เอ็มเอสคือกลุ่มอาการของโรคที่เป็นสาเหตุของการแข็งตัวไม่ดีหรือแข็งไม่นานพอนำด้วยเบาหวานและคณะ ในปัจจุบันนี้ระดับน้ำตาลในเลือด ถือว่าเป็นดัชนีสุขภาพที่สำคัญ อันเนื่องมาจากการบริโภคอาหารของคนเราเปลี่ยนแปลงไปในทิศทางที่ก่อให้เกิดพลังงานส่วนเกินเพิ่มมากขึ้น รวมไปถึงขาดการออกกำลังกายทำให้อัตราการเป็นเบาหวานของประชากรทั่วโลกเพิ่มสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว ในวงการแพทย์ถือว่าโรคเบาหวานเป็นโรคที่เทียบเท่ากับโรคหัวใจและหลอดเลือด เพราะเมื่อเป็นโรคหนึ่งแล้วมักจะเป็นอีกโรคหนึ่งตามมาด้วยเสมอ นอกจากนี้แล้วเมื่อน้ำตาลในเลือดสูงอยู่เป็นเวลานาน ก็มักจะมีโรคแทรกซ้อนต่ออวัยวะต่าง ๆ เช่น ตา ไต หัวใจ ระบบหลอดเลือดของปลายขาและระบบประสาทได้ การควบคุมเบาหวานจึงกลายเป็นสิ่งสำคัญอย่างมากในการดูแลสุขภาพของคนทั่วไป โดยเฉพาะอาการอ่อนตัวจากสมรรถภาพทางเพศอ่อนแอ มาจากอาการเอ็มเอส ทั้งนั้น ได้แก่ เบาหวาน ไขมันสูง น้ำหนักเกิน ฮอร์โมนชายต่ำ ความดันสูง
          คนทั่วไปมักจะคิดว่าการควบคุมเบาหวาน ก็คือการควบคุมระดับน้ำตาลในเลือดซึ่งก็ไม่เพียงพอและเป็นการปฏิบัติไม่ถูกต้อง ส่งผลให้ระดับน้ำตาลในเลือดยังคงสูงอยู่ การควบคุมเบาหวานให้ได้ดีจะต้องประกอบไปด้วย
          1. การควบคุมระดับน้ำตาลในเลือด ให้ระดับน้ำตาลในเลือดเวลาเข้าหลังอดอาหารอย่างน้อย 8 ชั่วโมงอยู่ในช่วง 70-130 มิลลิกรัม/เดซิลิตร ระดับน้ำตาลในเลือดหลังมื้ออาหาร 2 ชั่วโมง ควรน้อยกว่า 180 มิลลิกรัม/เดซิลิตร และระดับน้ำตาลสะสมเฉลี่ย (HbA1C) ควรน้อยกว่า 7%
          2. การควบคุมน้ำหนักให้อยู่ในเกณฑ์ที่เหมาะสม โดยดูที่ค่าดัชนีมวลกาย (BMI) โดยคำนวณจากน้ำหนักตัวเป็นกิโลกรัม หารด้วยความสูงเป็นเมตรสองครั้ง คนปกติจะอยู่ที่ 18.5-22.9 หากผู้ที่เป็นเบาหวานมีค่าดัชนีมวลกายมากกว่าหรือเท่ากับ 23 อาจจะทำให้เกิดภาวะดื้อต่ออินซูลิน ทำให้อินซูลินทำงานได้ไม่เป็นปกติ หากน้ำหนักตัวลดลง การทำงานของอินซูลินจะดีขึ้น ช่วยให้การควบคุมระดับน้ำตาลในเลือดได้ดี
          3. ควบคุมความดันโลหิต คือค่าความดันโลหิตตัวบนควรมีค่าน้อยกว่า 130 มิลลิเมตรปรอทและค่าความดันโลหิตตัวล่างควรมีค่าน้อยกว่า 80 มิลลิเมตรปรอท ซึ่งจะทำให้การทำงานของไตดีขึ้น
          4. ควบคุมระดับไขมันในเลือด ในผู้เป็นเบาหวานมักจะมีความผิดปกติของไขมัน คือ ไตรกลีเซอไรด์สูง ไขมันไม่ดี แอลดีแอล (LDL-C) สูงและไขมันดีเอชดีแอล (HDL-C) ต่ำ ทำให้เกิดความเสี่ยงต่อการเกิดโรคหลอดเลือดหัวใจตีบตัน และโรคกล้ามเนื้อหัวใจวายได้ ดังนั้นการควบคุมไขมันในเลือดของผู้เป็นเบาหวานควรให้ได้ตามเกณฑ์ดังนี้ ระดับไตรกลีเซอไรด์ควรน้อยกว่า 150 มิลลิกรัม/เดซิลิตร ระดับไขมันไม่ดี แอลดีแอล (LDL-C) ควรน้อยกว่า 100 มิลลิกรัม/เดซิลิตร และระดับไขมันดี เอชดีแอล (HDL-C) ในผู้ชายควรมากกว่า 40 มิลลิกรัม/เดซิลิตร ในผู้หญิงควรมากกว่า 50 มิลลิกรัม/เดซิลิตร
          5. ฮอร์โมนชายจะลดลงในกรณีคนไข้เป็นเบาหวานและเนื่องจากเบาหวานสูงก็เป็นหนึ่งในคณะเอ็มเอสโรคนกเขาไม่สู้จึงเป็นกลุ่มอาการของโรคเป็นอาการป่วยของคนไข้คนหนึ่ง
          ดังนั้นชายที่ต้องการรักษาอีดีก็คือชายคนป่วยเอ็มเอสนั่นเองไม่ใช่ชายเจ้าชู้อย่างที่เข้าใจกัน ที่ต้องการรักษาสุขภาพเป็นเพราะเขาต้องการรักษาโรคเอ็มเอสและคณะทั้ง 5 นี่เอง ชายนั้นป่วยอยู่ต้องรักษาจึงไม่ใช่เรื่องน่าอายที่คนป่วยจะพบรักษากับแพทย์ ไม่ต้องปกปิดเช่น 10 ปีก่อน ผลการฟื้นฟูและรักษา ช่วยต่ออายุให้ยืนและช่วยสมรรถภาพทางเพศโดยตรงก็น่าจะอดทนรักษาให้ถูกวิธี
          ท่านใดที่มีปัญหาสมรรถภาพทางเพศที่จะต้องขอถามหรือขอคำแนะนำปรึกษาให้โทรฯ ได้ที่เบอร์ 08-1133-3068, 08-4636-2789 และ 08-1814-5441 เว็บไซต์ www.meetdoctoro.com หรือส่งจดหมายที่ ตู้ ป.ณ. 1812 บางรัก กท. 10500 พร้อมเบอร์โทรฯ ที่จะติดต่อได้.