เมื่อวันที่ 25 ธ.ค. นพ.วชิระ เพ็งจันทร์ อธิบดีกรมสุขภาพจิต กระทรวงสาธารณสุข กล่าวภายหลังลงพื้นที่ติดตาม "8 ปีสึนามิ เด็กกับผลกระทบด้านจิตใจ" ที่บ้านคุณพุ่ม จ.ภูเก็ต ว่า จากโศกนาฏกรรมคลื่นยักษ์สึนามิ เมื่อวันที่ 26 ธ.ค.2547 ความสูญเสียที่เกิดในประเทศไทยครอบคลุมพื้นที่ 6 จังหวัด ได้แก่ ภูเก็ต พังงา ระนอง กระบี่ ตรัง และสตูล แม้เหตุการณ์จะผ่านพ้นไปแล้ว 8 ปี แต่ความเสียหายที่เกิดแก่ชีวิตและทรัพย์สินของผู้คนยังคงไม่ลบเลือนไปจากความทรงจำของหลายคน ทั้งที่ประสบด้วยตนเองและที่รับรู้จากข่าวสารผ่านสื่อต่าง ๆ โดยเฉพาะเด็กและเยาวชนจำนวนมากที่ยังไม่ลืมเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ทั้งนี้ ในประเทศไทยเด็กกว่า 1,400 คน ต้องกลายเป็นเด็กกำพร้า ในขณะที่อีกกว่า5 หมื่นคน สูญเสียครูอันเป็นที่รัก หรือโรงเรียนได้รับความเสียหาย ซึ่งเป็นกลุ่มผู้ได้รับผลกระทบที่ต้องได้รับการดูแลฟื้นฟูจิตใจอย่างต่อเนื่อง

อธิบดีกรมสุขภาพจิต กล่าวต่อว่า จากการติดตามเด็กที่เกิดในเหตุการณ์สึนามิตั้งแต่แรกคลอดถึง 3 ขวบ ใน จ.พังงา กระบี่ และภูเก็ต ในปี 2555 จำนวน 157 คน พบว่า เวลาผ่านไป 8 ปี เด็กกลุ่มนี้เจริญเติบโตขึ้น มีอายุอยู่ในช่วง 7-9 ปี เมื่อดูระดับสติปัญญา (ไอคิว)เด็กที่ จ.พังงา มีระดับสติปัญญาทึบ 40% จ.กระบี่ระดับสติปัญญาทึบ 34.3% และ จ.ภูเก็ต ระดับสติปัญญาทึบ 34.4% ส่วนความฉลาดทางอารมณ์ของเด็กทั้ง 3 จังหวัดอยู่ในเกณฑ์ปกติผลจากการติดตามดังกล่าววิเคราะห์ว่า เด็กที่เกิดในสภาพแวดล้อมครอบครัว ชุมชน สังคมไม่ปกติ โดยเฉพาะพ่อแม่ พี่น้อง คนในครอบครัวสูญเสียชีวิต สภาพแวดล้อมไม่เหมาะสม อาจส่งผลให้เด็กมีสติปัญญาทึบ คือ ไอคิวต่ำกว่า 100 และค่อนไปทาง 70 โดยไอคิวเด็กไทยเฉลี่ยอยู่ที่ 98-99 ดังนั้นเด็กที่สติปัญญาทึบคงต้องเข้าไปส่งเสริมทั้งในครอบครัว และโรงเรียนต่อไป.