคม และคุณภาพชีวิต และความมั่นคงของประชาชน องค์การอนามัยโลกคาดการณ์ในปี 2573 จะมีผู้เสียชีวิตจากโรคมะเร็ง 11.4 ล้านคน และในจำนวนนี้เกิดในประเทศกำลังพัฒนาถึง 8.9 ล้านคน สำหรับประเทศไทยโรคมะเร็งเป็นสาเหตุการตายอันดับ 1 และมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นตลอดเวลาโดยเฉพาะมะเร็งลำไส้ใหญ่พบสูงขึ้นเรื่อย ๆ
          นพ.ธีรวุฒิ คูหะเปรมะ ผอ.สถาบันมะเร็งแห่งชาติ กรมการแพทย์ กระทรวงสาธารณสุข กล่าวว่า มะเร็งที่พบมากในผู้ชาย 5 อันดับแรกคือ มะเร็งตับ มะเร็งปอด มะเร็งลำไส้ใหญ่ มะเร็งต่อมลูกหมาก และมะเร็งเม็ดเลือดขาว ส่วนมะเร็งที่พบมากในผู้หญิง5 อันดับได้แก่ มะเร็งเต้านม มะเร็งตับ มะเร็งปากมดลูก มะเร็งปอด และมะเร็งลำไส้ใหญ่ทั้งนี้กรณีโรคมะเร็งตับในผู้หญิงไม่ได้เพิ่มขึ้น แต่จำนวนมะเร็งปากมดลูกในผู้หญิงลดลงทั้งผู้ป่วยและผู้เสียชีวิต ซึ่งเป็นผลมาจากการรณรงค์ป้องกันให้มีการตรวจคัดกรองมะเร็ง ปากมดลูกอย่างต่อเนื่อง ทำให้มะเร็งปากมดลูกหล่นไปอยู่อันดับ 3
          ด้าน นพ.สมชัย นิจพานิช อธิบดีกรมพัฒนาการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก กระทรวงสาธารณสุข กล่าวว่า กรมพัฒนาการแพทย์ฯ ร่วมกับ 11 ภาคีดำเนินการศึกษาวิจัยเห็ดหลินจือและสปอร์เห็ดหลินจือในประเทศไทยที่มีผลต่อต้านมะเร็ง โดยพบว่าเห็ดหลินจือมีสารกลุ่มโพลีแซ็กคาไรด์ ออกฤทธิ์เสริมภูมิคุ้มกัน ช่วยให้จิตสงบ เป็นยาระบายอ่อน ๆ และสารกลุ่มไทรเทอร์ปีน มี ฤทธิ์ยับยั้งเซลล์มะเร็ง ซึ่งพบมากในส่วนสปอร์ นอกจากนี้ยังพบว่าสารสกัดดอกเห็ดและสปอร์มีฤทธิ์กระตุ้นภูมิคุ้มกันได้ดี ไม่เป็นพิษต่อเซลล์ปกติที่ไม่ใช่มะเร็ง ซึ่งขณะนี้คณะแพทยศาสตร์ มช. อยู่ระหว่างการรอผลการวิจัยทางคลินิกถึงประสิทธิผลของเห็ดหลินจือและสปอร์ คาดว่าจะเสร็จสิ้นในเร็ว ๆ นี้
          "การใช้เห็ดหลินจือกับผู้ป่วยโรคมะเร็งในประเทศไทย เน้นด้านการส่งเสริมสุขภาพเป็นหลัก เช่น การใช้เห็ดหลินจือต้มดื่มแทนน้ำประชาชนสามารถทำได้เอง โดยใช้ดอกเห็ดหลินจือฝานบาง ๆ ประมาณ 2-3 ชิ้น ต้มใน น้ำเดือดนาน 10-15 นาที ใช้ดื่มแทนน้ำได้ตลอดเวลา ให้รสขมบ้างเล็กน้อย สรรพคุณ ช่วยให้สดชื่น เสริมภูมิต้านทาน ไม่เกิดอันตราย ต่อสุขภาพ" นพ.สมชัย กล่าว.


pageview  1205882    
สำนักงานพัฒนาระบบข้อมูลข่าวสารสุขภาพ Health Information System Development Office (HISO)
ห้อง A3 ชั้น 3 อาคาร 4Plus Buiding เลขที่ 56/22-24 ซอยงามวงศ์วาน 4 ต.บางเขน อ.เมือง จ.นนทบุรี 11000
Tel : 02-5892490-2 Fax : 02-5892493 www.healthinfo.in.th
 
© Health Information System Development Office (HISO) . All Rights Reserved