HISO - เรื่องเล่าข่าวเด่น

  
   Follow us      
  
หนังสือพิมพ์เดลินิวส์ [ วันที่ 13/09/2555 ]
รักวัวให้ผูก รักลูกให้สวมหมวก

 ไฟเหลืองfailuang@dailynews.co.th
          คุณสุรสิทธิ์ ศิลปะงาม ผู้จัดการชมรมคนห่วงหัวในมูลนิธิเมาไม่ขับ  ส่งบทความรักวัวให้ผูก รักลูกให้สวมหมวกกันน็อก มาให้ พิจารณาครับ
          สุภาษิตไทยที่ว่ารักวัวให้ผูก รักลูกให้ตี กำลังเป็นที่ถกเถียงกันในแวดวงการศึกษาของไทย โดยเฉพาะการที่มีผู้เสนอให้เปลี่ยนมาเป็น รักวัวให้ผูก รักลูกให้กอด หลังจากเปิดประเด็นนี้ขึ้นในสังคม มีทั้งผู้เห็นด้วย ผู้ไม่เห็นด้วย คนในยุคย้อนหลังไป 4-5 ทศวรรษที่แล้ว ซึ่งผ่านระบบทำผิดต้องถูกครูตี พ่อแม่ตี ไม่เห็นด้วยเพราะส่วนใหญ่ยังเชื่อว่าถ้าเด็กทำผิด ควรได้รับการลงโทษจะได้หลาบจำ ขณะที่คนรุ่นใหม่ เห็นว่าการตีจะสร้างความกดดัน ความก้าวร้าว ความรุนแรงให้เด็ก
          แต่ปัจจุบันเด็กไทยกำลังประสบก็คือการขาดเหตุผล เห็นแก่ตัว อารมณ์รุนแรง อยากสวย อยากรวย ไม่อดทน มีอาจารย์ท่านหนึ่งสอนหนังสือในมหาวิทยาลัย เล่าให้ฟังว่า เคยถามนักศึกษาชั้นปีที่ 2 ที่สอนอยู่ว่า ถ้าวันนี้สภามหาวิทยาลัยอนุมัติให้พวกเธอสำเร็จเป็นบัณฑิตโดยไม่ต้องเรียนอีก 2 ปี พวกเธอจะยอมรับได้หรือไม่ คำตอบของนักศึกษาในชั้นเรียนเกือบ 100% ยอมรับและเห็นว่าเป็นสิ่งดีที่จะได้เรียนจบไว ๆ ไม่ต้องเหนื่อย ไม่ต้องเสียเวลาเรียนไปอีกตั้ง  2 ปี
          ขณะที่อาจารย์คนดังกล่าวมีโอกาสไปสอนนักศึกษาในมหาวิทยาลัยที่เวียดนาม ได้ถามคำถามเดียวกันกับนักศึกษาเวียดนาม คำตอบของนักศึกษาเวียดนามทั้ง 100% คือไม่สามารถยอมรับได้ เพราะเชื่อว่าเวลา 2 ปีที่หายไปจะทำให้พื้นฐานทางด้านการเรียนไม่แน่นพอที่จะไปทำงานได้
          ตัวอย่างข้างต้นเป็นมุมสะท้อนปัญหาหนึ่งของเยาวชนไทย ซึ่งในความเป็นจริงแล้วมีปัญหาอีกมากมาย ไม่ต้องดูอื่นไกล เฉพาะแค่เรื่องการสวมหมวกกันน็อกเมื่อต้องขับขี่และซ้อนท้ายรถจักรยานยนต์ มีคนไทยสวมหมวกกันน็อกทั้งประเทศ ร้อยละ 46 ขณะที่ประเทศเวียดนามสวมหมวกกันน็อก ร้อยละ 98 ในกลุ่มเด็กและเยาวชน สวมหมวกกันน็อกทั่วประเทศ ร้อยละ 5 ขณะที่เด็กเวียดนามสวมร้อยละ 99.7
          สังคมไทยเรากำลังมีปัญหามากมายไหน ๆ ก็มีผู้เสนอให้เปลี่ยนสุภาษิตจากรักวัวให้ผูก รักลูกให้ตี มาเป็นรักวัวให้ผูก รักลูกให้กอด ชมรมคนห่วงหัวในมูลนิธิเมาไม่ขับก็ขอเสนอเปลี่ยนบ้าง จากรักวัวให้ผูก รักลูกให้ตี มาเป็นรักวัวให้ผูก รักลูกให้สวมหมวกกันน็อก เพราะถ้าถึงแม้ว่าท่านจะเลี้ยงลูกให้เก่ง ให้ฉลาดซักเพียงใด แต่ถ้าท่านไม่ปกป้องเขา ขับขี่รถจักรยานยนต์ตัวท่านมีหมวกกันน็อกสวมใส่ เพราะกลัวตำรวจจับ แต่ลูกท่านไม่มีหมวกกันน็อกสวมใส่ เพราะท่านคิดว่าตำรวจไม่จับเด็ก แต่เมื่อเกิดอุบัติเหตุ คนที่บาดเจ็บ ตาย พิการก่อนคือลูกหลานของท่านเอง
          จึงขอวิงวอนผู้ปกครอง รักวัวให้ผูก รักลูกให้สวมหมวกกันน็อก เพื่อความปลอดภัยของลูกหลานเองเถอะครับ.
 


pageview  1206115    
สำนักงานพัฒนาระบบข้อมูลข่าวสารสุขภาพ Health Information System Development Office (HISO)
ห้อง A3 ชั้น 3 อาคาร 4Plus Buiding เลขที่ 56/22-24 ซอยงามวงศ์วาน 4 ต.บางเขน อ.เมือง จ.นนทบุรี 11000
Tel : 02-5892490-2 Fax : 02-5892493 www.healthinfo.in.th
 
© Health Information System Development Office (HISO) . All Rights Reserved