HISO - เรื่องเล่าข่าวเด่น

  
   Follow us      
  
หนังสือพิมพ์เดลินิวส์ [ วันที่ 14/11/2555 ]
ฉีดมังกรมะเร็งกินตัดเหี้ยนยกยวงพวงสวรรค์ สังเวยผลงานชุ่ยหมอเถื่อนแฉลามก้อนโตเท่ามะพร้าว

สุดสยอง หนุ่มใหญ่วัย 50 อยากมีมังกรอลังการ ดอดไปฉีดน้ำมันมะกอกขยายขนาดใหญ่สมใจ สุดท้ายหลัง 5 ปี เริ่มเน่า เจ้าตัวอายไม่กล้าไปหาหมอ สุดท้ายเป็นแผลเรื้อรังส่งกลิ่นเหม็นเน่าเจ็บปวดจนทนไม่ไหว โร่เข้าโรงพยาบาล ตรวจพบกลายเป็นมะเร็งก้อนเท่าลูกมะพร้าว ทีมแพทย์ รพ.ตร.ต้องผ่าตัดทิ้งทั้งยวง เป็นตาลยอดด้วน
          อุทาหรณ์สำหรับชายหนุ่มที่อยากมีอวัยวะเพศใหญ่โตเกินความจำเป็น โดยแอบไปฉีดน้ำมันมะกอกกับคลินิกเถื่อนก่อนลุกลามเป็นมะเร็ง จนต้องตัดเจ้าโลกทิ้ง เปิดเผยขึ้นเมื่อเวลา 15.15 น. วันที่ 12 พ.ย. ผู้สื่อข่าวได้รับรายงานว่า มีคนไข้มารักษาอยู่ที่ รพ.ตำรวจ หลังจากไปฉีดน้ำมันมะกอกที่อวัยวะเพศ ที่คลินิกเถื่อน ต่อมากลายเป็นแผลเน่าจนลุกลามเป็นมะเร็ง จึงไปตรวจสอบพบ นายเชน (นามสมมุติ) อายุ 50 ปี  เหยื่อรายดังกล่าวนอนพักรักษาตัวใน รพ.ตำรวจ ภายหลังจากการผ่าตัดเมื่อวันที่ 7 พ.ย. ที่ผ่านมา จากการสอบถามแพทย์เจ้าของไข้ ร.ต.อ.สุรัติ กิตติศุภพร นพ. (สบ 2) สำนักงานศัลยกรรม รพ.ตำรวจ เปิดเผยว่า ได้รับมอบหมายจากผู้อำนวยการโรงพยาบาลตำรวจให้รักษาคนไข้ ซึ่งก่อนหน้านี้ได้ไปฉีดน้ำมันมะกอกเข้าที่อวัยวะเพศกับเพื่อนอีก 4 คน  เมื่อ 5 ปีที่ผ่านมา ที่คลินิกเถื่อนแห่งหนึ่งเพียงเพื่อต้องการให้ขนาดของอวัยวะเพศใหญ่ขึ้นสมชายชาตรี
          ร.ต.อ.สุรัติ กล่าวต่อว่า ในช่วง 5 ปีที่ผ่านมาอวัยวะเพศก็ยังคงใช้งานได้ดี จนกระทั่งช่วง 6 เดือนก่อน เริ่มมีแผลเรื้อรังที่บริเวณหนังขององคชาตและลุกลามใหญ่ขึ้นอย่างต่อเนื่อง แต่ในตอนนั้นไม่ได้รักษาเนื่อง จากเกิดความอับอายไม่กล้าไปหาหมอ สุดท้ายทนไม่ไหวเนื่องจากแผลเริ่มใหญ่ขึ้นและส่งกลิ่นเหม็นเน่า จึงได้ไปรักษาที่รพ.เอกชนแห่งหนึ่ง ทางแพทย์ได้ทำการผ่าตัดเอาหนังหุ้ม ออกปรากฏว่าภายในมีเนื้องอกขนาดใหญ่อยู่ แพทย์จึงแนะนำคนไข้ให้ไปรักษาที่ รพ.ของรัฐเนื่องจากมีค่ารักษาพยาบาลน้อยกว่าจึงได้ส่ง ตัวมารักษาต่อที่ รพ.ตำรวจ โดยเบื้องต้นทางแพทย์ได้ประเมินจากแผลที่เรื้อรังดังกล่าวว่าเป็นมะเร็งที่มีขนาดใหญ่มาก กินบริเวณไปถึงหน้าท้องส่วนล่างจนไปถึงถุงอัณฑะส่วน ล่างประมาณลูกมะพร้าว 1 ลูก ประกอบกับบาดแผลส่งกลิ่นเหม็นมาก ทางแพทย์จึงลงความเห็นให้ทำการผ่าตัดชิ้นเนื้อส่วนที่เป็นแผลออกทั้งหมด
          ร.ต.อ.สุรัติ กล่าวต่ออีกว่า ส่วนท่อปัสสาวะ ทางแพทย์ได้ทำการผ่าตัดย้ายไปไว้ที่ทวาร ซึ่งสามารถกลั้นปัสสาวะได้ และใช้ชีวิตได้ตามปกติ เบื้องต้นทางแพทย์จะต้องตรวจสอบชิ้นเนื้อบริเวณใกล้เคียงบาดแผลเพิ่มเติมว่ามีเชื้อมะเร็งที่จะเรื้อรังอีกหรือไม่ อย่างไรก็ตามยังเป็นไปได้สูงที่เชื้อมะเร็งจะลุกลามได้ ทั้งนี้สาเหตุของการเกิดกรณีดังกล่าว เนื่องจากคนไข้ไปฉีดน้ำมันมะกอกเข้าใต้ผิวหนังของอวัยวะเพศแล้วกลายเป็นพังผืดเกาะอยู่ด้านในทำให้เกิดการเรื้อรัง จึงทำให้คนไข้มองไม่เห็น พอมาทราบว่าเป็นมะเร็งก็สายไปเสียแล้ว อย่างไรก็ตามอยากจะฝากไปถึงบรรดาผู้ชายที่คิดจะไปฉีดน้ำมันมะกอกเข้าไปในอวัยวะเพศเพื่อให้ขนาดใหญ่ขึ้นเป็นสิ่งที่ผิดและอันตรายมาก การฉีดเข้าไปทำให้ไม่สามารถรับรู้อารมณ์ทางเพศอีกด้วย อีกทั้งควรที่จะทำความเข้าใจเกี่ยวกับเรื่องเพศสัมพันธ์เสียใหม่ว่าควรทำอย่างไรฝ่ายหญิงถึงจะพึงพอใจ ซึ่งเรื่องของขนาดอาจไม่ใช่สิ่งที่ฝ่ายหญิงพึงพอใจเสมอไป
          ด้าน พ.อ.(พิเศษ) นพ.พูนเกียรติ เรืองโภคา นายทหารปฏิบัติราชการพิเศษ กรมแพทย์ทหารบก ช่วยราชการกองศัลยกรรม รพ.พระมงกุฎเกล้า กล่าวว่า การฉีดอวัยวะเพศใหม่ ๆ อาจจะยังไม่เกิดปัญหาอะไร แต่ไม่ได้รับประกันว่าจะไม่มีปัญหา เพราะร่างกายจะต่อต้านสิ่งแปลกปลอม โดยบริเวณผิวหนังมีเส้นเลือดไปหล่อเลี้ยง สารแปลกปลอมก็ขวางกั้นสร้างพังผืด หนา แข็ง รูดหนังหุ้มปลายก็ไม่ได้ หมักหมมความสกปรก เวลาใช้งานอาจเกิดบาดแผล ถ้าบาดแผลมีเลือดมาเลี้ยงก็สามารถหายได้ แต่ถ้าเลือดมาเลี้ยงไม่ได้ เพราะมีพังผืด แผลจะอักเสบเรื้อรัง ติดเชื้อ บางคนฉีดไปแล้วดูจากอวัยวะเพศภายนอกอาจเหมือนไม่เป็นอะไร แต่ข้างในจะมีปัญหามาก โดยเฉพาะถ้าฉีดแบบสกปรกอาจทำให้เกิดการอักเสบตั้งแต่ต้น อยากบอกว่า ฉีดสารแปลกปลอมเข้าไปแล้ว อวัยวะเพศดูเหมือนแข็งก็จริงแต่เป็นการแข็งที่ผิดธรรมชาติ แข็งจากสารที่ฉีดเข้าไป เวลามีเซ็กซ์อาจเกิดแผลได้ง่าย ถ้าคนไข้ใช้สิทธิประกันสังคม จะเบิกค่ารักษาพยาบาลไม่ได้ เพราะเป็นการทำศัลยกรรมตกแต่งอวัยวะเพศ.
 


pageview  1205525    
สำนักงานพัฒนาระบบข้อมูลข่าวสารสุขภาพ Health Information System Development Office (HISO)
ห้อง A3 ชั้น 3 อาคาร 4Plus Buiding เลขที่ 56/22-24 ซอยงามวงศ์วาน 4 ต.บางเขน อ.เมือง จ.นนทบุรี 11000
Tel : 02-5892490-2 Fax : 02-5892493 www.healthinfo.in.th
 
© Health Information System Development Office (HISO) . All Rights Reserved