นายแพทย์ภาณุมาศ ญาณเวทย์สกุล ผู้อำนวยการสำนักงานป้องกันควบคุมโรคที่ 11 (สคร. 11) จังหวัดนครศรีธรรมราช เปิดเผยว่า สถานการณ์โรคมาลาเรียในพื้นที่รับผิดชอบ 7 จังหวัดภาคใต้ตอนบนพบผู้ป่วย ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2555-31 ธันวาคม 2555 จำนวน 2,887 ราย เสียชีวิต 1 ราย จังหวัดที่อัตราการป่วยสูงสุด คือ จังหวัดระนอง รองลงมาคือ จังหวัดชุมพร สำหรับสถานการณ์ในปี 2556 ตั้งแต่วันที่ 1-12 มกราคม พบผู้ป่วยแล้วจำนวน 25 ราย ไม่มีรายงานผู้ป่วยเสียชีวิต จังหวัดที่พบอัตราป่วยสูงสุดคือ จังหวัดสุราษฎร์ธานี รองลงมาคือ จังหวัดระนอง
          โรคมาลาเรียเป็นโรคติดต่อที่มียุงก้นปล่องเป็นพาหะนำโรค ส่วนมากพบในจังหวัดชายแดนประเทศไทยที่มีบริเวณเป็นภูเขาสูง ป่าทึบ สวนยางพารา แหล่งน้ำธรรมชาติหรือเขาชัน มีลำธาร โดยยุงก้นปล่องจะกัดชาวบ้านหรือผู้ที่มีเชื้อมาลาเรียอยู่ในกระแสเลือด ทำให้เชื้อเข้าไปเจริญเติบโตในตัวยุง และเมื่อยุงมากัดคนต่อไปเชื้อมาลาเรียจะเดินทางจากยุงเข้าสู่กระแสเลือดของผู้ถูกยุงกัดทันที ดังนั้นใครมีอาการ ขอให้รีบไปพบแพทย์ได้ที่สถานพยาบาลใกล้บ้าน เพื่อเจาะเลือดตรวจหาเชื้อมาลาเรีย และต้องแจ้งประวัติการเข้าป่าหรือไปบริเวณพื้นที่เสี่ยงให้แพทย์ทราบด้วย เพื่อให้การรักษาที่ถูกต้องและรวดเร็วเพราะหากช้าอาจมีอาการ แทรกซ้อนร้ายแรงทำให้เสียชีวิตได้
          ด้าน นพ.ภาณุมาศ แนะนำประชาชนที่เป็นเจ้าของสวนยางพารา และนำแรงงานต่างด้าวหรือแรงงานแปลกหน้าเข้ามากรีดยางหรือทำงานอื่น ๆ ขอให้พาแรงงานเหล่านั้นไปรับการเจาะเลือดตรวจหาเชื้อมาลาเรียก่อน เพื่อป้องกันตนเองและคนในสังคม เพราะโรคมาลาเรียสามารถรักษาให้หายขาดได้ โดยการกินยาจนครบ ส่วนวิธีการป้องกันทำได้โดยการนอนกางมุ้งและป้องกันไม่ให้ยุงกัด เช่น การสวมเสื้อปกปิดร่างกายให้มิดชิด การใช้ยาทากันยุงหรือยาจุดกันยุง และที่สำคัญเมื่อมีอาการครั่นเนื้อครั่นตัว ปวดหัว มีไข้ อย่ารอ ต้องรีบไปเจาะเลือดตรวจหาเชื้อและขอให้กินยาจนครบถ้วนเพื่อป้องกันเชื้อดื้อยา.