จากอุบัติการณ์การเกิดโรคมะเร็งเต้านมของผู้หญิงไทย ที่กระทรวงสาธารณสุขศึกษาวิจัยพบว่า ในปี 2553 ที่ผ่านมา พบผู้ป่วยมะเร็งเต้านมรายใหม่ 13,154 ราย และเสียชีวิตไปแล้วประมาณ 4,665 ราย หรือในทุก 2 ชั่วโมง มีผู้เสียชีวิตด้วยมะเร็งเต้านม 1 คน และมีแนวโน้มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง เพราะผู้หญิงไทยส่วนใหญ่ขาดความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับการป้องกันมะเร็งเต้านม ประกอบกับค่าใช้จ่ายในการตรวจสูงมาก ทำให้คนยากไร้ไม่ได้รับโอกาสอย่างทั่วถึง ด้วยเหตุนี้ กระทรวงสาธารณสุข ร่วมกับ มูลนิธิกาญจนบารมี ซึ่งได้รับพระราชานุญาตจากสมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร ในฐานะทรงเป็นองค์ประธานมูลนิธิกาญจนบารมี จัดทำ"โครงการคัดกรองมะเร็งเต้านมโดยเครื่องเอกซเรย์เต้านม (แมมโมกราฟี) ในสตรีกลุ่มเสี่ยงและด้อยโอกาส เฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร ในโอกาสที่ทรงเจริญพระชนมายุครบ 5 รอบ 28 ก.ค. 2555" เพื่อกระตุ้นให้ประชาชนตื่นตัวในการป้องกันมะเร็งเต้านม ให้ความรู้เกี่ยวกับการดูแลสุขภาพ และสอนการตรวจมะเร็งเต้านมด้วยตัวเอง
          ในงานเปิดตัวโครงการไปเมื่อเร็ว ๆ นี้ ณ ลานดิสคัฟเวอรี่ พลาซ่า ศูนย์การค้าสยามดิสคัฟเวอรี่เซ็นเตอร์ นพ.สุรวิทย์ คนสมบูรณ์ รมช.สาธารณสุข ให้ความรู้ว่า การเกิดมะเร็งเต้านมในสตรีไทยยังไม่ทราบสาเหตุที่แน่ชัด แต่พบว่ามีปัจจัยเสี่ยงคือกลุ่มสตรีที่มีกินอาหารที่มีไขมันสูง ไม่กินผักผลไม้ ขาดการออกกำลังกาย มีน้ำหนักเกิน หรือกลุ่มคนที่มีฮอร์โมนผิดปกติ เช่น ประจำเดือนมาตั้งแต่อายุน้อย หรือผู้ที่มีอายุมากกว่า 55 ปี ที่หมดประจำเดือนและกินฮอร์โมน หรือสตรีที่มีญาติพี่น้องสายตรงเป็นมะเร็งเต้านม มะเร็งรังไข่ และมะเร็งชนิดอื่นๆ รวมถึงสตรีอายุตั้งแต่ 20-30 ปี ก็พบได้บ่อยเช่นกัน ผู้ป่วยมักมาด้วยอาการมีก้อนและแผลที่เต้านม หรือมีเลือดหรือน้ำเหลืองไหลจากหัวนม
          สำหรับการป้องกันมะเร็งเต้านม นพ.สุรวิทย์ อธิบายว่า วิธีที่ง่ายที่สุดคือ ออกกำลัง
กายอย่างสม่ำเสมอ 5 วัน ต่อสัปดาห์ วันละ 30 นาที ถึง 1 ชั่วโมง กินผักและผลไม้
ให้มากขึ้น ลดอาหารประเภทไขมันและเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ส่วนการป้องกันที่ดีที่สุดคือ การตรวจคัดกรองตั้งแต่ระยะเริ่มแรก ซึ่งทำได้ 2 วิธีคือ การตรวจเต้านมด้วยตัวเอง โดยเฉพาะสตรีที่มีอายุ 20 ปีขึ้นไปควรตรวจเป็นประจำทุกเดือน การตรวจด้วยตัวเอง
          เฉพาะสตรีที่มีอายุ 20 ปีขึ้นไปควรตรวจเป็นประจำทุกเดือน การตรวจด้วยตัวเองสามารถคลำก้อนเนื้อความผิดปกติบริเวณเต้านมได้ หากให้ได้ประสิทธิภาพต้องตรวจด้วยเครื่องเอกซเรย์เต้านมแมมโมกราฟี ซึ่งมีค่าใช้จ่ายสูงพอสมควร
          ดร.นพ.สมยศ ดีรัศมี ประธานมูลนิธิกาญจนบารมี และอธิบดีกรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุข กล่าวว่า โครงการฯ จะจัดหน่วยคัดกรองมะเร็งเต้านมเคลื่อนที่ออก
          เป็น 5 หน่วย ครอบคลุมทุกภาคทั่วประเทศ แต่ละหน่วยประกอบด้วยรถเคลื่อนที่ 4 คัน ได้แก่ รถประชาสัมพันธ์, รถนิทรรศการเคลื่อนที่ให้ความรู้, รถสอนการตรวจเต้านมด้วยตัวเอง โดยมีแพทย์และเจ้าหน้าที่สาธารณสุขให้คำแนะนำอย่างใกล้ชิด และรถเอกซเรย์เต้านมเคลื่อนที่ ซึ่งในรายที่มีปัจจัยเสี่ยง หรือสงสัยจะเป็นมะเร็งเต้านม และที่ด้อยโอกาสจะได้รับการตรวจด้วยเครื่องเอกซเรย์เต้านม โดยไม่เสียค่าใช้จ่าย หากพบว่าเป็นมะเร็งเต้านมจะส่งต่อเข้ารักษาในโรงพยาบาลจังหวัดนั้นๆ ในระบบหลักประกันสุขภาพ ซึ่งมีเป้าหมายเอกซเรย์เต้านมในสตรีกลุ่มเสี่ยงและด้อยโอกาส  2.5 แสนราย ภายในเวลา 5 ปี จะเริ่มดำเนินการตั้งแต่เดือน ม.ค. 2556-เดือนธ.ค. 2560
          นอกจากนี้ภายในงานยังได้เปิดตัวพรีเซ็นเตอร์โครงการฯ "ตั๊ก-มยุรา เศวตศิลา" เพื่อร่วมรณรงค์ให้สตรีไทยตระหนักถึงการป้องกันมะเร็งเต้านม และเชิญชวนให้ประชาชนทั้งประเทศร่วมบริจาคสมทบทุนโครงการฯ ผ่านธนาคารต่างๆ อาทิ บัญชีออมทรัพย์ ธ.กรุงเทพ สาขาแคราย ชื่อบัญชี มูลนิธิกาญจนบารมี (คัดกรองมะเร็งเต้านมเคลื่อนที่) เลขที่ 188-078577-7และบัญชีเผื่อเรียก ธ.ออมสิน สาขาแคราย ชื่อบัญชีมูลนิธิกาญจนบารมี (คัดกรองมะเร็งเต้านมเคลื่อนที่) เลขที่ 02-0071-81-7553 หรือผ่านการอุดหนุนเสื้อของโครงการฯ โทร. 0-2591-8185-6.