HISO - เรื่องเล่าข่าวเด่น

  
   Follow us      
  
หนังสือพิมพ์เดลินิวส์ [ วันที่ 18/09/2555 ]
เฝ้าระวังโรคไข้หวัดนกในพื้นที่เสี่ยงทั่วประเทศ

 จากสถานการณ์การระบาดของโรคไข้หวัดนก ตั้งแต่ต้นปีในประเทศเพื่อนบ้าน ที่มีการระบาดอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะประเทศเวียดนามที่มากกว่า 40 ครั้ง และได้ทำลายสัตว์ปีกไปกว่า 1.8 แสนตัวแล้วนั้น สร้างความกังวลให้กับประเทศไทยไม่น้อย ดังนั้น เพื่อเป็นการเฝ้าระวังและป้องกันไม่ให้เกิดการระบาด กรมปศุสัตว์ จึงได้คุมเข้มพื้นที่เสี่ยงทั่วประเทศนายสัตวแพทย์ทฤษดี ชาวสวนเจริญ อธิบดีกรมปศุสัตว์ กล่าวว่าตามที่กรมสุขภาพสัตว์ กระทรวงพัฒนาการเกษตรและชนบท ประเทศเวียดนามแจ้งการพบเชื้อไข้หวัดนก H5N1 ที่มีสายพันธุ์แตกต่างจากเชื้อที่พบในปี พ.ศ. 2554 ทำให้มีความเสี่ยงจะเกิดการระบาดที่รุนแรงขึ้น อย่างไรก็ตาม ความเสี่ยงของโรคไข้หวัดนกสายพันธุ์ที่ระบาดอยู่ในเวียดนาม อาจมีโอกาสแพร่ระบาดมายังประเทศไทยได้ทางนกอพยพหรือนกธรรมชาติที่บินเข้ามาสู่ประเทศไทย และการลักลอบนำสัตว์ปีกเข้ามาตามบริเวณแนวชายแดนผ่านทางประเทศเพื่อนบ้าน
          ดังนั้น กรมปศุสัตว์ จึงได้ร่วมกับกรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่า และพันธุ์พืช ในการให้เจ้าหน้าที่เข้าตรวจสอบและเก็บตัวอย่างอุจจาระและซากของนกอพยพและนกธรรมชาติในแหล่งที่นกอาศัยอยู่ทั่วประเทศ หากพบว่ามีนกตายผิดปกติ หรือพบเชื้อโรคไข้หวัดนกจะเข้าควบคุมโรคในพื้นที่ทันที นอกจากนี้ ยังได้สั่งการให้ด่านกักสัตว์ตามแนวชายแดนทุกด่านร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งทหาร ตำรวจ ศุลกากร เข้มงวดตรวจสอบบุคคลเข้าออกต้องไม่มีการนำสัตว์ปีกเข้ามาในประเทศ พร้อมทั้งพ่นน้ำยาฆ่าเชื้อโรคยานพาหนะเข้า-ออก ทั้งรถยนต์ รถจักรยานยนต์ เรือ รถเข็น ตลอดจนบุคคลที่เดินเท้าเข้ามา หากพบการกระทำผิดจะจับกุมดำเนินคดีและทำลายสัตว์ปีกหรือซากสัตว์ปีกทันที
          ที่ผ่านมากรมปศุสัตว์ได้ดำเนินการเฝ้าระวังและป้องกันโรคไข้หวัดนกอย่างเข้มงวดอยู่แล้ว เช่น กำหนดให้มีการรณรงค์ค้นหาโรคไข้หวัดนกแบบบูรณาการ ปีละ 2 ครั้ง ในเดือนมกราคม และกรกฎาคม ร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในพื้นที่ ทั้งหน่วยงานจากกระทรวงสาธารณสุข กระทรวงมหาดไทย องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ในการลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมเกษตรกรผู้เลี้ยงสัตว์ปีกทุกครัวเรือน พร้อมทั้งสุ่มเก็บตัวอย่างอุจจาระสัตว์ปีก (cloacal swab) ส่งตรวจทางห้องปฏิบัติการ อีกทั้งยังกำหนดให้มีการทำความสะอาดและพ่นยาฆ่าเชื้อโรคในพื้นที่เสี่ยงปีละ 4 ครั้ง โดยเน้นพื้นที่ที่มีสัตว์ปีกป่วยตาย พื้นที่ที่มีนกอพยพ นกธรรมชาติอาศัยอยู่ พื้นที่ตามแนวชายแดน โรงฆ่าสัตว์ปีก เป็นต้น
          นอกจากนี้ยังควบคุมการเคลื่อนย้ายสัตว์ปีก และซากสัตว์ปีกระหว่างจังหวัดและระหว่างโซน ซึ่งปัจจุบันมีการแบ่งพื้นที่การควบคุมเป็น 5 โซน มีจุดตรวจสอบการเคลื่อนย้ายระหว่างโซน 32 จุด มีการพัฒนาการเลี้ยงสัตว์ปีกในรูปแบบฟาร์มปิดและฟาร์มมาตรฐาน ฟาร์มคอมพาร์ตเมนต์ ซึ่งจะสามารถป้องกันโรคไข้หวัดนกเข้าสู่ฟาร์มได้อย่างมีประสิทธิภาพ พร้อมทั้งปรับระบบการเลี้ยงไก่พื้นเมืองและสัตว์ปีกที่เลี้ยงแบบหลังบ้าน (backyard) ให้มีเล้าหรือโรงเรือนที่สามารถป้องกันแดด ลม ฝน และพาหะนำเชื้อโรคระบาดได้ มีการขึ้นทะเบียนเป็ดไล่ทุ่งและจำกัดพื้นที่การเลี้ยงให้อยู่ภายในตำบลหรืออำเภอเดียว โดยมีการสุ่มเก็บตัวอย่างอุจจาระตรวจทุกฝูง ปีละ 2 ครั้ง และส่งเสริมให้มีการเลี้ยงเป็นระบบฟาร์ม นอกจากนั้นยังได้มีการประสานกับกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่าและพันธุ์พืชในการเฝ้าระวังโรคไข้หวัดนกในนกอพยพและนกธรรมชาติ และเก็บตัวอย่างอุจจาระ ซาก ส่งตรวจทางห้องปฏิบัติการ พร้อมทั้งฉีดพ่นน้ำยาฆ่าเชื้อโรคในแหล่งสร้างรังวางไข่ (colony) ปีละ 4 ครั้ง ตลอดจนมีการสำรวจเส้นทางบินของนกเพื่อเป็นประโยชน์ในการวางแผนเฝ้าระวังโรค และประสานงานกับประเทศเพื่อนบ้านอย่างใกล้ชิดในการเฝ้าระวังโรคไข้หวัดนกร่วมกัน
          "หลายท่านอาจกังวลว่าจะเกิดการระบาดของโรคไข้หวัดนกหวนคืนมาในประเทศไทยอีกครั้ง ก็ขอให้สบายใจได้ เพราะเรามีมาตรการควบคุมและป้องกันโรคไข้หวัดนกอย่างมีประสิทธิภาพ ตลอดจนกรมปศุสัตว์จะเฝ้าระวังและติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด" อธิบดีกรมปศุสัตว์ ยืนยัน.
 


pageview  1206114    
สำนักงานพัฒนาระบบข้อมูลข่าวสารสุขภาพ Health Information System Development Office (HISO)
ห้อง A3 ชั้น 3 อาคาร 4Plus Buiding เลขที่ 56/22-24 ซอยงามวงศ์วาน 4 ต.บางเขน อ.เมือง จ.นนทบุรี 11000
Tel : 02-5892490-2 Fax : 02-5892493 www.healthinfo.in.th
 
© Health Information System Development Office (HISO) . All Rights Reserved